แฉกลุ่ม'เกรย์วูล์ฟส์' บึ้มไทย! กทม.โต้กล้องห่วย แท็กซี่โผล่-ยันรับมือระเบิด ขึ้นจากสวนลุมไปหัวลำโพง นักวิเคราะห์ชี้ปมแค้นอุยกูร์

      นักวิเคราะห์ต่างประเทศระบุบึ้ม ศาลพระพรหมส่อโยง 'เกรย์ วูล์ฟส์'กลุ่มก่อการร้ายในตุรกี เชื่อมโยงแก้แค้นไทยกรณีส่งอุยกูร์ให้ทางการจีน ขณะที่หน่วยข่าวของตำรวจเชื่อมือบึ้มน่าจะเข้ามาอยู่ในไทยนานพอสมควร ส่งข้อมูลให้ตม.ตรวจสอบย้อนหลัง ยอมรับอาจโยงกลุ่มก่อการร้าย ในต่างประเทศจริง ผบ.ตร.ย้ำคดีล่าช้าหาเบาะแสคนร้ายไม่คืบเพราะวงจรปิดจับภาพได้ไม่ต่อเนื่องกัน ด้านกทม.ออกโรงแถลงโต้กล้องวงจรปิดซีซีทีวีห่วย ยันเสียแค่ 4 ตัว ยันได้มาตรฐานระดับโลก วอนอย่าโยนข้อบกพร่องให้ฝ่ายเดียว เพราะกล้องร.พ.จุฬาฯ-หัวลำโพงก็จับภาพไม่ได้ แท็กซี่เขียวเหลือง รุดพบตร.ให้การรับผู้ต้องสงสัยขึ้นรถไปจริง โดยขึ้นจากตึกชาญอิสสระหน้าสวนลุมพินี ไปลงสถานีหัวลำโพง ลักษณะคล้ายแขกขาว

วันที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2558 ปีที่ 25 ฉบับที่ 9037 ข่าวสดรายวัน

เตรียมซ่อม - จนท.คลุมผ้าศาลท้าวมหาพรหม แยกราชประสงค์ เตรียมบูรณะซ่อมแซม หลังถูกระเบิดเสียหายหลายจุด ขณะเดียวกันยังมีนักท่องเที่ยวและประชาชนมากราบไหว้สักการะอย่างต่อเนื่อง เมื่อวันที่ 25 ส.ค.

'สมยศ'ฉะอีก-วงจรปิดไม่ต่อเนื่อง

       เมื่อวันที่ 25 ส.ค. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผบ.ตร. เปิดเผยความคืบหน้ากรณีเหตุระเบิดที่บริเวณศาลท้าวมหาพรหม แยกราชประสงค์ เกี่ยวกับการเสวนาสมาคมผู้สื่อข่าวต่างประเทศได้วิเคราะห์ในเรื่องคดีระเบิดดังกล่าวอาจมีชาวเคิร์ดอยู่เบื้องหลัง มีความสอดคล้องกับข้อมูลของเจ้าหน้าที่ตำรวจหรือไม่ว่า ตนไม่ได้พูดเช่นนั้น ไม่ทราบยังบอกไม่ได้ เอาเป็นว่าขณะนี้การสืบสวนสอบสวนมีความคืบหน้า แต่ปัญหาอุปสรรคอยู่ที่อุปกรณ์เครื่องไม้เครื่องมือ โดยเฉพาะกล้องวงจรปิดที่เราเก็บมาไม่ค่อยมีความต่อเนื่อง ซึ่งเกิดจากว่ากล้องวงจรปิด ไม่สามารถใช้การได้เป็นจำนวนมาก รวมถึงไม่ครอบคลุมพื้นที่ทั้งหมดก็เลยเป็นปัญหาในการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ส่วนคนขับแท็กซี่มีความคืบหน้าทางการสืบสวนอย่างไรบ้างนั้น เรื่องนี้อยู่ในความรับผิดชอบของพนักงานสอบสวน ส่วนคำให้การขอไม่เปิดเผย

ผู้สื่อข่าวถามว่าคสช.ได้แถลงว่า มีการประสานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจสากลในการ นำภาพสเกตช์ของคนร้ายไปเผยแพร่ยังต่างประเทศได้รับเบาะแสรายงานกลับมาบ้างแล้วหรือยัง พล.ต.อ.สมยศกล่าวว่า เป็นการดำเนินการของเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนสอบสวน ผล อย่างไรไม่สามารถนำมาเปิดเผยได้ อะไรที่เปิดเผยได้ก็จะบอก นั่นหมายความว่ามีความชัดเจนแล้ว มีเหตุผลที่ตอบได้ว่าเพราะอะไร มีข้อมูลสนับสนุนสิ่งที่ตนจะพูดได้แค่นั้นเอง

ย้ำพระพรหม-สาทรเกี่ยวข้องกัน

      ส่วนความเชื่อมโยงระหว่างระเบิดที่แยกราชประสงค์และระเบิดที่ท่าน้ำสาทรได้หรือไม่ พล.ต.อ.สมยศกล่าวว่า รูปแบบระเบิดคล้ายกัน ทำมาจากวัสดุคล้ายกัน ส่วนดินระเบิดนั้นเรายังไม่สามารถพิสูจน์ทราบได้และการจุดชนวนหรือการจุดระเบิดนั้นก็ยังไม่มีการยืนยัน ถ้าหลายๆ อย่างมีความคล้ายคลึงหรือเหมือนกันเราจึงจะยืนยันว่าเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกัน แต่ในเบื้องต้นก็น่าจะเกี่ยวข้องเชื่อมโยงกัน

