หมวดหมู่: บทวิเคราะห์
May
บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน At The Open
 
กลยุทธ์การลงทุนรายวัน
 
Market Summary
          เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา SET เผชิญกับแรงขายทำกำไรสูง นำโดยกลุ่มการเงินอย่าง SAWAD, MTC และหุ้นขนาดกลางหลายตัวนำโดย CBG, PRM ณ. สิ้นวัน SET ปิดที่ 1,650.6 จุด (-14.4 จุด) ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 5.9 หมื่นล้านบาท (จากวันก่อนที่ 6.3 หมื่นล้านบาท) 
          นักลงทุนต่างชาติขายหุ้นไทยที่ 2025 ลบ. (สถาบันขายสุทธิ 30 ลบ.) แต่กลับมาเปิดสถานะ Long SET50 index future สุทธิที่ 3,949 สัญญา
 
Investment Theme
          ตลาดหุ้นทั่วโลกผันผวน  / SET ขาดปัจจัยสนับสนุน : หนึ่งในตัวแปรกำหนดทิศทางตลาดหุ้น Emerging market ในระยะสั้นหนีไม่พ้น การกำหนดค่ากลางเงินหยวน ที่ล่าสุดมากำหนดไว้ที่ 7.021 ถึงแม้จะต่ำกว่าที่ตลาดประเมินที่ 7.033 แต่ยังถือเป็นระดับอ่อนค่าอย่างต่อเนื่องที่สุดในรอบ 11 ปี ถึงแม้เราจะประเมินว่าสหรัฐมีข้อได้เปรียบอ่อนๆ ทางสงครามการค้า และจีนได้เปรียบในเชิงค่าเงิน อย่างไรก็ตาม หากจีนจงใจจะปล่อยค่าเงินให้อ่อนค่าไปเรื่อยๆ ในระยะยาวจะส่งผลเสียอย่างมีนัยยะต่อทุนสำรอง (ก.ค. เริ่มลดลงกว่า 1.5 หมื่นล้านเหรียญ) เชิงกลยุทธ์เราประเมินว่าตลาดหุ้นอาจกลับมาเกิด Technical rebound หากว่า PBoC ปรับลดค่ากลางเงินหยวนกลับมาต่ำกว่า 7.0 และในเชิงสัญลักษณ์แสดงถึงการพยายามกลับมาเปิดทางการเจรจาการค้าครั้งที่ 14 ที่สหรัฐในช่วงต้นเดือนก.ย.อีกครั้ง อย่างไรก็ตาม     กลยุทธ์การลงทุนสัปดาห์นี้เราประเมินว่า SET Index จะยังคงเผชิญกับแรงกดดันทั้งจากปัจจัยต่างประเทศและการรายงานผลประกอบการ 2Q19 ที่เบื้องต้นออกมาต่ำกว่าตลาดประเมินโดยเฉพาะกลุ่ม Global play อย่าง ปิโตรเคมี และโรงกลั่นและอื่นๆ ทำให้ล่าสุด EPS ของ SET ถูกปรับลดลงเหลือ 102.7x ต่ำที่สุดของปี
          Investment Theme : ภายหลัง SET หลุดแนวรับสำคัญบริเวณ 1,670 จุด เราแนะนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้ต่ำชะลอการลงทุน เพื่อรอดูผลของการเจรจาสงครามการค้าและการประชุม FED ในช่วงเดือนก.ย. โดยประเมินแนวรับที่บริเวณ 1,630 จุด 
 
Big Issue
 
เมื่อคืนที่ผ่านมา :  
          - สนามบินฮ่องกงสั่งยกเลิกเที่ยวบิน
          - ค่าเงิน Peso อาร์เจนติน่าอ่อนตัวที่ 25% หลังการเลือกตั้งในประเทศผิดคาด 
 
Eyes on
 
ปัจจัยต่างประเทศ :
          -
 
ปัจจัยในประเทศ :
          -
 
Technical View
 
SET
          แนวรับ : 1630, 1640 
          แนวต้าน : 1660, 1670
 
          SET Index : คาดปรับตัวลงทดสอบแนวรับ 1630 หากหลุดจะเป็นขาลงรอบใหม่ ดัชนีแกว่ง Sideway Down ตลอดทั้งวัน จากแรงขายหุ้นกลุ่มพลังงาน เช่าซื้อ ขนส่งและอาหาร ทำให้ดัชนีกลับมาปิดที่แนวรับ 1650 ด้วยแท่งเทียนแดงเต็มแท่ง ทำให้ขณะนี้มองว่าดัชนีมีโอกาสปรับตัวลงต่อ โดยมองแนวรับสำคัญที่ 1630 ซึ่งเป็นแนวรับเส้น Uptrend ระยะยาว หากหลุดแนวรับนี้ดัชนีจะเป็นขาลงรอบใหม่
 
