นายกรัฐมนตรีกล่าวสุนทรพจน์ในโอกาสเฉลิมฉลองครบรอบ 40 ปีความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-จีน

     นายกรัฐมนตรีกล่าวสุนทรพจน์ในโอกาสเฉลิมฉลองครบรอบ 40 ปีความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-จีน

     พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เปิดงานและกล่าวสุนทรพจน์ในงานพิธีเฉลิมฉลองเนื่องในโอกาสการเฉลิมฉลองครบรอบ 40 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-จีน

     วันนี้ (27 มิถุนายน 2558) เวลา 18.00 น. พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เปิดงานและกล่าวสุนทรพจน์ในงานพิธีเฉลิมฉลองเนื่องในโอกาสครบรอบ 40 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-จีน ณ ห้องรอยัลจูบิลี่ อิมแพ็ค เมืองทองธานี

       นายกรัฐมนตรีแสดงความยินดีและกล่าวว่ารู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้มาร่วมงานเฉลิมฉลองครบรอบ 40 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างราชอาณาจักรไทยและสาธารณรัฐประชาชนจีน ตลอดระยะเวลาอันยาวนานที่ผ่านมา ทั้ง 2 ประเทศ มีมิตรภาพที่ดีต่อกันเหมือนดังพี่น้องได้ร่วมมือร่วมใจในการสร้างสรรค์ประโยชน์ให้แก่กัน

     ในนามของรัฐบาลไทยและประชาชนชาวไทย นายกรัฐมนตรีแสดงความขอบคุณสถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย โดยเฉพาะท่านเอกอัครราชทูตหนิง ฟู่ขุย ที่ได้สนับสนุนการจัดงานเลี้ยงเฉลิมฉลองในค่ำคืนนี้ ตลอดทั้งได้ทำงานอย่างทุ่มเทเพื่อส่งเสริมความสัมพันธ์หุ้นส่วนเชิงยุทธศาสตร์ ที่รอบด้านระหว่างไทย-จีน จนเกิดผลเป็นรูปธรรมหลายเรื่อง

     นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับจีนมีมาอย่างยาวนาน โดยเฉพาะด้านวัฒนธรรมและสังคม มีชาวจีนอพยพเข้ามาประกอบอาชีพและอาศัยอยู่ในประเทศจำนวนมาก ซึ่งมีวิถีชีวิตและการดำเนินชีวิตที่ใกล้เคียงกัน ทำให้เกิดความเข้าใจกันได้อย่างลึกซึ้ง รวมทั้งมิตรภาพในระดับราชวงศ์ ซึ่งสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ได้เสด็จพระราชดำเนินเยือนจีนหลายครั้ง ทรงเป็นบุคคลสำคัญในการส่งเสริมและสนับสนุนความสัมพันธ์ระหว่างไทย-จีนให้มีความมั่นคงและยั่งยืนตลอดมา สิ่งเหล่านี้จึงเป็นพลังขับเคลื่อนที่สำคัญที่ทำให้ความสัมพันธ์พัฒนาไปอย่างราบรื่น แน่นแฟ้น และยั่งยืนบนพื้นฐานของความใกล้ชิดในทุกมิติ

     นอกจากนี้ จีนยังป็นมิตรที่ดีและเพื่อนบ้านที่ใกล้ชิดของไทย ความร่วมมือในช่วงเวลานี้จึงมีพลวัตรสูง โดยเฉพาะในด้านความมั่นคง ด้านเศรษฐกิจ ด้านวัฒนธรรม และการท่องเที่ยว ซึ่งปัจจุบันจีนเป็นคู่ค้าและตลาดส่งออกอันดับ 1 ของไทย อีกทั้งนักท่องเที่ยวจีนยังเดินทางมาท่องเที่ยวไทยมากถึง 4,600,00 คนและมีแนวโน้มจะมากถึง 6 ล้านคนในปีนี้