      ผู้สื่อข่าวถามว่า การเชื่อมโยงกันของทั้งสองสถานที่น่าจะหมายความว่าอาจจะเป็น กลุ่มคนเดียวกัน ตรงนี้ความชัดเจนในกล้องวงจรปิดก็ชัดเจนอยู่แล้วหรือไม่ พล.ต.อ. สมยศกล่าวว่า อย่างที่ตนบอกว่าจากการสืบสวนเริ่มจะมีความมั่นใจมากขึ้นว่ามีการ กระทำเป็นขบวนการ มีการแบ่งหน้าที่กันทำ มีการช่วยเหลือสนับสนุนกัน ทั้งคน ตระเตรียมการ คนดูเส้นทาง คนจัดหาระเบิด คนดำเนินการวาง คนหาที่พักหรือพาหนี มีการแบ่งหน้าที่กันทำชัดเจน แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยไม่ได้ ส่วนที่ท่าเรือสาทรเจตนาที่จะวางซ้ำอีกลูกหนึ่งหรือไม่นั้น ต้องรอให้จับกุมคนร้ายให้ได้ก่อน ทั้งนี้กลุ่มที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ก็ได้มีการขีดวงแคบลงเรื่อยๆ แต่เรื่องนี้คงบอกไม่ได้ และยังไม่ตัดประเด็นใดทิ้งจนกว่าจะมีหลักฐานระบุได้อย่างชัดเจนว่าเป็นเรื่องใดจึงค่อยตัดประเด็นอื่นทิ้ง

เป็นอุปสรรคมาก-ภาพไม่ต่อเนื่อง

       ผู้สื่อข่าวถามว่า อุปสรรคในเรื่องกล้องวงจรปิดจะทำให้เราไม่สามารถจับคนร้ายได้ใช่หรือไม่ ผบ.ตร.กล่าวว่ามันก็เป็นปัญหาเพราะไม่มีความต่อเนื่อง ไม่มีกล้องที่จะสามารถบอกอะไรได้มากกว่าที่มี ก็คืออุปสรรคนั่นแหละ กล้องไม่สามารถเก็บภาพได้ชัดเจน จึงทำให้เราไม่สามารถพบภาพไปใช้กับเครื่องมือที่จะนำไปใช้กับฐานข้อมูลของสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง หากเราได้สิ่งเรานี้และนำไปเชื่อมโยงกับฐานข้อมูลของสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง และการท่าอากาศ ยานจะสามารถบอกได้ทันทีว่า บุคคลต้องสงสัยนั้นเดินทางไปนอกประเทศหรือไม่ ขณะนี้ตนตอบไม่ได้เพราะไม่มีหลักฐานอื่นๆ มายืนยัน

ผู้สื่อข่าวถามว่าหลักฐานที่ทางสื่อญี่ปุ่นได้ทำหลักฐานเกี่ยวกับเป้ที่คนร้ายใช้ขึ้นมาข้อเท็จจริงเป็นอย่างไรบ้าง พล.ต.อ.สมยศกล่าวว่า ตนยังงงๆ ตนได้เข้าประชุมทุกครั้งแต่ก็ยังไม่เห็นหลักฐานเหล่านั้น แต่ถ้ามีหลักฐานเหล่านั้นจริง ทางอีโอดีก็คงจะไปหามา หรือจะต้องถามสำนักข่าวนั้นว่าไปได้หลักฐานมาจากที่ไหน เพื่อนำมาใช้ประโยชน์ เรายินดีรับฟัง รับปฏิบัติ พร้อมที่จะรับฟังข้อเสนอแนะเหตุผลต่างๆ แต่ต้องเป็นเหตุผลที่มีหลักฐานและความชัดเจนที่สามารถตอบได้ว่าพยานหลักฐานที่ได้มาอย่างไรด้วย ส่วนการตรวจดีเอ็นเอจากธนบัตรใบละ 20 นั้น ตนยังไม่ทราบ การตั้งเงินรางวัลค่าหัวที่ตนรับผิดชอบยังเป็น 3 ล้านบาทเช่นเดิม

'บิ๊กตู่'ยอมรับภาพวงจรปิดไม่ชัด

      ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงเรื่องการปรับ ปรุงกล้องซีซีทีวีเพื่อเสริมงานด้านความมั่นคงว่า ขณะนี้สถานการณ์มันก็เป็นอยู่อย่างนี้ มันพร้อมจะเกิดขึ้นทั้งโลกทุกประเทศ ซึ่งก็รู้อยู่แล้วว่า มีภัยอะไรกันบ้าง ฉะนั้นคดีความต่างๆ เจ้าหน้าที่ไม่ได้หยุดนิ่ง ทั้งเรื่องการติดตามรูปถ่ายไปทั่วโลกแล้ว ซึ่งขึ้นอยู่กับว่าคนเหล่านี้พอเกิดเรื่อง ทำแล้วและหนีไปเลยทันทีหรือเปล่าไม่แน่ใจ กำลังตามอยู่ก็มีความคืบหน้าตามลำดับ อย่าเพิ่งไปต่อว่าให้กำลังใจกันบ้าง สถานการณ์วันนี้ต้องให้กำลังใจซึ่งกันและกัน ตนก็ต้องให้กำลังใจประชาชน นักลงทุน เพื่อให้เกิดความเชื่อมั่น ถ้าเราทำลายกันเอง ความเชื่อมั่นก็ไม่กลับมา แล้วใครได้ ใครเสีย ประเทศเสียจึงอยากจะฝากสื่อไว้ด้วยในเรื่องเหล่านี้ และต้องช่วยกันเฝ้าระวังให้มากขึ้น

