หมวดหมู่: บทวิเคราะห์
May
บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน At The Open
 
Market summary
          เมื่อวานที่ผ่านมา SET แกว่งตัวในกรอบแคบด้วยมูลค่าซื้อขายที่เบาบาง โดยหุ้นกลุ่มธนาคารเผชิญกับแรงขายนำโดย KBANK, BBL, SCB คาดเป็นผลจาการรายงานตัวเลข GDP ไตรมาส 3 ที่ต่ำกว่าคาด ในขณะที่หุ้นกลุ่มโรงกลั่นอย่าง TOP, SPRC โดนแรงขายเช่นกัน ณ.สิ้นวัน SET ปิดที่ 1,636.4 จุด   (+1.4 จุด) ด้วยมูลค่าการซื้อขายราว 2.9 หมื่นล้านบาท  ลดลงเมื่อเทียบกับวันก่อนหน้าที่ 3.7 หมื่นล้านบาท   
          นักลงทุนต่างชาติกลับมาซื้อหุ้นไทยอีกครั้งที่ 469 ล้านบาท พร้อมเปิดสถานะ Long SET50 index future สุทธิ 3,169 สัญญา   
 
Investment theme
          เริ่มเห็นผลกระทบจากสงครามการค้าผ่านการส่งออกไทยที่ลดลง  จับตาโอกาสธปท.พิจารณาเลื่อนขึ้นดอกเบี้ย :  เมื่อวานที่ผ่านมาสภาพัฒน์รายงานตัวเลขอัตราการเติบโตเศรษฐกิจไทยไตรมาส 3 ต่ำกว่าคาด ที่ 3.3% (คาด 4.2%) ต่ำสุดในรอบ 7 ไตรมาส ภาพรวม 9เดือน เติบโต 4.3% โดยปัจจัยที่ส่งผลให้ GDP ต่ำกว่าคาดได้แก่ภาคการส่งออกลดลงจากไตรมาสก่อนเหลือ 2.6% (จาก 12.3% ในไตรมาสก่อน) และภาคการท่องเที่ยวที่ชะลอตัว 2.7% เป็นผลให้ดุลบัญชีเดินสะพัดลดลงจากปีก่อนที่ 11% เหลือ 3.4% /GDP ซึ่งในระยะกลางอาจเป็นปัจจัยให้ค่าเงินมีความผันผวนสูงขึ้น (ไม่ดีต่อการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง) อย่างไรก็ตาม Domestic ยังคงเติบโตดี โดยการบริโภคในประเทศยังเติบโตต่อเนื่องที่ 5.0% สูงสุดในรอบ 22 ไตรมาส (ขยายตัวทั้งสินค้าคงทน, กึ่งคงทนและไม่คงทน) ในขณะที่ภาคลงทุนเติบโต 3.9% (ขยายตัวติดต่อกันเป็นไตรมาสที่ 4)  โดยสรุปเราประเมินว่า 1) ยังคงแนะนักลงทุนระมัดระวังเศรษฐกิจชะลอตัว เนื่องการส่งออกคิดเป็นสัดส่วนสูงกว่า 60% อย่างไรก็ตาม  2) กลุ่มอิงการบริโภคในประเทศยังสามารถลงทุนได้ เช่น กลุ่มค้าปลีกและก่อสร้าง 3)จับตา ธปท.มีโอกาสยังไม่ขึ้นดอกเบี้ยในเดือน ธ.ค.นี้ 
          Investment Theme:  สัปดาห์นี้ประเมินกรอบ SET 1,620-1,650 จุด คงคำแนะนำถือเงินสดไม่ต่ำกว่า 40% พร้อมเลี่ยงการลงทุนในกลุ่มอสังหา, โรงกลั่น , TV-Digital และทยอยสะสมหุ้น Defensive และ Downside จำกัด นำโดย EGCO และทยอยสะสม BEM
 
Big issue
          เมื่อคืนที่ผ่านมา สภาพัฒน์รายงานตัวเลข GDP ไตรมาส 3 ต่ำกว่าคาดที่ 3.3%  โดยคาดทั้งปีโตที่ 4.2% , พร้อมปรับเป้าการส่งออกเหลือ 7.2% จาก 10%  /  EU สนับสนุนฝรั่งเศสคว่ำบาตรอิหร่าน
 
Stock pick :  -
          Trading idea - ทยอยสะสมหุ้น Defensive นำโดย EGCO เราประเมิน Downside จำกัด ในขณะที่โครงการที่เกาหลีคิดเป็นมูลค่าเพิ่มอีกถึง 14.0บาท (จากระดับ 259.0 บาท)
 
