หมวดหมู่: บทวิเคราะห์
DBS
บล.ดีบีเอสวิคเคอร์ส : หลักทรัพย์กลุ่มที่อยู่อาศัย หุ้นกลาง-เล็กมี Theme โดดเด่นช่วงปลายปี 62
 
Special Issue
หลักทรัพย์กลุ่มที่อยู่อาศัย
หุ้นกลาง-เล็กมี Theme โดดเด่นช่วงปลายปี 62
• จับตาหลักทรัพย์ขนาดกลาง-เล็ก ที่มีเรื่องราวน่าสนใจและโดดเด่นในช่วงปลายปี 62
• ปันผลสูงมากเราจัดให้เป็น UV, NOBLE และ PF ส่วนมี Backlog มากจะเริ่มโอนมาเป็นกำไรสูงคือ CGD
• คาดว่าราคาหุ้นมีโอกาสที่จะปรับตัวขึ้นดี เมื่อมาถึงเวลาที่เห็นผลชัดเจนขึ้น
 
UV: คาดจ่ายปันผลได้สูงมากในงวด 4Q62 (สิ้นสุด ก.ย.62)
 บริษัทให้แนวทางจัดสรรเงินที่ได้จากการขายหุ้น GOLD ทั้งหมด ในการทำเทนเดอร์ ออฟเฟอร์ให้กับ FPT แบ่งออกเป็นในส่วนรองรับการจ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหุ้น ซึ่งเป็นเงินปันผลของผลการดำเนินงานงวดปี 61/62 (1 ต.ค.61-30 ก.ย. 62) จำนวน 1.9 พันล้านบาท (เป็นกำไรจากการขายหุ้น GOLD) และจะสามารถจ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหุ้นได้ราว 0.97 บาท/หุ้นและอีกส่วนหนึ่งที่จะเข้ามาเป็นเงินสดในมือราว 5.3 พันล้านบาท จะนำไปใช้เพื่อการลงทุนทั้ง REITs บริษัทลูกคือ แกรนด์ ยูนิตี้ซึ่งทำแนวสูง โรงแรม Modena ที่บุรีรัมย์ รวมทั้งเป็นกระแสเงินสดหมุนเวียนของบริษัท (Aspen)
 ผลกระทบ: เงินปันผลพิเศษที่บริษัทกล่าวสูงมากคือ 0.97 บาท ซึ่งใกล้เคียงกับที่เราคาดไว้ก่อนหน้าที่ราว 1.03บาท และมีอัตราผลตอบแทนปันผลสูง (Dividend Yield) สูงมากถึง 16.6% จากราคาปิดที่ 5.85 บาท คาดว่าราคาหุ้นจะตอบรับในทางบวกเมื่อประกาศจ่ายเงินปันผลสูงเป็นพิเศษ เราไม่ได้ทำการวิเคราะห์ (Not Rated) UV
 ความเสี่ยง: ขาดรายได้แนวราบ หลังจาก UV ขาย GOLD ไปแล้วจะขาดรายได้ในส่วนแนวราบไป ซึ่งเป็นสัดส่วนรายได้ที่มากของ UV ขณะที่การไปลงทุนใหม่ยังต้องใช้เวลากว่าจะมีรายได้และกำไรมาชดเชย
 
NOBLE: กำไรและปันผลปีนี้สูงเป็นพิเศษ มีการขายสินทรัพย์ช่วยเสริม
 กำไรในรอบ 1H62 เป็น 1,474 ล้านบาท โตก้าวกระโดด 637% y-o-y และคิดเป็น 59% จากประมาณการทั้งปี62 ของเรา
 คงคำแนะนำ ซื้อ คาดว่าปีนี้กลับมาเป็นปีทองอีกครั้ง กำไรตลอดปี 62 เพิ่มก้าวกระโดด 285% y-o-y เป็น 2.5พันล้านบาท กำหนดราคาพื้นฐานไว้ที่ 27.35 บาท ด้วย Forward P/E ปี 62 ที่เพียง 5.0 เท่า ราคาปิดมีส่วนเพิ่มได้อีก14.4% และคาดการณ์อัตราผลตอบแทนปันผลปีนี้สูงมากเป็นพิเศษคือ 9.3%
 ความเสี่ยง: คาดปี 63 กำไรกลับสู่ภาวะปกติมากขึ้น เพราะมีการขายสินทรัพย์น้อยลงแล้ว อัตรากำไรขั้นต้นปรับต่ำลง เนื่องจากปกติอัตรากำไรขั้นต้นของการขายสินทรัพย์จะสูงมาก โดยคาดว่ากำไรหลักปีหน้าลดลง 32% y-o-yเป็น 1.7 พันล้านบาท และอัตราผลตอบแทนเงินปันผลลดลงเป็น 6.3%
 