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ส่วนเรื่องกล้องซีซีทีวีก็ต้องขอความร่วมมือ เพราะวันนี้ภาพไม่ค่อยชัดจะติดตั้งอะไรต่างๆ ก็ควรจะให้ดีสักนิด โดยเฉพาะบรรดาศูนย์การค้าต่างๆ ภาคธุรกิจต้องช่วยตัวเองด้วย ขอเราจะดูในพื้นที่สาธารณะข้างนอกเป็นหลัก ซึ่งต้องใช้งบประมาณสูงมาก แต่ต่อไปจะต้องปรับปรุงหมด เห็นไหมใช้เงินทุกอย่างเลย ทั้งนี้การจัดซื้อกล้องซีซีทีวีอยู่ในแผนที่ต้องให้มีการปรับปรุงเพิ่มประสิทธิภาพ แต่ต้องใช้เงินในการลงทุน แต่ถ้าลงทุนมาก่อนหน้านี้ก็ไม่ต้องลงทุนมาก ไม่ต้องเสียเรื่องที่ไม่เป็นเรื่อง

เจอแล้ว - จนท. พิสูจน์หลักฐานตรวจหาร่องรอยบนรถแท็กซี่ หลังสืบพบว่าเป็นคันที่รับมือระเบิดเสื้อสีเหลือง จากหน้าตึกชาญอิสสระ แยกศาลาแดง มาส่งลงที่หัวลำโพง ก่อนต่อรถตุ๊กตุ๊กไปก่อเหตุวางระเบิดศาลพระพรหม

ลั่นอุดหนุนเครื่องมือ-สั่งไอซีทีดู

     เมื่อถามว่า มีความเป็นไปได้แค่ไหน ในการจัดซื้อเครื่องไบโอเมทริกซ์ สำหรับตรวจสอบรูปหน้า ลายพิมพ์นิ้วมือ และแววตา ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.อ. ประยุทธ์กล่าวว่า จะเร่งให้เร็วที่สุด ซึ่งมีเสนอมาแล้วอยู่ในขั้นตอนการพิจารณาของคณะกรรมการ โดยตนได้บอกให้คณะกรรมการ ไอซีทีไปดูคุณภาพ ประสิทธิภาพดีครบถ้วนหรือไม่ ถ้ายังมีสตางค์แค่นี้ ระยะที่ 1 ควรจะมีแค่ไหน จะต้องพร้อมเพิ่มเติมในระยะ 2-3 ต่อไปในอนาคตด้วย ไม่ใช่ซื้อทีเดียวแล้วจบ แค่นั้น วันหน้าจะซื้อใหม่อีกทั้งระบบไม่ได้ ต่อไปนี้ต้องเป็นระบบหมด โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องการใช้เทคโนโลยี เพราะเราปรับกระทรวงไอซีทีใหม่แล้ว ฉะนั้นไอซีทีจะเป็นคนดูแลเรื่องเหล่านี้ ซึ่งตนได้สั่งการไปแล้ว

      ด้านพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาด ไทย ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีสำนักงานตำรวจแห่งชาติระบุกล้องวงจรปิดในพื้นที่กทม.จำนวนมาก ใช้การไม่ได้เกินครึ่ง ทำให้เป็นอุปสรรคหนึ่งในการสืบสวนหาหลักฐานและตัวผู้ก่อเหตุในคดีลอบวางระเบิดแยกราชประสงค์เมื่อวันที่ 17 ส.ค.ที่ผ่านมาว่า โดยหลักการ กทม.ต้องตรวจสอบ ปรับปรุง ซ่อม แซม ดูแลให้อยู่ในสภาพใช้ได้ ต้องดูแลให้ใช้ได้ทั้งหมด ซึ่งตนจะได้กำชับดูแลให้ อย่าง ไรก็ตาม ต้องเป็นไปตามระบบอยู่แล้วที่กทม.ต้องดำเนินการ โดยไม่ต้องให้ตนไปสั่งการ

คสช.สั่งตรึงเอเชียทีค-ประตูน้ำ

เมื่อเวลา 12.00 น. ที่ศูนย์ติดตามสถานการณ์ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) พ.อ.วินธัย สุวารี โฆษกคสช. แถลงว่าบรรยากาศโดยรวมของการท่องเที่ยว ในประเทศอยู่ในระดับปกติ จำนวนนักท่องเที่ยวตามสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญทั้งในกรุงเทพมหานคร และต่างจังหวัดยังคงมีอยู่จำนวนมาก กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา แจ้งให้ทราบว่าสถิติจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้ามาในประเทศไทย ขณะนี้ยังคงอยู่ในระดับปกติ

พ.อ.วินธัยกล่าวว่า ตั้งแต่ในช่วงเย็นของวันที่ 24 ส.ค. กองกำลังรักษาความสงบเรียบ ร้อย (กกล.รส.) ได้เพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่จำนวนหนึ่ง เพื่อให้การรักษาความปลอดภัยเป็นไปอย่างต่อเนื่องและครอบคลุมในทุกพื้นที่ โดยเฉพาะในกรุงเทพฯ เช่น เอเชียทีค ประตูน้ำ และสถานที่ท่องเที่ยวบริเวณเกาะรัตน โกสินทร์ รวมทั้งประสานความร่วมมือกับ ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์รับจ้าง และเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของเอกชน เพื่อช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ แจ้งเตือนภัยและเบาะแสต่างๆ ด้วย

