แนวหน้า : นายสมหมาย ภาษี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า กระทรวงการคลังรอผลการตรวจสอบของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กรณี นายสาธิต รังคสิริ ผู้ตรวจกระทรวงการคลัง อดีตอธิบดีกรมสรรพากร ทุจริตในหน้าที่จากการขอคืนภาษีมูลค่าเพิ่มส่งออกปลอม หากป.ป.ช. มีความเห็นว่าผิดจริงก็จะส่งเรื่องมาให้กระทรวงการคลังเอาผิดทางวินัยต่อไป

      สำหรับ การอายัดทรัพย์นายสาธิต ของ ป.ป.ช. กระทรวงการคลังไม่ได้รับรายงาน หากเป็นทรัพย์สินที่ได้ไม่ถูกต้องการถูกอายัดก็ถือว่าเหมาะสมแล้ว

    "กรณีการทุจริตขอคืนภาษีมูลค่าเพิ่มส่งออกปลอม ทำให้กระทรวงการคลังเสียชื่อเสียงไปแล้ว ไม่สามารถแก้ไขอะไรได้ ตอนนี้คลังก็รอทำตามกฎหมายไม่สามารถทำเกินกว่านั้นได้" นายสมหมาย กล่าว

    ทั้งนี้ เมื้อสัปดาห์ที่ผ่านมา คณะอนุกรรมการข้าราชการพลเรือน (อ.ก.พ.) ได้มีมติไล่ออกข้าราชการระดับสูงกรมสรรพากรจำนวน 2 ราย และให้ออกจากราชการอีก 1 ราย จากที่ก่อนหน้าน้าเคยไล่ออกไปแล้ว 1 ราย ซึ่งเป็นกรณีการขอคืนภาษีมูลค่าเพิ่มส่งออกปลอม และยังมีเจ้าหน้าที่ของกรมสรรพากรอีก 14 ราย ที่ถูกตั้งกรรมการสอบวินัยร้ายแรงในเรื่องดังกล่าวแต่ยังไม่ได้สรุปผลสอบ

     ขณะที่นายสาธิต เปิดเผยถึงกรณีกระแสข่าว ที่คณะอนุกรรมการไต่สวนข้อเท็จจริงกรณีคืนภาษีมูลค่าเพิ่มกว่า 4,300 ล้านบาท ที่มีนายภักดี โพธิศิริ กรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ในฐานะประธานฯ สั่งอายัดทองคำมูลค่า 600 ล้านบาท ว่า เรื่องดังกล่าวไม่เป็นความจริง โดยยืนยันร้อยเปอร์เซ็นต์ ว่าส่วนตัวไม่เคยมีทองคำมูลค่าตามที่มีการกล่าวหา

      ทั้งนี้ กระแสข่าวที่ออกมานั้น ส่งผลกระทบทำให้เสียหายเสียชื่อเสียง และที่ผ่านมาอนุกรรมการไต่สวนฯ ไม่เคยเรียกไปสอบถามหรือชี้แจ้งข้อมูลใดๆ โดยหลังจากนี้จะสอบถามไปยังอนุกรรมการไต่สวนฯ ถึงข้อเท็จจริงและสิ่งที่เกิดขึ้นว่าเป็นข่าวได้อย่างไร หรือหากจะเชิญเข้าไปให้ข้อมูล ก็พร้อมที่จะชี้แจงข้อเท็จจริง