PF: กำไร 1H62 ตุนไว้ดี จึงมีโอกาสปันผลได้สูง
 ล่าสุดปรับประมาณการปีนี้และปีหน้าสูงขึ้น หลังกำไร 2Q62 ดีกว่าคาด ในอัตรา 40%/26% ตามลำดับสะท้อน 2Q62 ดีกว่าคาด สมมุติฐานที่ดีขึ้นคือ อัตรากำไรขั้นต้นคอนโด ที่ดินเปล่า รายได้อื่นๆ รวมทั้งรายการกำไรพิเศษขายสิทธิที่ดินและส่วนบวกกลับผู้ถือหุ้นส่วนน้อยที่ปรับเพิ่มขึ้น
 กำไรหลัก 1H62 เป็นสัดส่วนถึง 78% จากประมาณการปีนี้แล้ว เป็น 942 ล้านบาท เพิ่ม 326% y-o-y หลังปรับประมาณการดีขึ้น กำไรหลักปีนี้และปี 63 หากเปรียบเทียบ y-o-y จะคิดเป็นการเติบโต 286%/9% ตามลำดับ ด้านกำไรสุทธิจะคิดเป็นการเติบโต 155%/7% ตามลำดับ
 คาดการณ์อัตราผลตอบแทนปันผลปีนี้สูงคือ 9.1% เป็น 0.07 บาท สูงกว่าปี 61 ที่ 0.066 บาท ตามการเติบโตของผลกำไร จึงถือว่ามีความโดดเด่นเรื่องปันผลสูงในกลุ่มที่อยู่อาศัยในปีนี้
 คงคำแนะนำ ซื้อ กำหนดราคาพื้นฐานเป็น 1.11 บาท ด้วย P/BV ที่ 0.7 เท่า ราคาหุ้นขณะนี้ต่ำกว่าพาร์ที่ 1 บาท
 ความเสี่ยง: จากสภาพแวดล้อมกลุ่มที่อยู่อาศัยที่เป็นลบ คือ มีการใช้ LTV กำลังซื้อชะลอตามภาวะเศรษฐกิจไทยและบาทแข็ง ทำให้ต่างชาติชะลอซื้ออสังหาฯไทย จึงอาจทำให้การขายและการโอนกรรมสิทธิ์ทำได้ต่ำกว่าคาด
 
CGD: คอนโด โฟร์ซีซั่นส์ ไพรเวท เรสซิเด้นซ์ กรุงเทพ เสร็จ 4Q62 พร้อมโอน 1.6 หมื่นล้านบาท
 ก่อสร้างเสร็จ 4Q62 มี Backlog สูงมาก คอนโด โฟร์ซีซั่นส์ ไพรเวท เรสซิเด้นซ์ ติดแม่น้ำเจ้าพระยา ตั้งอยู่ถนนเจริญกรุง 64 สูง 73 ชั้น มีจำนวน 366 ยูนิต ราคาขายเฉลี่ย 3.3 แสนบาทต่อตรม.ตอนเริ่มโครงการ ปัจจุบันเป็น 3.8แสนบาทต่อตรม. มูลค่าโครงการ 21,000 ล้านบาท หลังจากใช้เวลาพัฒนาโครงการมา 9 ปี ก็จะก่อสร้างเสร็จ 4Q62นี้แล้ว ปัจจุบันขายได้ราว 80% มียอดขายรอโอน (Backlog) ประมาณ 1.6 หมื่นล้านบาท
 
 คาดว่าจะทำให้กำไร 4Q62 ฟื้นตัว บริษัทคาดว่าจะโอนกรรมสิทธิ์ได้ในปี 62 นี้ราว 8 พันล้านบาท และส่วนที่เหลืออีก 8 พันล้านบาท ก็จะไปโอนในปี 63 ยังผลให้ในเบื้องต้นคาดว่ากำไร 4Q62 จะฟื้นตัวชัดเจน จาก 1H62 ที่ยังเป็นขาดทุนสุทธิ 55 ล้านบาท เทียบ y-o-y ที่ขาดทุนสุทธิ 223 ล้านบาท เนื่องจากโครงการเดิมคือ อิลีเม้นท์ ศรีนครินทร์ได้ปิดโครงการไปในปี 61 แล้ว จึงไม่มีรายได้คอนโด แม้ 2Q62 เป็นกำไร 52 ล้านบาท แต่ก็มาจากกำไรอัตราแลกเปลี่ยนจากบาทแข็ง ขณะที่บริษัทย่อยมีการกู้ยืมเงินสกุลดอลลาร์เพื่อพัฒนาโครงการ เจ้าพระยาเอสเตท
 
 และปี 63... มีโอกาสสูงทำ New High นอกจากจะสามารถโอนได้เพิ่มในส่วนการขายที่เหลืออยู่ของคอนโด โฟร์ซีซั่นส์ฯอีก 20% เสริมจาก Backlog ก็ยังจะมีโรงแรมอีก 2 แห่ง เจาะตลาด Luxury คือ คาเพลลา กรุงเทพฯ 101 ห้องและโฟร์ซีซั่นส์ กรุงเทพฯ 300 ห้อง ซึ่งตั้งอยู่ในบริเวณเดียวกับคอนโด ก็จะเริ่มเปิดให้บริการได้ใน 4Q62 ซึ่งบริษัทคาดว่าจะมีรายได้เต็มปีที่ 2 พันล้านบาท ก็จะมาเสริมกำไรในปี 63 ได้อีก จึงคาดว่ากำไรในงวดปี 63 จะทำสถิติสูงสุดใหม่ตั้งแต่มีบริษัท
 
 ไม่ได้ทำการวิเคราะห์ (Not Rated) และมีความเสี่ยง ความเสี่ยงคือ การโอน การขายทำได้ต่ำกว่าคาด และ3Q62 ยังจะมีผลการดำเนินงานไม่สดใส เพราะไม่มีโครงการใหม่มาให้รายได้ ภาระดอกเบี้ยจ่ายที่สูงตามเงินกู้ที่มากและได้รับกำไรในสัดส่วน 70% ตามที่บริษัทถือหุ้นในโครงการ เจ้าพระยาเอสเตท ส่วนอีก 30% ถือโดย BeijingConstruction Engineering Group (BCEG)
 
นักวิเคราะห์&กลยุทธ์ : สมบัติ เอกวรรณพัฒนา : This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it.

ooKbee1

corehoon NEW2

 

 

ข่าวล่าสุด!!