ยืนยันการสืบสวนมีความคืบหน้า

      โฆษกคสช.กล่าวว่า นอกจากนี้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ยังขอความร่วมมือไปยังสถานที่ราชการ สถานประกอบการ และเจ้าของอาคารต่างๆ ช่วยตรวจสอบกล้องวงจรปิดที่มีอยู่ให้ใช้การได้จริง รวมทั้งปรับมุมกล้องและความละเอียดของภาพให้เพียงพอที่จะใช้ตรวจสอบบุคคลได้อย่างชัดเจน และหากเป็นไปได้ อาจให้ติดตั้งกล้องวงจรปิดเพิ่มเติม

พ.อ.วินธัยกล่าวต่อว่า เพื่อให้เกิดความละเอียดรอบคอบในการดูแลความปลอดภัย เจ้าหน้าที่อาจจำเป็นต้องเพิ่มมาตรการตรวจค้นบุคคล ซึ่งประชาชนอาจจะไม่ได้รับความสะดวกบ้างในบางกรณี สำหรับความห่วงใยเกี่ยวกับความคืบหน้าของการสืบสวนคดีนั้น เจ้าหน้าที่ทุกส่วนขอขอบคุณในความห่วงใยดังกล่าว แต่เนื่องจากการดำเนินการจะต้องกระทำอย่างรอบคอบและต้องพิจารณาให้ครอบคลุมในทุกมิติ ความคืบหน้าในบางประเด็นไม่สามารถที่จะเปิดเผยได้ เนื่องจากมีความละเอียดอ่อนและอาจส่งผลต่อรูปคดี อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่าจากข้อมูลที่ได้รับ ทั้งจากการดำเนินการของเจ้าหน้าที่และข้อมูลที่ได้รับจากหน่วยข่าวมิตรประเทศทำให้การสืบสวนคดีมีความก้าวหน้ามาตามลำดับ

'จักรทิพย์'สั่งจำลองบึ้มทั้ง 2 จุด

      ด้านพล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา รอง ผบ.ตร. กล่าวหลังจากประชุมชุดคลี่คลายคดีว่า สั่งการให้ชุดสืบสวนหาพยานหลักฐานเพิ่มเติมโดยเฉพาะกล้องวงจรปิด และสั่งการให้จำลองทำระเบิดจริงๆ ทั้ง 2 จุด ที่ศาลพระพรหมและท่าน้ำสาทร ไปทดลอง จำลองเหตุการณ์ทั้งบนบกและในน้ำ เทียบเคียงดูอานุภาพของระเบิดเพื่อความรอบคอบทางคดี เบื้องต้นมีรายงานการตรวจสอบระเบิดทั้ง 2 จุด น่าจะเป็นระเบิดทีเอ็นที แต่ยังไม่ยืนยันชัดเจนจึงต้องหาวัสดุลักษณะเดียวกันไปทดลองดังกล่าว โดยจะมีการลองทดสอบที่สนามหุบสบู่ อ.ชะอำ จ.ประจวบคีรีขันธ์

      ส่วนคนร้ายชายเสื้อฟ้าที่ก่อเหตุวางระเบิดที่ท่าน้ำสาทรนั้น พล.ต.อ.จักรทิพย์กล่าวว่า มั่นใจว่าน่าจะออกหมายจับได้ แต่ต้องรอการรวบรวมพยานหลักฐาน คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 1 สัปดาห์ รวมถึงต้องรอผลการหารือจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ สำหรับภาพสเกตช์คนร้ายชายเสื้อฟ้าก็อยู่ในขั้นตอนการดำเนินการ

กทม.โต้-ชี้วงจรปิดเสียแค่ 4 ตัว

      ที่ศาลาว่าการ กทม. นางเบญทราย กียปัจจ์ ผู้ช่วยเลขานุการผู้ว่าฯ กทม. พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ที่ปรึกษาผู้ว่าฯ กทม. และนายทวีศักดิ์ เลิศประพันธ์ ผอ.สำนักการจราจรและขนส่ง กทม. ร่วมแถลงข่าวกรณีกล้องวงจรปิดเหตุการณ์ระเบิดแยกราชประสงค์

      พล.ต.ต.วิชัย กล่าวว่า ขณะนี้มีข่าวที่ทำให้ กทม.เกิดความเสียหาย และทำให้ประชาชนเข้าใจผิด ขอยืนยันว่า กทม.ได้ทำงานและร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ รวมถึงหน่วยงานด้านความมั่นคงมาโดยตลอด ทั้งในเรื่องกล้องวงจรปิด ซึ่งในวันเกิดเหตุ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯ กทม. พร้อมคณะได้ลงพื้นที่และสั่งการให้เจ้าหน้าที่ของ กทม. ทำงานร่วมกับหน่วยงานด้านความมั่นคงตั้งแต่วินาทีแรก ซึ่งหน่วยงานด้านความมั่นคงได้ประสานเรื่องขอดูกล้องวงจรปิดในพื้นที่เกิดเหตุ มาแล้วทั้งหมด 48 ครั้ง ภาพที่ได้ส่วนใหญ่ก็เกิดจากกล้องของ กทม. โดยในรอบพื้นที่เกิดเหตุมีกล้องทั้งหมด 107 ตัว ขณะนั้นมีกล้องชำรุดตามสภาพการใช้งาน จำนวน 4 ตัวเท่านั้น ซึ่งมีการแก้ไขเรียบร้อยแล้ว ทั้งนี้ คดีต่างๆ ที่ผ่านมา ทุกคดี เกิดจากการดูหลักฐานจากกล้องวงจรปิดของ กทม. แต่ กทม.กลับไม่ได้รับการชมเชยจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งในคดีต่างๆ ต้องดูทั้งพยานหลักฐาน พยานบุคคล พยานแวดล้อม โดยมีกล้องวงจรปิดเป็นปัจจัยหนึ่งในการสอบสวนเท่านั้น ซึ่งที่ผ่านมาการขอดูกล้องวงจรปิดจะต้องมีเอกสารมาขออนุญาตแต่ กทม.ก็มีการอะลุ้มอล่วยบ้าง จึงขอให้เข้าใจการทำงานของ กทม.ด้วย