Technical View
          แรง Rebound ยังไม่แข็งแกร่ง, ยังคงแนวโน้มขาลง มองแนวรับถัดไป 1620:  ดัชนีแกว่ง Sideway ในกรอบแคบ หุ้นในกลุ่มค้าปลีกและสื่อสารที่มีแรงขายหนักในวันก่อนหน้าเริ่มมีแรงซื้อกลับเล็กน้อย ทำให้ระหว่างวันเริ่มมีแรง Rebound แต่ยังมองว่าไม่แข็งแกร่งมากพอ จึงยังคงมองว่าดัชนีมีแนวโน้มปรับตัวลต่อ มองแนวรับถัดไปที่ 1620 และ 1600 ตามลำดับ สำหรับนักลงทุนที่ยังไม่มีหุ้นแนะนำให้ชะลอการเก็งกำไรจนกว่าดัชนีจะเริ่มหยุดลงหรือ Rebound อย่างมีนัยยะ หรือหากยังมีหุ้นจังหวะ Rebound ระหว่างวันยังมองเป็นโอกาสขายเพื่อลดพอร์ตการลงทุน
          กลยุทธ์การลงทุน 1) มีหุ้น: จังหวะ Rebound ระหว่างวันมองเป็นโอกาสขายเพื่อลดพอร์ต หรือหากหลุด Low 1630 แนะนำ Stop Loss  2)  ไม่มีหุ้น: แนะนำรอดูแนวโน้มที่แนวรับถัดๆไปจนกว่าดัชนีจะเริ่มหยุดลงหรือ Rebound อย่างมีนัยยะ
          แนวรับ : 1620, 1630 แนวต้าน : 1640, 1645
 
Keep an eye on…
          ปัจจัยต่างประเทศ:  จับตา EC พิจารณางบขาดดุลอิตาลี -
          ปัจจัยในประเทศ:   
 
หุ้นเทคนิค:
          CKP  (B 5.00-5.10, Tp 5.30//5.45, Cut 4.90)
          HMPRO (B 14.40-14.80, Tp 15.50//16.00, Cut 14.20)
          
ข่าวเด่นเช้านี้
 
BTS-CP ฉลุยผ่านซองคุณสมบัติ ไฮสปีดเทรน 3 สนามบิน เปิดซองราคาธ.ค.นี้ (ข่าวหุ้น)
          "ร.ฟ.ท." เปิดซองคุณสมบัติรถไฟความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบิน เผย 2 บิ๊กเนม "BTS-CP" ควงคู่ผ่านฉลุย เตรียมเข้าแข่งซองเทคนิค พร้อมเปิดซองราคาธ.ค.นี้
          ความเห็น : โครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน มูลค่าลงทุน 2.2 แสนล้านบาท  คืบหน้าตามแผน  ซึ่ง 2 กลุ่ม คือ BSR (BTS+STEC+RATCH) และ กลุ่ม CP (เจริญโภคภัณฑ์โฮลดิ้ง+BEM+CK+ITD+CRCC) ผ่านคุณสมบัติ  และจะใช้เวลาพิจารณาเทคนิค 3 สัปดาห์ ก่อนเปิดข้อเสนอซองที่ 3 ราคาในเดือน ธ.ค. นี้ และ ทำการต่อรองอีก 2 สัปดาห์   นอกจากนี้โครงการ EEC อีก 4 โครงการ 4.7 แสนล้านบาทกำลังทยอยประมูล กลุ่มรับเหมาก่อสร้าง เราแนะนำ เก็งกำไรใน STEC (เป้าหมาย 29 บาท) และ CK (เป้าหมาย 31 บาท)
 
'ปตท.สผ.'เล็งซื้อกิจการเพิ่ม (กรุงเทพธุรกิจ)
          ศึกษาแหล่งสำรวจในเอเชีย วางงบโครงการละ 500-1,000 ล้านดอลล์ "ปตท.สผ." เล็งซื้อ กิจการแหล่งสำรวจในเอเชียเพิ่ม หวังเพิ่มปริมาณสำรอง ตั้งงบลงทุนไว้โครงการละ 500-1,000 ล้านดอลลาร์ พร้อมเล็งต่อยอดธุรกิจโรงไฟฟ้าก๊าซใน เมียนมา-มาเลเซีย
          ความเห็น : เรายังไม่มีรายละเอียดของโครงการที่จะลงทุนเพิ่มจึงยังต้องรอข้อมูลเพิ่มเติมการประเมินมูลค่าต่อไป เราได้รวมมูลค่าเพิ่มจากการซื้อสัดส่วน 22.2% ในแหล่งบงกชไปแล้ว ขณะที่การลงทุนโครงการ Gas to Power ในเมียนมา และมาเลเซีย เป็นโครงการอยู่ระหว่างการเจรจากับรัฐบาลของประเทศนั้นๆ โดยอาจร่วมมือกับ GPSC ที่เป็นแกนนำของกลุ่มในธุรกิจไฟฟ้า เบื้องต้นคาดกำลังผลิตประมาณ 300-350 MW ในเมียนมา เรายังไม่รวมโรงการเหล่านี้ในประมาณการ อย่างไรก็ตามเชื่อว่าจะมีโอกาสประกาศโครงการซื้อกิจการเร็วๆ นี้ แนะนำ Trading Buy ราคาเป้าหมาย 160 บาท เทคนิคแกว่งสร้างฐาน ไม่ควรหลุดเส้น EMA 200 วันที่ 131.5 บาท
 
