'โบรกเกอร์-แม่'มอบตัวสูคดีหุ้นชูวงษ์ ยื่น 6 ล้าน ได้ประกัน ตร.แฉอีก พิรุธ 3 ปม เหตุรถชน

     มอบตัวอีก 2 คราวนี้คิวโบรกเกอร์สาวพร้อมแม่ยันได้หุ้นเสี่ยชูวงษ์มาโดยเสน่หา แต่ไม่รู้ใช้ปากกาอะไรเซ็น แจงแค่ตรวจสอบความถูกต้องของเอกสารขณะที่ยื่นประกันตัวด้วยเงินสดคนละ 3 ล้านบาท ศาลอนุญาต แต่ห้ามบินนอก ส่วนคดีการตายของเสี่ยชูวงษ์เริ่มมีเงื่อนงำ หลังตร.กองปราบฯรับโอนคดีแล้วพบพิรุธ 3 จุด คือเงื่อนเวลาที่ออกจากสนามกอล์ฟมาถึงจุดเกิดเหตุควรจะแค่ครึ่งชั่วโมง แต่ข้อเท็จจริงกลับกินเวลาชั่วโมงครึ่ง อีกจุดคือความเร็วที่ใช้ก่อนรถชนต้นไม้วัดได้แค่ 30 ก.ม.ต่อชั่วโมง แต่ บรรยิน ให้การขับมาด้วยความเร็ว 80 ก.ม. ต่อชั่วโมง ข้อสุดท้ายความเสียหายของรถ น้อยเกินไป อีกทั้งผู้ตายมีบาดแผลหลายจุด

วันที่ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2558 ปีที่ 25 ฉบับที่ 9038 ข่าวสดรายวัน

มอบตัว - น.ส.อุรชา วชิรกุลฑล โบรกเกอร์สาว พร้อมมารดา เข้ามอบตัวกองปราบฯ ให้การปฏิเสธข้อหาปลอมเอกสารโอนหุ้นของนายชูวงษ์ แซ่ตั๊ง ถูกนำฝากขัง ต่อศาล ก่อนยื่นหลักทรัพย์คนละ 3 ล้านบาท ประกันตัวไป

        เมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 26 ส.ค. ที่กองปราบปราม น.ส.ศรีธรา พรหมา อายุ 52 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ ที่ จ.561/2558 ลงวันที่ 24 ส.ค.2558 ข้อหาร่วมกันลักทรัพย์ หรือรับของโจร และ น.ส.อุรชา หรือป้อนข้าว วชิรกุลฑล อายุ 26 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ ที่ จ.562/2558 ลงวันที่ 24 ส.ค. 2558 ข้อหาร่วมกันลักทรัพย์ และร่วมกันปลอมและใช้เอกสารสิทธิปลอมโดยประการที่น่าจะก่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน สองแม่ลูกพร้อมนายเดชา ขุนทอง ทนายความ เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.ประเสริฐ พัฒนาดี รอง ผบก.ป. พ.ต.อ.จิรภพ ภูริเดช ผกก.1 บก.ป. พ.ต.ท.ณัฐพงศ์ เกิดเอี่ยม พงส.กก.1 บก.ป.เพื่อรับทราบข้อกล่าวหา
      ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากน.ส.ศรีธรา และน.ส.อุรชา เดินทางมาถึง นายเดชา ที่มารออยู่ก่อนแล้วก็พาเข้าไปยังห้องประชุมชิวปรีชา เพื่อรอพบพนักงานสอบสวน พร้อมปฏิเสธที่จะตอบคำถามกับสื่อมวลชน
      ต่อมาน.ส.อุรชา เปิดเผยว่า เรื่องที่ถูกดำเนินคดี ตนขอให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา และขอยืนยันว่าหุ้นที่นายชูวงษ์โอนมาให้นั้นได้มาโดยสุจริต ทุกอย่างทำตามขั้นตอนการโอนหุ้นอย่างถูกต้อง และได้มาโดยเสน่หา หากถามว่าพยานบุคคลมีไหม ตนคงไม่มีแต่ก็คิดว่าเรามีหลักฐานเอกสารน่าจะมีความสำคัญมากกว่า สำหรับนายชูวงษ์ กับพ.ต.ท.บรรยิน ยอมรับว่ารู้จักกับบุคคลทั้งสอง แต่ก็รู้จักกับนายชูวงษ์ก่อน ส่วนพ.ต.ท.บรรยิน นั้นรู้จัก แต่ไม่ได้มีความสนิทสนมอะไรเป็นพิเศษ