ยันมาตรฐานระดับต้นๆของโลก

      พล.ต.ต.วิชัย กล่าวต่อว่า กล้องของ กทม.ถือว่ามีมาตรฐานสูงมากในอันดับต้นๆ ของโลก ซึ่งในบางจุดที่กล้องไม่สามารถตรวจภาพได้ชัด เป็นเพราะมุมของกล้องและระยะห่างของการติดตั้งกล้อง ซึ่งกล้องมีหลายประเภท ทั้งกล้องที่ดูเรื่องของความมั่นคง กล้องที่ดูเรื่องการจราจร จึงต้องดูว่ากล้องแต่ละประเภทเป็นอย่างไร อาทิ กล้องจับทะเบียนรถยนต์ จะเหมารวมว่าจะให้กล้องทุกตัวชัดเช่นเดียวกับกล้องจับทะเบียนรถยนต์คงไม่ได้ หรือบางกล้องที่ดูเรื่องด้านความมั่นคง ดูการชุมนุมต่างๆ ก็ต้องดูในภาพรวม จะให้กล้องชัดคงไม่ได้ อย่างไรก็ตามยอมรับว่าสภาพของกล้องต้องมีการชำรุดตามสภาพบ้าง แต่ส่วนใหญ่ยังใช้งานได้ ซึ่งที่ผ่านมาหน่วยงานด้านความมั่นคง ไม่เคยกล่าวว่ากทม. แต่ขอบคุณและชื่นชม กทม.ที่ให้ความร่วมมือทุกเรื่อง

"ส่วนกรณีที่ มท.1 สั่งการให้ กทม.ตรวจสอบกล้องนั้น เข้าใจว่า ท่านเป็นห่วงบ้านเมืองห่วงการทำงานของทุกหน่วยงาน ในฐานะเป็นผู้บังคับบัญชาก็ต้องสั่งการให้ดูแล หากเป็น การจับผิดกทม.คงไม่ใช่ เพราะท่านมท.1 สั่งการในภาพรวมเท่านั้น ขณะนี้กล้องวงจรปิดในจุดสำคัญ มีความพร้อมทั้งหมด ก่อนหน้านี้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และรมว.กลาโหม ได้สั่งการให้ กทม.ดูแลพื้นที่จุดเสี่ยง ซึ่งผู้ว่าฯ กทม.ได้ดำเนินการตามสั่งเรียบร้อยแล้ว"พล.ต.ต.วิชัยกล่าว

โวยลั่น-กทม.โดนตำหนิฝ่ายเดียว

     นางเบญทราย กล่าวว่า ขอชี้แจงว่าถ้าเป็นข่าวที่เกิดความเสียหายกับองค์กร อยากให้สื่อ มวลชนช่วยตระหนักตรงนี้ด้วย เพราะทุกคนก็เป็นห่วงบ้านเมือง อยากให้มีการจับคนร้ายมาให้ได้ ซึ่งวันนี้กล้องทั้ง 107 ตัว ทำงานเป็นปกติ แต่การพาดหัวข่าวออนไลน์ อาจทำให้เกิดความเสียหายในวงกว้าง กทม.ไม่ได้ปัดความรับผิดชอบ แต่กล้องที่สถานีรถไฟหัวลำโพงก็เป็นของการรถไฟ ส่วนกล้องที่ร.พ.จุฬาฯ ก็เป็นของร.พ.จุฬาฯ ดังนั้นหากหน่วยงานไหนประสานงานมา กทม.พร้อมที่จะเข้าไปดูแลให้ ทั้งนี้ขอให้สื่อมวลชนดูข้อเท็จจริงตรงนี้กับผู้ที่เสียหายด้วย เพราะวันนี้ปฏิเสธไม่ได้ว่า กทม.เสียหาย หากมีข้อดีหรือข้อเสียก็ขอให้เสนอข่าวให้เท่าๆ กัน

      ขณะที่นายทวีศักดิ์ กล่าวว่า ภายหลังได้ทราบเส้นทางการหลบหนีของผู้ต้องสงสัย กทม.ได้ตรวจสอบเส้นทางซึ่งพบว่ามีกล้องในพื้นที่ทั้งหมด 57 ตัว ชำรุด 4 ตัว ในพื้นที่แยกราชประสงค์ 1 ตัว ถนนสีลม 1 ตัว และแยกนราธิวาสฯ 2 ตัว แต่ได้แก้ไขไปเรียบร้อยแล้ว ซึ่งเป็นกล้องของ กทม. โดยหน่วยงานความมั่นคงได้เข้ามาขอดูกล้องในบริเวณดังกล่าว ทั้งนี้ในพื้นที่ทั่วกรุงเทพฯ มีกล้องของ กทม.ประมาณ 41,000 ตัว ขณะนี้อยู่ในสภาพใช้งานได้ทุกตัว ส่วนในโครงการติดกล้องวงจรปิดเพิ่มเติมซึ่งอยู่ระหว่างบรรจุไฟฟ้านั้น มีประมาณ 2,000 ตัวในพื้นที่ถึง 200-300 จุด ส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่ฝั่งธนบุรี