กลยุทธ์การลงทุน
          มีหุ้น: หากหลุด 1650 แนะนำ Stop Loss แต่หาก Rebound ยังเน้นขายหุ้นเพื่อถือเงินสดให้มากขึ้น
          ไม่มีหุ้น: รอดูแนวโน้มจนกว่าดัชนีจะเริ่มหยุดลงหรือมีแรง Rebound ที่ชัดเจนกว่านี้
 
Tiger Picks : 
 
          SABINA  : ซื้อ
          แนวรับ : 27.50-28.50
          แนวต้าน : 30.00/32.00
          ตัดขาดทุน : 27.00
 
          VGI : ซื้อ
          แนวรับ : 9.40-9.60
          แนวต้าน : 10.00/10.50
          ตัดขาดทุน : 9.30
 
ข่าว เด่น พร้อมคำแนะนำ 
 
MCS
          งานต่างแดน หนุนกำไรโดดเด่น เดินเกมปั๊มมาร์จิ้น (ทันหุ้น)
          ความเห็น : ดังนั้น ตั้งแต่ต้นปี MCS มีการเซ็นสัญญางานใหม่แล้ว 5 โครงการ  รวมทั้งหมด 81,823 ตัน  เทียบกับ Backlog สิ้นปีประมาณ 3 หมื่นล้านบาท  และ ปีนี้ตั้งเป้าหมายจะได้งานอย่างน้อย 1 แสนตัน  คาด ครึ่งปีหลังคาดกำไรจะพุ่งขึ้นมากกว่า 100 ล้านบาท ต่อไตรมาส เพราะจะเริ่มรับรู้งานใหม่จากญี่ปุ่นซึ่งมีกำไรดี  หุ้นปันผลเด่น คงแนะนำ ซื้อ เป้าหมาย 10 บาท
 
รับเหมา
          จีนบุก-รับเหมาไทยวุ่น    (ข่าวสด)
          ความเห็น : กลุ่มรับเหมาก่อสร้างเผชิญกับการเข้ามาแข่งขันจากบริษัทรับเหมาจากจีนมากขึ้น  แต่คาดภาครัฐบาลจะเร่งผลักดันโครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานมากขึ้น  เราให้น้ำหนักกลุ่มรับเหมาก่อสร้างเท่าตลาด  สำหรับหุ้นทีเราแนะนำเก็งกำไรในกลุ่ม คือ CK (เป้าหมาย 31 บาท) และ STEC (เป้าหมาย 29 บาท)
 
PTT
          สวนกระแส!เล็งซื้อ เหมืองถ่านหินอินโดฯเพิ่ม (ข่าวหุ้น)
          ความเห็น : เรายังไม่มีข้อมูลที่ชัดเจนต่อประเด็นข่าวความสนใจซื้อเหมืองถ่านหินเพิ่มเติม ขณะที่แผนกลยุทธ์ในธุรกิจถ่านหินที่ผ่านมาอยู่รหว่างการพิจารณาหลายแนวทาง ได้แก่ หาพันธมิตรร่วมลงทุน นำ SAR เข้าจดทะเบียน (IPO) รวมถึงการขายออก ในมุมมองของเราแนวโน้มธุรกิจถ่านหินยังถูกกดดันจากการเติบโตในระยะยาวที่มีความเสี่ยง จากการความต้องการใช้ที่ลดลง ขณะที่กลุ่มธุรกิจก๊าซฯ ดูมีความน่าสนใจมากกว่า ซึ่งเป็นธุรกิจหลักของ PTT แนะนำ ทยอยสะสม สำหรับการลงทุนระยะยาว ราคาเป้าหมาย 52 บาท
 
TU
          เดินหน้าออกสินค้าใหม่ ทุ่ม 24 ล้านเหรียญฯ สร้างโรงกลั่นน้ำมัน(ข่าวหุ้น)
          ความเห็น : การออกสินค้าใหม่ช่วยขยายฐานลูกค้าและเพิ่มอัตรากำไร สนับสนุนการเติบโตระยะยาว ส่วนโรงกลั่นน้ำมันปลาทูน่าซึ่งถูกไฟไหม้จะมีการก่อสร้างใหม่คาดใช้เวลา 1-1.5 ปี แนะนำ ซื้อ ราคาเป้าหมาย 22.80 บาท
 
          นักวิเคราะห์ : สรพล วีระเมธีกุล / วิจิตร อารยะพิศิษฐ 
          Research Department Tel. 02-658-5000

ooKbee1

corehoon NEW2

 

 

ข่าวล่าสุด!!