     น.ส.อุรชา เปิดเผยต่อว่า สำหรับเรื่องหลักทรัพย์ที่ต้องใช้ยื่นขอประกันตัว ยังไม่ทราบว่าต้องใช้หลักทรัพย์เป็นจำนวนเท่าใด ทราบว่าทนายความเตรียมไว้แล้วคงไม่ห่วงอะไร ส่วนกรณีข้อสงสัยเรื่องปากกาที่นายชูวงษ์ใช้สำหรับเซ็นเอกสารการโอนหุ้น ส่วนตัวแล้วไม่รู้ว่านายชูวงษ์ ใช้ปากกาชนิดใด เพราะขณะนั้นได้แต่ตรวจสอบความสมบูรณ์ของข้อความ และลายเซ็นในเอกสารเท่านั้น จึงไม่สามารถระบุได้ว่านายชูวงษ์ใช้ปากกาชนิดใด
     ผู้สื่อข่าวถามต่อถึงกรณีการโอนหุ้นว่า นายชูวงษ์เป็นผู้ดำเนินการเองทั้งหมดหรือไม่ น.ส.อุรชา ปฏิเสธที่จะตอบคำถาม โดยกล่าวเพียงสั้นๆ ว่า ตนเป็นเพียงแค่พนักงานของบริษัท หลักทรัพย์เออีซีฯ ส่วนการโอนหุ้น ดังกล่าวของนายชูวงษ์ เท่าที่ทราบ มีพนักงานของบริษัทอีกคนหนึ่งเป็นผู้ดำเนินการทั้งหมด
     ขณะที่พ.ต.อ.ประเสริฐกล่าวว่า เมื่อ ผู้ต้องหาทั้งสอง เดินทางเข้ามอบตัวกับพนักงานสอบสวนเอง เบื้องต้นก็จะแจ้ง ข้อกล่าวหาให้ทราบ และก็ดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป ส่วนผู้ต้องหาจะให้การปฏิเสธ หรือจะให้การอย่างไรก็เป็นสิทธิที่ทำได้ เรื่องพิจารณาจะให้ประกันตัวในชั้นนี้หรือไม่นั้น ก็ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของพนักงานสอบสวนจะพิจารณา
      ต่อมาเวลา 09.45 น. หลังการเข้ารับทราบข้อกล่าวหา พนักงานสอบสวนได้นำตัว น.ส.อุรชา และน.ส.ศรีธารา พิมพ์ลายนิ้วมือทำประวัติอาชญากรตามขั้นตอน ก่อนเริ่มสอบปากคำ โดยแยกกันสอบปากคำคนละห้อง
      ภายหลังสอบปากคำประมาณ 3 ชั่วโมง เจ้าหน้าที่ก็ควบคุมตัว น.ส.ศรีธรา และ น.ส. อุรชา เดินทางไปขออำนาจศาลอาญากรุงเทพใต้ เพื่อผัดฟ้องฝากขังเป็นครั้งแรกมีกำหนด 12 วัน นับตั้งแต่วันที่ 26 ส.ค.-6 ก.ย. นี้ ส่วนการสอบสวน ผู้ต้องหาทั้งสองให้การปฏิเสธ
       รายงานข่าวแจ้งด้วยว่า พนักงานสอบสวนขอคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากเกรงว่า ผู้ต้องหาจะหลบหนีได้ โดยคดีดังกล่าวมีมูลค่าความเสียหายสูง สำหรับการขอประกันตัวของผู้ต้องหาในชั้นศาล ก็จะขึ้นอยู่กับดุลพินิจของศาลที่จะพิจารณาอนุญาตหรือไม่
      รายงานข่าวแจ้งด้วยว่า สำหรับน.ส. กัญฐณา ศิวาธนพล แคดดี้สาว ผู้ต้องหาคนที่ 4 ในคดีนี้ ที่ยังไม่ได้เข้ามามอบตัวนั้น มีรายงานว่าทนายความของน.ส.กัญฐญา ติดต่อจะเดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวนเพื่อขอเข้ามอบตัว ในวันที่ 27 ส.ค. เวลา 09.00 น. ที่กองบังคับการปราบปราม