บช.น.ได้ตัวแท็กซี่รับมือบึ้มแล้ว

      รายงานข่าวจาก บก.สส.บช.น.แจ้งว่าเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนคลี่คลายคดีสามารถตามหาตัวโชเฟอร์แท็กซี่ที่รับผู้ต้องสงสัยไปก่อเหตุวางระเบิดที่ศาลท้าวมหาพรหมได้แล้ว เป็นรถแท็กซี่ส่วนบุคคล ยี่ห้อ โตโยต้า รุ่นอัลติส สีเขียวเหลือง ทะเบียนป้ายเหลือง มฎ 2835 กรุงเทพมหานคร โดยนำตัวโชเฟอร์แท็กซี่คันดังกล่าวมาสอบปากคำที่บก.สส.บช.น.

จากการสอบปากคำได้ความว่า เมื่อเวลาประมาณ 16.00-17.00 น.ของวันเกิดเหตุ แท็กซี่คันนี้ได้รับชายต้องสงสัยเป็นแขกขาว คาดว่าเป็นชาวเอเชีย มาจากบริเวณหน้าตึกชาญอิสสระ ถนนพระราม 4 โดยชาย ดังกล่าวสามารถพูดโต้ตอบภาษาไทยได้ โดยบอกกับคนขับว่า "หัวลำโพง" แท็กซี่จึงขับใช้เส้นทางถนนพระราม 4 ขาเข้า แล้วเลี้ยวขวาเข้าหัวลำโพง ก่อนมาจอดเลียบคลองผดุงกรุงเกษม ตลอดการเดินทางชายดังกล่าว อยู่เงียบๆ ไม่พูดอะไร

โชเฟอร์ชี้ต่างชาติพูดสำเนียงไทย

        ที่สำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ สพฐ. นายเฉลิม (ขอสงวนนามสกุล) โชเฟอร์แท็กซี่โตโยต้า สีเขียวเหลือง ทะเบียน มฎ 2835 กรุงเทพมหานคร ที่รับผู้โดยสารต้องสงสัยชายผู้ก่อเหตุวางระเบิดบริเวณศาลท้าวมหา พรหม แยกราชประสงค์ ได้เดินทางเข้าพบ พล.ต.ต.ธวัชชัย เมฆประเสริฐสุข ผบก.สพฐ. พร้อมนำรถแท็กซี่ มาให้เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน ได้ตรวจเก็บหลักฐานเพิ่มเติม เพื่อประโยชน์รูปคดี และเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับคนร้ายที่ก่อเหตุ

นายเฉลิม เปิดเผยว่า ช่วงเวลาประมาณ 16.00 น. วันที่ 17 ส.ค. ได้รับชายต้องสงสัยจากบริเวณหน้าตึกชาญอิสสระ ใกล้แยกศาลาแดง ให้ไปส่งที่สถานีรถไฟหัวลำโพง จำได้ว่าชายคนดังกล่าวพูดภาษาไทยแต่สำเนียงเป็นต่างชาติ สาเหตุที่มั่นใจว่าเป็นคนต่างชาติ เนื่องจากลักษณะใบหน้ารูปพรรณสัณฐานและสำเนียงการพูด ระหว่างทางชายต้องสงสัยไม่ได้พูดโทรศัพท์ อีกทั้งไม่ได้ สังเกตว่าชายคนดังกล่าวนำกระเป๋าเป้ติดตัวมาด้วยหรือไม่ หลังเกิดเหตุก็ไม่ได้เอะใจ กระทั่งมาทราบเรื่องภายหลังเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ติดต่อประสานมายังพี่สาวจึงรีบเดินทางมาเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ พร้อมให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่อย่างเต็มที่

       ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านายเฉลิมได้เข้าให้ปากคำกับทางพนักงานสอบสวน สน. ลุมพินี และเจ้าหน้าที่ศูนย์สืบสวน บช.น. เกี่ยวกับข้อมูลช่วงที่รับและส่งคนร้าย จากนั้นจึงนำรถมาให้เจ้าหน้าที่พฐ.ตรวจสอบเก็บหลักฐานเพิ่มเติม

รับจากชาญอิสสระไปหัวลำโพง

      ด้านนายเฉลิมกล่าวว่า เพิ่งทราบเมื่อวันที่ 24 ส.ค.ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 20.00 น. ว่ารถแท็กซี่ของตน เป็นรถที่รับคนร้ายก่อนจะมาก่อเหตุวางระเบิด โดยทราบเพราะพี่สาวโทรศัพท์มาบอกว่ามีตำรวจติดต่อมา และเมื่อได้ดูกล้องวงจรปิดก็พบว่ารถคันดังกล่าวเป็นรถของตนจริง โดยวันเกิดเหตุช่วงเวลาประมาณ 15.00-16.00 น.ตนได้รับคนร้ายซึ่งเดินทางมาคนเดียวจากบริเวณถนนพระราม 4 เลยแยกศาลาแดง ก่อนถึงหน้าตึกชาญอิสสระไปส่งที่สถานีรถไฟหัวลำโพง ไปถึงเวลา 17.15 น. แต่ไม่ได้เข้าไปส่งภายใน ส่งแค่บริเวณริมคลองผดุงกรุงเกษมเท่านั้น