     ในช่วง 4 ทศวรรษที่ผ่านมา ได้พิสูจน์เป็นที่ประจักษ์แล้วถึงมิตรภาพที่ดีและความจริงใจระหว่างสองประเทศ โดยยังคงมีแผนงานความร่วมมือทางวัฒนธรรมระหว่างไทยกับจีน ซึ่งจะยิ่งเสริมสร้างให้ประชาชนทั้งสองฝ่ายมีความเข้าใจซึ่งกันและกัน และเป็นประโยชน์ต่อการขยายผลทางการค้าการลงทุน และการท่องเที่ยว

    ทั้งนี้ นับตั้งแต่ที่รัฐบาลได้เริ่มบริหารประเทศในช่วงเกือบ 1 ปีที่ผ่านมา ได้มีการแลกเปลี่ยนการเยือนในระดับสูงอย่างต่อเนื่องและบ่อยครั้ง โดยนายกรัฐมนตรีได้ไปเยือนสาธารณรัฐประชาชนจีนมาแล้ว 2 ครั้ง คือการเข้าร่วมการประชุมสุดยอดผู้นำเอเปค ที่กรุงปักกิ่งในเดือนพฤศจิกายน และเยือนอย่างเป็นทางการในเดือนธันวาคม การเยือนทั้งสองประสบความสำเร็จด้วยดี สองฝ่ายได้บรรลุข้อตกลงที่สำคัญหลายประการ โดยเฉพาะความร่วมมือด้านโครงสร้างพื้นฐานทางรถไฟ การค้าสินค้าเกษตร และการเงินการธนาคาร สำหรับปีนี้ นายกรัฐมนตรีได้ตอบรับที่จะเยือนจีนอีกครั้งในเดือนกันยายน เพื่อเข้าร่วมงานแสดงสินค้าจีน-อาเซียน ที่นครหนานหนิง ซึ่งจะได้หารือกับผู้นำจีนอีกครั้งเพื่อกระชับความร่วมมือระหว่างกัน

    นายกรัฐมนตรียังกล่าวอีกว่า รัฐบาลไทยมีความมุ่งมั่นในการส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับจีนใหพัฒนาก้าวหน้าและเกิดผลเป็นรูปธรรมมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะการผลักดันความร่วมมือหุ้นส่วนเชิงยุทธศาสตร์ที่มีคุณภาพและเกิดประโยชน์อย่างแท้จริงต่อประชาชนทั้งสองฝ่าย รวมทั้งความเจริญรุ่งเรืองและความมั่นคงของภูมิภาคนี้ ซึ่งไทยและจีนสามารถร่วมมือกันได้อย่างสร้างสรรค์ เช่น ในด้านวิทยาศาสตร์ได้มีการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ และการศึกษาดูงานเพื่อพัฒนาบุคลากรให้มีคุณภาพพร้อมสำหรับเป็นพลังขับเคลื่อนการพัฒนา โดยการจัดตั้งศูนย์วิจัยร่วมไทย-จีน ด้านรถไฟความเร็วสูง การร่วมพัฒนาศูนย์ให้บริการข้อมูลการสำรวจดาวเทียมระยะไกล ความร่วมมือด้านการถ่ายทอดเทคโนโลยีและการแลกเปลี่ยนนักวิทยศาสตร์รุ่นใหม่ ตลอดจนลงทุนอุตสาหกรรมพลังงานทดแทน

