หมวดหมู่: บล.

TISCOคมศร3


กูรูทิสโก้ชี้ ‘หุ้น’ อาจถูกเทขายอีกระลอก
หาก Fed ไม่ลดดอกเบี้ยอย่างต่อเนื่องตามที่นักลงทุนคาด 

          TISCO ESU ชี้ Fed ไม่ส่งสัญญาณลดอัตราดอกเบี้ยต่อเนื่องตามที่ตลาดคาด ชี้ตลาดอาจผิดหวังจนเทขาย “หุ้น” อีกระลอก แนะเลี่ยงลงทุนหุ้นตลาดเกิดใหม่ เน้นลงทุน ทองคำ, REIT และ เฮลธ์แคร์

          นายคมศร ประกอบผล หัวหน้าศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจและกลยุทธ์ทิสโก้ (Mr.Komsorn Prakobphol, Head of Economic Strategy Unit, TISCO Economic Strategy Unit : TISCO ESU) เปิดเผยว่า แม้ว่าการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินสหรัฐฯ (FOMC) รอบล่าสุด จะมีมติ 7 ต่อ 3 ให้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 25bps เป็น 1.75%-2.00% ตามที่นักลงทุนคาด ซึ่งนับเป็นการลดดอกเบี้ยเป็นครั้งที่ 2 (ครั้งแรกในการประชุมปลายเดือน ก.ค.) 

          แต่สิ่งที่น่ากังวล คือ Fed ไม่ส่งสัญญาณลดอัตราดอกเบี้ยอย่างต่อเนื่อง สวนทางกับความคาดหวังของนักลงทุน โดยในการแถลงข่าวนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) กล่าวย้ำว่าการลดดอกเบี้ยในครั้งนี้นั้นเป็นเพียงการปรับเปลี่ยนนโยบายในช่วงกลางวัฏจักร (Mid Cycle Adjustment) และ Fed ยังไม่มีความจำเป็นต้องลดดอกเบี้ยต่อเนื่อง ขณะที่นักลงทุนยังคาดว่า Fed จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีก 1 ครั้งในปีนี้ และอีก 2 ครั้งในปีหน้า ซึ่งในอนาคตมีความเสี่ยงอย่างมากที่นักลงทุนจะเทขายสินทรัพย์เสี่ยง หาก Fed ไม่ได้ลดดอกเบี้ยลงต่อเนื่องตามที่คาดไว้  

          “จากการคาดการณ์ดอกเบี้ยของคณะกรรมการ Fed (FOMC Median Dot Plot) ได้ส่งสัญญาณว่า Fed จะคงดอกเบี้ยที่ระดับ 1.75%-2.00% ไปจนถึงสิ้นปี 2563 สวนทางกับนักลงทุนในตลาด Fed Funds Futures ที่ยังมีความคาดหวังสูงว่า Fed จะลดดอกเบี้ยลงอีกอย่างต่อเนื่อง โดยนักลงทุนยังคาดว่า Fed จะลดดอกเบี้ยลงอีก 1 ครั้งในปีนี้ และอีก 1-2 ครั้งในปี 2563 ซึ่งยังมากกว่าคณะกรรมการนโยบายการเงินสหรัฐฯ ที่สนับสนุนให้ลดดอกเบี้ยลงมากที่สุดที่มองว่าจะลดดอกเบี้ยลงอีกเพียงครั้งเดียว จึงมีความเสี่ยงที่นักลงทุนอาจผิดหวังหาก Fed ลดดอกเบี้ยน้อยกว่าที่คาดไว้ และทำให้เกิดการเทขายสินทรัพย์เสี่ยงอย่าง ‘หุ้น’ อีกระลอก” นายคมศรกล่าว  

          ดังนั้น จึงแนะนำให้นักลงทุนทยอยลดความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุน โดยลดน้ำหนักการลงทุนในหุ้นตลาดเกิดใหม่ที่มีความผันผวนสูง และแนวโน้มผลประกอบการยังถูกดดันจากสงครามการค้า รวมทั้งราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่ทรงตัวอยู่ในระดับต่ำ และแนะนำให้กระจายการลงทุนไปยังสินทรัพย์ที่ได้ประโยชน์จากการอัดฉีดสภาพคล่องและการลดดอกเบี้ย เช่น  ทองคำ และ กองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (REIT) และหุ้นในกลุ่มที่ผลกำไรไม่ผันผวนไปตามเศรษฐกิจโลกมากนัก อีกทั้งมีแนวโน้มเติบโตได้ดีในระยะยาว เช่น กลุ่มเฮลธ์แคร์ (Health Care) เป็นต้น

 


AO09412

Click Donate Support Web

ais 790x90

GC 950x120

sme 720x90

banpu 720x90 new1 1

ooKbee1

corehoon NEW2

 

 

ข่าวล่าสุด!!