        "เท่าที่พอจำได้ลักษณะท่าทางเขาเป็นฝรั่ง ตอนรับขึ้นมาเขาก็มีท่าทางปกติ พูดคำว่าหัวลำโพงภาษาไทยไม่ชัด คล้ายฝรั่งพูดภาษาไทย เมื่อลงจากรถได้จ่ายค่ารถเป็นแบงก์ร้อย ระหว่างทางก็ไม่ได้มีการพูดคุยกัน ไม่ได้สังเกตว่ามีสัมภาระอะไรบ้าง ไม่แน่ใจว่ามีการใช้โทรศัพท์หรือไม่ แต่ยืนยันว่าไม่ใช่คนไทยแน่นอน" นายเฉลิมระบุ

นักวิเคราะห์ชี้บึ้ม-เอี่ยวเกรย์วูล์ฟส์

      สำหรับ เนื้อหางานเสวนา "ระเบิดในกรุงเทพฯ ที่จริงแล้วเรารู้อะไรบ้าง" คืนวันที่ 24 ส.ค. จัดโดยสโมสรผู้สื่อข่าวต่างประเทศ หรือเอฟซีซีที ตอนหนึ่งที่นายแอนโธนี เดวิส นักวิเคราะห์จากกลุ่มรวบรวมข้อมูลด้านความมั่นคง เจนส์ อินฟอร์เมชั่น กรุ๊ป บริษัทไอเอชเอส อิงค์ สำนักงานในประเทศอังกฤษ ตั้งข้อสังเกตว่า ควรต้องจับตากลุ่มสายสุดโต่งในตุรกีที่ชื่อว่า เกรย์ วูล์ฟส์ หรือหมาป่าสีเทา องค์การชาตินิยมเตอร์กิชเป็นพิเศษ เพราะมีความเป็นไปได้สูงที่กลุ่มนี้จะเป็น กลุ่มที่อยู่เบื้องหลังเหตุระเบิดในกรุงเทพฯ หลังจากมีบทบาทสนับสนุนการประท้วงและโจมตีสถานกงสุลไทยในตุรกี กรณีที่ทางการไทยส่งชาวอุยกูร์ให้จีน ในขณะที่กลุ่ม อุยกูร์ไม่มีศักยภาพพอ เคยก่อการระดับเล็กๆ ในจีนเท่านั้น

โยงขบวนการก่อการร้ายตุรกี

     เว็บไซต์ trackigterrorism.org แหล่งข้อมูลและงานวิจัยเกี่ยวกับองค์การก่อการร้าย ระบุว่า กลุ่มเกรย์ วูล์ฟส์ มีชื่อตุรกีว่า บอซกูร์ลาร์ เป็นฝ่ายกองกำลังติดอาวุธของพรรคขบวนการชาตินิยม เริ่มก่อตั้งในทศวรรษที่ 1960 หรือช่วงปีพ.ศ.2503-2512 มีแนวคิดแบบมุสลิมสายสุดโต่ง มีความเกี่ยวพันกับกลุ่มอาชญากรรมของกลุ่มคนเชื้อสายตุรกี ทั่วโลกไม่ว่าจะเป็นการค้ายาเสพติดหรือการค้ามนุษย์

       กลยุทธ์ที่ใช้ในการโจมตีมีทั้งยิงปะทะ วางเพลิง และระเบิด ระหว่างปี 2517-2523 สมาชิกกลุ่มเกรย์วูล์ฟส์ราว 220 คน ก่อเหตุสังหารนักเคลื่อนไหวฝ่ายซ้าย และกลุ่มเสรีนิยมไม่ต่ำกว่า 694 ราย รวมถึงคดีสังหารหมู่กว่า 40 ศพ ที่จัตุรัสทักซิมในนครอิสตันบูล เมื่อปี 2520 และคดีสังหารหมู่มุสลิมอเลวี มุสลิมนิกายชีอะห์ ที่เมืองคาห์รามานมารา ซึ่งมีผู้เสียชีวิตมากกว่า 1,200 ราย ในปี 2521

เกรย์วูล์ฟส์เคยโต้ไม่เกี่ยวทุบกงสุล

       ด้านเว็บไซต์วิกิพีเดียระบุว่า แม้ศัตรูสำคัญคือชนกลุ่มน้อยในประเทศตุรกี ในที่นี้หมายรวมถึงชาวเคิร์ด ชาวมุสลิมอเลวี และคริสต์ศาสนิกชน แต่กลุ่มเกรย์วูล์ฟส์เคยร่วมสงครามต่างชาติ อาทิ สงครามนากอร์โน-คาราบักห์ ในฐานะพันธมิตรของอาเซอร์ไบจาน และ สงครามเชชเนียต่อต้านรัสเซียทั้งในครั้งที่ 1 และ 2 นอกจากนี้ยังมีเครือข่ายสาขาในยุโรป โดยเฉพาะเบลเยียม เนเธอร์แลนด์ และ ในเยอรมนี เกรย์ วูล์ฟส์ มีสมาชิกแนวคิดฝ่ายขวามากที่สุด อย่างน้อย 10,000 คน