    ในการนี้ นายกรัฐมนตรีรู้สึกอบอุ่นเป็นอย่างยิ่งที่ได้มาร่วมงานและอยู่ท่ามกลางพี่น้องชาวไทยและชาวจีน รัฐบาลไทยได้ให้ความสำคัญกับมิตรประเทศทุกประเทศ ที่สำคัญจะต้องมีความเชื่อใจกัน และลดความหวาดระแวง โดยรัฐบาลไทยได้ตระหนักมาโดยตลอดว่าประชาชนไทยจะต้องได้รับประโยชน์จากผลของการขับเคลื่อนนโยบาย และมิตรประเทศจะต้องไม่มีความได้เปรียบเสียเปรียบระหว่างกัน ทั้งนี้จากการที่นายกรัฐมนตรีและผู้นำของจีนได้มีการพบปะ ผู้นำจีนได้ให้คำแนะนำนายกรัฐมนตรีในหลายเรื่องซึ่งนายกรัฐมนตรีได้น้อมรับไว้และจะนำมาปรับใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด โดยทุกครั้งที่นายกรัฐมนตรีไปเยือนจีนผู้นำจีนได้ฝากความระลึกถึงพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอยู่เสมอมา ซึ่งถือได้ว่าเป็นความสัมพันธ์ในระดับราชวงศ์

   โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีแสดงความยินดีต่อการครบรอบ 40 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-จีน รัฐบาลไทยมีความตั้งใจที่จะให้การจัดกิจกรรมเฉลิมฉลองในโอกาสสำคัญนี้เป็นไปอย่างกว้างขวางและครอบคลุมในทุกมิติ จึงได้แต่งตั้งคณะกรรมการเพื่อกำกับดูแลการจัดกิจกรรมเฉลิมฉลอง ซึ่งการจัดกิจกรรมของทุกภาคส่วนมีความคืบหน้าเป็นอย่างดีและน่าชื่นชมอย่างยิ่ง ซึ่งจะเป็นภาพประวัติศาสตร์ที่น่าประทับใจต่อไป

    ในตอนท้าย นายกรัฐมนตรีได้อวยพรให้งานในวันนี้ประสบผลสำเร็จ ตลอดจนขอให้ความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศก้าวสู่ทศวรรษที่ 5 บนพื้นฐานที่มั่นคง เปี่ยมด้วยมิตรภาพ อำนวยประโยชน์ต่อประชาชน ประเทศชาติ และส่งเสริมเกื้อกูลกันและกันตลอดไป ซึ่งนายกรัฐมนตรีหวังเป็นอย่างยิ่งว่าความสัมพันธ์ในด้านต่างๆจะได้รับการพัฒนาให้ก้าวหน้ายิ่งขึ้น และความสุขเช่นนี้จะมีความยั่งยืนตลอดไป

กลุ่มวิเทศสัมพันธ์ สำนักโฆษก

ฉลองครบรอบ 40 ปี ความสัมพันธ์ไทย-จีน

     นายกฯ จีน-ไทยส่งสาส์นอวยพรถึงกันเพื่อเฉลิมฉลองครบรอบ 40 ปีการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูต

     วันที่ 1 กรกฎาคมที่ผ่านมา นายหลี่ เค่อเฉียง นายกรัฐมนตรีจีนกับพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีจีนไทยได้ส่งสาส์นอวยพรถึงกันเพื่อเฉลิมฉลองครบรอบ 40 ปีการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูต

     นายหลี่ เค่อเฉียง กล่าวในสาส์นอวยพรว่า จีนกับไทยเป็นเพื่อนบ้าน มิตรและหุ้นส่วนที่ดี มิตรภาพอันยาวนานระหว่างประชาชนสองประเทศสืบทอดมาแต่โบราณกาล ช่วง 40 ปีที่สถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูต ความสัมพันธ์จีน-ไทยพัฒนาด้วยดีอย่างต่อเนื่องและมั่นคง ไม่เพียงแต่นำมาซึ่งประโยชน์อย่างแท้จริงแก่สองประเทศและประชาชนทั้งสองประเทศ หากยังสร้างคุณูปการต่อการส่งเสริมสันติภาพ เสถียรภาพและความเจริญรุ่งเรืองส่วนภูมิภาคด้วย ปัจจุบัน การพัฒนายุทธศาสตร์ความสัมพันธ์ฉันหุ้นส่วนระหว่างจีน-ไทยเผชิญกับโอกาสใหม่ ทั้งสองประเทศกำลังผลักดันความร่วมมือที่อำนวยประโยชน์แก่กันในด้านต่างๆ โดยเฉพาะถือความร่วมมือด้านรถไฟเป็นหลัก จีนยินดีจับมือกับไทย ขยายมิตรภาพดั้งเดิมต่อไป ผลักดันการแลกเปลี่ยนความร่วมมือกันฉันมิตรระหว่างสองประเทศประสบผลคืบหน้าใหม่

    พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา กล่าวในสาส์นอวยพรว่า ความสัมพันธ์ไทย-จีนใกล้ชิดกันมาก วัฒนธรรมสองประเทศเข้าใจกันได้ มิตรภาพอันยาวนานสืบทอดมาแต่โบราณกาล 40 ปีมานี้ความสัมพันธ์ทางการทูตและความร่วมมือของทั้งสองประเทศพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ได้สร้างยุทธศาสตร์ความสัมพันธ์ฉันหุ้นส่วน ข้าพเจ้าได้ทราบว่า รัฐบาล ภาคเอกชนและทุกวงการสังคมจะจัดกิจกรรมต่าง ๆ เพื่อเฉลิมฉลองครบรอบ 40 ปีแห่งการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูต ข้าพเจ้ารู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่ง รัฐบาลทั้งสองประเทศมุ่งที่จะขยายความร่วมมือในด้านต่าง ๆ ไม่เพียงแต่นำมาซึ่งประโยชน์แก่ประชาชนสองประเทศ หากยังมีส่วนช่วยต่อการส่งเสริมเสถียรภาพความเจริญส่วนภูมิภาคและทั่วโลก

'นายกฯตู่' กล่าวสุนทรพจน์ 40 ปี ไทย-จีน 

     'นายกฯตู่' กล่าวสุนทรพจน์ 40 ปี ไทย-จีน "ประยุทธ์" กล่าวสุนทรพจน์ครบรอบ 40 ปี ความสัมพันธ์"ไทย-จีน" ยินดีทำการค้า-ลงทุนร่วมกัน พร้อมย้ำสัมพันธ์ฉันพี่น้อง-ลดความหวาดระแวง วันพุธที่ 1 กรกฎาคม 2558 เวลา 21:56 น. เมื่อเวลา 18.30 น. วันที่ 1 ก.ค. ที่ห้องบอลรูม โรงแรมแชงกรี ลา กรุงเทพฯ

     ณ ห้องบอลรูม โรงแรมแชงกรี - ลา กรุงเทพฯ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวสุนทรพจน์ในงานเลี้ยงเพื่อเฉลิมฉลองโอกาสครบรอบ 40 ปี การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตไทย - จีน ดังนี้

    นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า รู้สึกเป็นเกียรติและยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้รับเชิญมาร่วมในงานเลี้ยงเพื่อเฉลิมฉลองโอกาสครบรอบ 40 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างราชอาณาจักรไทยกับสาธารณรัฐประชาชนจีน ในวันนี้ ซึ่งตรงกับวันคล้ายวันสถาปนาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศของเราทั้งสอง

     ตลอดเวลา 40 ปีที่ผ่านมา ความสัมพันธ์ทางการทูตไทย - จีนพัฒนารุดหน้าอย่างมาก ความสัมพันธ์ทั้งสองอยู่บนพื้นฐานของความสัมพันธ์นะดับราชวงศ์ ภาคธุรกิจ และการท่องเที่ยวไปมาหาสู่ของทั้งสองประเทศโดยนับตั้งแต่รัฐบาลชุดปัจจุบันได้เข้ามาบริหารประเทศ ความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศยิ่งแน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้น มีการแลกเปลี่ยนการเยือนระดับสูงอย่างต่อเนื่อง

    ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า เคยเดินทางไปประเทศจีนและได้มีโอกาสเข้าเยี่ยมคารวะประธานาธิบดี และพบหารือกับนายกรัฐมนตรีจีนหลายครั้ง ซึ่งทั้งไทยและจีนบรรลุความร่วมมือในหลายด้านที่สำคัญ เช่น โครงสร้างพื้นฐานทางรถไฟในไทย สินค้าเกษตร และการเงินการธนาคาร เป็นต้น นอกจากนี้นายกรัฐมนตรียังได้ตอบรับคำเชิญเยือนจีนในเดือนกันยายนปีนี้ เพื่อเข้าร่วมงานแสดงสินค้า จีน – อาเซียนที่นครหนานหนิงด้วย

   จากพื้นฐานความสัมพันธ์ที่ดีในปัจจุบัน ไทยกับจีนยังมีศักยภาพที่จะเพิ่มความร่วมมือกันได้อีกมาก ซึ่งนายกรัฐมนตรียินดีที่การค้าและการลงทุนระหว่างกันมีพลวัตที่เข้มแข็ง และเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาของทั้งสองประเทศ นอกจากนี้ ในด้านความสัมพันธ์และการติดต่อในระดับประชาชน รวมถึงจำนวนนักท่องเที่ยวจีนเพิ่มขึ้นทุกปี นายกรัฐมนตรีจึงขอให้ใช้การท่องเที่ยวเป็นสะพานเชื่อมโยงความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศ

   ในตอนท้าย นายกรัฐมนตรีกล่าวย้ำถึงความตั้งใจของตัวนายกรัฐมนตรีและรัฐบาลที่จะร่วมมือกับรัฐบาลจีนอย่างใกล้ชิด บนพื้นฐานของความผูกพันฉันพี่น้องและความไว้เนื้อเชื่อใจ ลดความหวาดระแวง รวมถึงต้องได้รับความร่วมมือกับทุกฝ่ายช่วยสานต่อความสัมพันธ์ พร้อมได้ขอส่งความปรารถนาดีและคำอำนวยพรไปยังผู้นำจีนและประชาชนชาวจีน ขอให้ความสัมพันธ์ฉันมิตรแน่นแฟ้นและเกื้อกูลกันอย่างยั่งยืนตลอดไป

   ในงานดังกล่าวนอกจากนายกรัฐมนตรีแล้วก็ยังมีบุคคลสำคัญร่วมงาน อาทิ นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกฯ นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรักษาการหัวหน้าพรรคเพื่อไทย

    อนึ่ง ความสัมพันธ์ไทย-จีน สัมพันธ์ไทย-จีน เมื่อวันที่ 24 กันยายน 2557 นายกรัฐมนตรีตั้งนายกสมาคมวัฒนธรรมและเศรษฐกิจไทย-จีน เป็นกรรมการระดับชาติเพื่อกำกับดูแลการจัดกิจกรรมเฉลิมฉลองในโอกาสครบรอบ 40 ปีความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-จีน

    พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี อาศัยอำนาจตามมาตรา 11 (6) แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน ตั้งคณะกรรมการระดับชาติเพื่อกำกับดูแลการจัดกิจกรรมเฉลิมฉลองในโอกาสครบรอบ 40 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างราชอาณาจักรไทยกับสาธารณรัฐประชาชนจีน โดยมีรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเป็นประธาน และนายกสมาคมวัฒนธรรมและเศรษฐกิจไทย-จีน เป็นกรรมการ

    คณะกรรมการดังกล่าวมีจำนวน 34 คน มีภาคเอกชนเพียง 6 คน คือ ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ประธานสมาคมธนาคารไทย-จีน ประธานสภาธุรกิจไทย-จีน ประธานสมาคมมิตรภาพไทย-จีน ประธานสมาคมวัฒนธรรมและเศรษฐกิจไทย-จีน และประธานหอการค้าไทย-จีน ซึ่งทั้ง 6 กรรมการภาคเอกชนดังกล่าวมาจากองค์กรมาตรฐานซึ่งรัฐบาลได้รับรองและแต่งตั้งเข้าร่วมในคณะกรรมการต่าง ๆ ตลอดมา.

'