GPSC ยื่นอุทธรณ์กรณีห้ามซื้อ GLOW นำเสนอข้อมูลใหม่ (ทันหุ้น)
          GPSC ยื่นอุทธรณ์มติ กกพ.กรณีห้ามซื้อ GLOW พร้อมตอบทุกข้อกังวล อิงหลักมาตรฐานปฏิบัติสากล โดยเฉพาะด้านการปฏิบัติต่อลูกค้าอย่างเป็นธรรม โปร่งใส ไม่ผูกขาด สร้างประโยชน์สูงสุดต่อสังคม
          ความเห็น :  ยังคงต้องรอความเห็นจาก กกพ ซึ่งคาดจะใช้เวลา 30 วัน และอาจต่อเวลาไปได้อีก 30 วัน จากวันที่ยื่นอุทธรณ์วันที่ 12 พ.ย. 2561 แม้ประเด็นนี้อาจทำให้เกิดความไม่ชัดเจนต่อการเติบโตของ GPSC อย่างไรก็ตาม เราเชื่อว่าบริษัทได้พิจารณาการเติบโตจากส่วนอื่นๆ ควบคู่ไปด้วยอยู่แล้ว ขณะที่การซื้อ GLOW ได้หรือไม่ ไม่ส่งผลกระทบต่อมูลค่าของ GPSC  แนะนำ Trading Buy ราคาเป้าหมาย 66 บาท แกว่ง sideway ในกรอบ 53-58 บาท  
 
MAJOR รายได้ชนหมื่นล.ทุ่ม 800 ล. เพิ่มสาขาใหม่ (ทันหุ้น)
          MAJOR ตั้งเป้ารายได้ปี 2562 โต 10-15% อัดฉีดงบลงทุน 700-800 ล้านบาท เพิ่มสาขา 74 สาขาทั้งในและต่างประเทศ คาดแตะ 1,000 สาขา ในปี 2563 ส่วนภาพรวมปีนี้มั่นใจโต 5-10% ทะลุ 1 หมื่นล้านบาท มองทิศทางไตรมาส 4/2561 พุ่ง รับอานิสงส์หนังใหญ่ทยอยเข้าฉายเพียบ
          ความเห็น :  MAJOR ยังเน้นเปิดสาขาในต่างจังหวัดซึ่งจะสนับสนุนให้รายได้จากหนังไทยเพิ่มขึ้น คาดกำไร 4Q61 เติบโตทั้ง QoQ และ YoY จากหนังหลายเรื่องทำรายได้ค่อนข้างดีโดยเฉพาะเรื่อง นาคี 2 แนะนำ ซื้อ ราคาเป้าหมาย 30 บาท เทคนิคแนวรับ 21.9 ต้าน 23 บาท
 
'MINT' ดีลซื้อกิจการต่อ 'NH Hotel' หนุนปี 62 พุ่ง (ทันหุ้น)
          MINT จ่อชงบอร์ดทบทวนแผน 5 ปีใหม่ (ปี 2562-2566) ภายในปีนี้ จากเดิมคาดกำไรจะโตเฉลี่ยปีละ 15-20% คาดทั้งปีอัตราการเข้าพักเฉลี่ยเกือบ 70% ขณะที่ดีลซื้อกิจการต่อเนื่อง เผยรวมงบของ NH Hotel เข้าในไตรมาส 4 นี้ ส่งผลให้ D/E ต่ำกว่า 1.75 เท่า ฟากโบรกคาดผลงานไตรมาส 4/2561 ฟื้นตัว เข้าช่วงไฮซีซัน ประเมินราคาเหมาะสม 48.50 บาท
          ความเห็น : ภายหลังจาก tender offer MINT ถือหุ้นใน NH Hotel 94% ซึ่งทำให้ MINT สามารถรวมงบของ NH Hotel เข้ามาได้ เบื้องต้นเราคาดว่า D/E จะอยู่ในระดับ 1.9 เท่า อย่างไรก็ตาม MINT จะต้องทำให้ D/E ลงมาต่ำกว่า 1.75 เท่าซึ่งเท่ากับข้อตกลงทางการเงินที่ MINT มีให้ต่อเจ้าหนี้ โดย MINT อาจจะเลือกวิธีบันทึกกำไรจากเงินลงทุน NH Hotel ภายหลังการประเมินมูลค่า หรือออก perpetual bond รอบที่สอง ทั้งนี้เรายังอยู่ระหว่างปรับประมาณการกำไรและราคาเหมาะสม เทคนิคแกว่งลง แนวรับ 34 ต้าน 38 บาท
          นักวิเคราะห์ : สรพล วีระเมธีกุล / วิจิตร อารยะพิศิษฐ / จรูญพันธ์ วัฒนวงศ์ 
          Research Department Tel. 02-658-5000

ooKbee1

corehoon NEW2

 

 

ข่าวล่าสุด!!