      ต่อมาเวลา 13.30 น. ที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ พนักงานสอบสวน บก.ป. คุมตัวน.ส. อุรชา และน.ส.ศรีธรา ยื่นคำร้องฝากขังต่อศาลอาญากรุงเทพใต้ผัดแรกเป็นเวลา 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 26 ส.ค.-6 ก.ย. ในความผิดฐานร่วมกันลักทรัพย์ ปลอมและใช้เอกสารสิทธิปลอมและรับของโจร
        ต่อมาเวลา 16.30 น. ศาลพิเคราะห์แล้วมีคำสั่งอนุญาตให้ น.ส.อุรชาและน.ส.ศรีธรา ได้รับการประกันตัวโดยตีราคาประกันเป็นหลักทรัพย์เงินสดคนละ 3 ล้านบาท กำหนดเงื่อนไขห้ามผู้ต้องหาเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับพยานหลักฐานในคดีและห้ามเดินทางออกนอกราชอาณาจักร เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากศาล
      สำหรับ การคลี่คลายคดีอุบัติเหตุของนาย ชูวงษ์นั้น ซึ่งมีการโอนคดีมาให้กองปราบปรามรับผิดชอบ มีรายงานว่าทีมสืบสวน ตรวจสอบเอกสารหลักฐาน พยานแวดล้อมต่างๆ ในคดีดังกล่าว เบื้องต้นพบความผิดปกติและพิรุธถึงสาเหตุการเสียชีวิตอยู่ 3 ประเด็นหลัก คือเรื่องคำให้การของ พ.ต.ท. บรรยิน ที่ขัดกับข้อเท็จจริงในเรื่องของเวลาการเกิดเหตุ เพราะจุดเกิดเหตุน่าจะใช้เวลาเดินทางมาจากสนามกอล์ฟไม่เกิน 30 นาที แต่หากนับเวลาตามคำให้การของ พ.ต.ท.บรรยิน ที่ทั้งคู่ออกจากสนามกอล์ฟมาจนถึงจุดเกิดเหตุนั้น กลับมีการใช้เวลานานถึง 1 ชั่วโมง 30 นาที
      เรื่องที่ 2 ก็คือ เจ้าหน้าที่พฐ. พบว่ารถยนต์ที่พ.ต.ท.บรรยิน ใช้ขับในวันเกิดเหตุนั้น ตรวจสอบอย่างละเอียดพบว่า ก่อนหน้าจะถึงจุดเกิดเหตุประมาณ 900 เมตร รถคันดังกล่าวใช้ความเร็วมาเพียงแค่ 38 กิโลเมตรต่อชั่วโมงเท่านั้น จึงไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นสาเหตุที่ทำให้เสียชีวิตได้ รวมทั้งคำให้การของพ.ต.ท. บรรยิน กลับอ้างว่า ในขณะนั้นใช้ความเร็ว 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
      ส่วนเรื่องที่ 3 ก็คือสภาพรถคันที่เกิดเหตุ ก็พบว่าเสียหายเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ขณะที่การตรวจสภาพศพของนิติเวชพบว่าร่องรอยของบาดแผลและสาเหตุของการเสียชีวิต แม้ว่าอาจจะเกิดจากอุบัติเหตุรถยนต์ได้ แต่ก็อาจเกิดจากสาเหตุอื่นได้ด้วยเช่นกัน โดยทีมสืบสวนตั้งข้อสังเกตว่า สภาพศพบริเวณท้ายทอยด้านหลังมีร่องรอยฟกช้ำ ประกอบกับมีแรงดันและเลือดที่บริเวณดวงตา ซึ่งข้อพิรุธทั้งหมดอยู่ระหว่างการตรวจสอบว่าเป็นไปได้มากน้อยแค่ไหน