นับตั้งแต่ทศวรรษที่ 1980 เป็นต้นมา กลุ่มสุดโต่งฝ่ายขวากลุ่มนี้เน้นโจมตีชาวเคิร์ด ขณะเดียวกันมีการรวมตัวประท้วงชนกลุ่มน้อยชาวอาร์เมเนีย และผู้ลี้ภัยชาวซีเรียที่อพยพหนีภัยสงครามกลางเมือง

       เมื่อเดือนก.ค.ปีนี้ หลังมีกระแสข่าวว่ารัฐบาลจีนออกกฎห้ามชาวมุสลิมอุยกูร์ ในเขตปกครองซินเกียง-อุยกูร์ ทางตะวันตกเฉียงเหนือ ประกอบพิธีอดอาหารในช่วงเดือนรอมฎอน ปรากฏว่าเกิดเหตุนักท่องเที่ยวชาวเกาหลีใต้ 2 คนในนครอิสตันบูล ประเทศตุรกีถูกทำร้ายเพราะเข้าใจผิดคิดว่าเป็นชาวจีน ก่อนบานปลายกลายเป็นการนำกำลังบุกทำลายสถานกงสุลใหญ่กิตติมศักดิ์ไทยในนครอิสตันบูล เพื่อแสดงความไม่พอใจที่ ทางการไทยส่งคืนผู้ลี้ภัยชาวมุสลิมอุยกูร์กลับ ไปยังประเทศจีน เหตุการณ์ดังกล่าวกลุ่มเกรย์วูล์ฟส์แถลงปฏิเสธความเกี่ยวข้อง

ประวุฒิ ชี้มือบึ้มใช้เน็ตโฟน-แอพ

     ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ท. ประวุฒิ ถาวรศิริ ผู้ช่วยผบ.ตร.กล่าวถึงคดีระเบิด 2 จุด ว่า ยอมรับว่ามีพยานถึง 2 คนเป็นญาติของผู้ป่วยมาเฝ้าไข้ และผู้ที่มารักษา ที่ร.พ.จุฬาฯ ให้การตรงกันว่าขณะลงมาชั้นล่างมาซื้อของ เห็นผู้ต้องสงสัยตามหมายจับปะปนอยู่ในกลุ่มคนที่กำลังวุ่นวายรับผู้ป่วยจากเหตุระเบิด โดยชายคนดังกล่าวเปลี่ยนจากเสื้อสีเหลือง เป็นสีเทา แต่สวมกางเกงและรองเท้าเดิม กำลังใช้โทรศัพท์มือถือถ่ายภาพ เหมือนถ่ายรูปผลงานตัวเอง เชื่อว่าเขาคงไม่กล้ามาที่ร.พ.ตร.เลยไปที่ร.พ.จุฬาฯ เมื่อพยานยืนยันถึง 2 คน เราก็ตรวจสอบ แต่ปรากฏว่ากล้องวงจรปิดที่ร.พ.จุฬาฯ ใช้การไม่ได้เลย ไม่มีใครถ่ายภาพได้เลย แม้แต่เจ้าหน้าที่มูลนิธิ หน่วยกู้ภัยก็ไม่ได้รับอนุญาตให้ถ่ายภาพ เราจึงไม่มีภาพยืนยัน มีแต่คำบอกเล่าของพยาน

โฆษกตร.ยอมรับว่าการสืบสวนจับกุม ผู้ต้องหาในคดีนี้ตำรวจทำทุกวิถีทางแต่ ไม่ง่าย คนร้ายระวังตัวมาก แม้แต่การติดต่อสื่อสารคนร้ายก็ไม่ใช้ผ่านสัญญาณโทรศัพท์เลย แต่ใช้เน็ตโฟน หรือแอพพลิเคชั่นต่างๆ เช่น วอตส์แอพ วีแช็ต เท่านั้น

หน่วยข่าวเชื่อโยงเกรย์วูล์ฟส์-อุยกูร์

      รายงานข่าวกล่าวว่า หลังเหตุระเบิดที่บริเวณสี่แยกราชประสงค์ ผ่านไปแล้ว 9 วัน แม้ผบ.ตรไม่ได้ออกมาเปิดเผยว่าสาเหตุเกิดจากอะไร แต่จากการวิเคราะห์ของเจ้าหน้าที่ตำรวจสันติบาลพบว่าเมื่อวิเคราะห์สัญญาณโทรศัพท์มือถือในวันเกิดเหตุ พบว่า ชายเสื้อเหลืองที่ปรากฏในภาพจากกล้องวงจรปิด ได้โทรศัพท์ไปติดต่อกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายเอ็นจีโอรายหนึ่งของอุยกูร์ และเชื่อว่าน่าจะเป็นกลุ่มผู้ที่มีความเชี่ยวชาญด้านวัตถุระเบิด

       ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ฝ่ายไทย เชื่อว่าผู้ที่วางระเบิดในครั้งนี้ต้องมาอาศัยอยู่ในประเทศไทยเป็นเวลานานพอสมควร จึงได้ส่งข้อมูลต่างๆ ให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองไปตรวจสอบ เพราะสามารถสอบข้อมูลย้อนหลัง ได้กว่า 6 เดือน ขณะนี้อยู่ระหว่างการวิเคราะห์ แต่จากหลักฐานที่ปรากฏทำให้เชื่อได้ว่ากลุ่ม ที่ลงมือน่าจะเป็นกลุ่มเกรย์ วูล์ฟส์เป็นผู้ก่อเหตุ หลังรัฐบาลไทยดำเนินนโยบายผิดพลาดกรณีส่งชาวอุยกูร์กลับไปให้ทางการสาธารณรัฐประชาชนจีน