หมวดหมู่: อาชญากรรม

1สามชาวตรก


ควานตัวมือรีโมต คนกดบึ้ม ล็อกอีก 1 ที่นราฯ สอบโยงวรรณา แฉแก๊งบุกกงสุล โผล่มาร่วมระเบิด เร่งพิสูจน์'ยูซุฟู'กับชายชุดเหลือง หมายจับตุรกีเพิ่ม

       ควานเพิ่มมือรีโมต-กดบึ้มราชประสงค์ พบ ต่อวงจรจากรถบังคับวิทยุ หลังค้นเจอที่ห้องพักหนองจอก แฉแกนนำอุยกูร์บุกทำลายกงสุลไทยในอิสตันบูลเกี่ยวข้องด้วย ออกหมายจับอีก 1 สามีชาวตุรกีของสาวพังงา เอาผิดฐานมีระเบิดในครอบครอง ประสาน บินไทยรับตัวสาวพังงา ระบุผลตรวจลายนิ้วมือ ผู้ต้องหาล่าสุดตรงกับที่พบบนถังใส่อุปกรณ์ ก่อเหตุในรังบึ้ม เผยเจอสูตรทำบึ้มในกระเป๋า บอกถึงสารทำระเบิดหลายอย่างขอให้ชายเสื้อฟ้าที่ถ่ายรูปเพื่อนมาพบตร. คาดถ่ายติดหน้าชายเสื้อเหลืองชัดเจน ด้านบิ๊กป้อมบินเยือนจีน ปัดไปรายงานเหตุบึ้ม "จักรทิพย์" รุดรายงานคืบหน้าคดีถึงสนามบิน ระบุคนที่ถูกจับมีสัญชาติตามพาสปอร์ต เค้นสอบยอมพูดบางส่วนเป็นภาษาตุรกี แต่ยังให้การปฏิเสธคดีระเบิด แฉโยง'อะเด็ม' เหตุอยู่ด้วยกัน ระบุเชิญสาวขายมือถือมาสอบแล้ว ถ้าพาดพิงถึงใครจะนำตัวมาพิสูจน์ ชี้ยังมีอีกหลายคน

 

วันที่ 03 กันยายน พ.ศ. 2558 ปีที่ 25 ฉบับที่ 9045 ข่าวสดรายวัน

     สั่งจับอีก - ภาพนายเอ็มระห์ ดาวูโตกลู ชาวตุรกี สามีน.ส.วรรณา สวนสัน สาวพังงา ขณะเดินทางออกจากสนามบินภูเก็ตไปต่างประเทศ เมื่อวันที่ 1 ก.ค.ที่ผ่านมา ล่าสุดถูกออกหมายจับข้อหาร่วมกันมียุทธภัณฑ์ ในคดีระเบิดกรุง

 

 

        จากเหตุระเบิดบริเวณแยกราชประสงค์ และท่าเรือสาทร ตำรวจออกหมายจับชายต่างชาติใส่เสื้อเหลือง และชายชาวเอเชียใส่เสื้อฟ้า มือวางระเบิด ก่อนจับกุมนายอะเด็ม คาราแด็ก สัญชาติตุรกี ได้ที่อพาร์ตเมนต์ย่านหนองจอก พร้อมระเบิดจำนวนมาก อีกทั้งค้นห้องพักอพาร์ตเมนต์ เขตมีนบุรี พบอุปกรณ์ประกอบระเบิดเช่นกัน จากนั้นออกหมายจับน.ส.วรรณา หรือไมซาเลาะ สวนสัน ชาวจ.พังงา ผู้เปิดห้องพักและหนุ่มต่างชาติคาดเป็นชาวตุรกี สามีของน.ส.วรรณา โดยทั้งคู่เดินทางไปอยู่ประเทศตุรกีแล้ว ต่อมาเจ้าหน้าที่จับกุมนายยูซุฟู มีไรลี หนุ่มอุยกูร์หนึ่งในทีมบึ้ม จนมุมบริเวณชายแดนอรัญประเทศ จ.สระแก้ว รูปร่างหน้าตาคล้ายชายเสื้อเหลืองที่สะพายเป้ซุกระเบิด มีตำหนิคางเผือก ค้นในกระเป๋าเจอกางเกง 3 ส่วนและสูตรระเบิด อีกทั้งยังพบประวัติเรียนด้านวิทยาศาสตร์เคมี ขณะที่พยาน 2 ปากที่เคยเห็นผู้ต้องหามาชี้ตัวก็ให้น้ำหนัก 70-80 เปอร์เซ็นต์ว่าเหมือนชายเสื้อเหลือง ที่สำคัญผลการตรวจสอบโทรศัพท์ มือถือพบอยู่บริเวณแยกราชประสงค์ในวันเกิดเหตุด้วย แต่ต้องรอพิสูจน์ดีเอ็นเออีกครั้ง ตามที่เคยเสนอข่าวไปนั้น

 

บิ๊กป้อม-บิ๊กโด่งบินเยือนจีน

      สำหรับ ความคืบหน้า เมื่อวันที่ 2 ก.ย. ที่ท่าอากาศยานทหาร 2 ดอนเมือง พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯและรมว.กลาโหม พร้อมด้วยพล.อ.อุดมเดช สีตบุตร ผบ.ทบ. และรมช.กลาโหม เดินทางเยือนสาธารณรัฐประชาชนจีน โดยมีพล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา รองผบ.ตร. ว่าที่ผบ.ตร. มารายงานความคืบหน้างานด้านความมั่นคงและเหตุระเบิดแยกราชประสงค์

พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า การไปเยือนจีนครั้งนี้เป็นตัวแทนของนายกฯ ซึ่งนายกกฯ ไม่ได้ฝากประเด็นใดเป็นพิเศษ และการไปครั้งนี้มีหลายภารกิจ ทั้งเรื่องขายข้าว งานด้านกลาโหม อีกทั้งจะได้พบกับนายกฯของจีน ฝ่ายทหาร หัวหน้าฝ่ายความมั่นคง

เมื่อถามว่าจะถือโอกาสไปเยี่ยมชาว อุยกูร์ที่ไทยส่งกลับไปจีนด้วยหรือไม่ พล.อ. ประวิตร กล่าวว่า ยังไม่มั่นใจเรื่องเวลา เพราะระยะทางไกล ซึ่งสมช.ได้ไปเยี่ยมมาแล้ว

     เมื่อถามว่า จะหารือกับจีนถึงเหตุระเบิดที่แยกราชประสงค์ด้วยหรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับจีน จะไปคุยทำไม เป็นเรื่องของเรา ขอให้มีความชัดเจนก่อน

     เมื่อถามว่า ได้รับรายงานเรื่องการจับกุมตัวผู้ต้องสงสัยและมีความเชื่อมโยงเป็นคน ที่วางระเบิดที่แยกราชประสงค์หรือไม่ รอง นายกฯ กล่าวว่า ได้รับรายงานแล้ว โดยยอมรับว่ามีความใกล้เคียงเยอะ แต่ต้องเช็กดีเอ็นเอและลายนิ้วมือ

 

รอพิสูจน์สัญชาติผู้ต้องสงสัย

     ผู้สื่อข่าวถามว่าข้อมูลเป็นประโยชน์ที่จะสาวถึงผู้บงการหรือไม่ พล.อ.ประวิตร ยอมรับว่าใช่ เจ้าหน้าที่จับกุมตัวได้ถือว่าเก่ง และทุกคนน่าจะพอใจ เพราะมีความใกล้เคียงเจ้าหน้าที่ทำงานกันหามรุ่งหามค่ำ ส่วนการพิสูจน์สัญชาติยังไม่มีความคืบหน้า ต้องให้คนสัญชาตินั้นเป็น ผู้มาพิสูจน์ว่าผู้ต้องสงสัยเป็นคนสัญชาตินั้นหรือไม่ เพราะมีหมายเลขบัตรประจำตัว

เมื่อถามว่ามีการรายงานหรือไม่ว่าผู้ต้องสงสัยที่ถูกจับล่าสุดเป็นชาวอุยกูร์ พล.อ. ประวิตรกล่าวว่า ยังไม่รายงานอะไรเลย สื่อพูดเองทั้งนั้น

      เมื่อถามว่าได้ประสานสถานทูตจีนและตุรกีหรือยัง พล.อ.ประวิตรปฏิเสธว่ายังไม่ประสานงานใดๆ เรื่องการประสานกับทาง การจีนและตุรกีไม่สำคัญ ต้องดำเนินการในส่วนของเราก่อน เรื่องโครงข่ายว่ามีความสัมพันธ์กับใครถือเป็นเรื่องใหญ่ ต้องจัดลำดับความสำคัญให้ดี ส่วนเรื่องอื่นอาจสร้างความขัดแย้งให้เกิดขึ้นได้ ต้องถามว่าจะทำอย่างไรต่อไป โครงข่ายจะเป็นอย่างไร

เมื่อถามว่าถึงขณะนี้จะโยงได้หรือไม่ว่า ผู้ต้องสงสัยเหตุระเบิดแยกราชประสงค์ที่จับกุมได้เกี่ยวข้องกับชาวอุยกูร์ พล.อ.ประวิตรกล่าวอย่างโมโหว่า "สื่อถามอย่างนี้ อุยกูร์ทั้งวัน วันนี้ยังไม่รู้เลยว่าเป็นประเด็นอะไร สื่อถามแบบนี้จะทำให้เกิดความขัดแย้งกับใครก็ไม่รู้ ทุกอย่างที่เราทำในเรื่องของอุยกูร์นั้น ทำเป็นขั้นตอนทุกอย่าง ไม่ได้ทำให้เสียหาย ซึ่งฝ่ายความมั่นคงตอบทุกขั้นตอนว่าทำอะไรบ้าง ทางยูเอ็นเอชซีอาร์ก็รู้มาตลอด ขอร้องสื่ออย่าทำให้เป็นประเด็นมาก พวกสื่อไปดูทำอย่างไรไม่ให้ตัวเองตาย ผู้สื่อข่าวไม่ให้ถูกยิงไม่ให้ถูกระเบิดอย่างนี้ดีกว่า"

 

ย้ำยังไม่ตัดประเด็นใดทิ้ง

      เมื่อถามว่ายังไม่ตัดประเด็นใดทิ้งใช่หรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ยังไม่ตัดประเด็นใดทิ้ง เพราะมีความเชื่อมโยงมากเท่าที่รู้มา จะต้องทำอย่างไรให้ประเทศเราปลอดภัย

     ต่อข้อถามว่า แนวโน้มจะได้ตัวผู้บงการแล้วใช่หรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า "อยากให้ผู้สื่อข่าวมายืนอยู่ตรงนี้บ้าง เรื่องนี้ เจ้าหน้าที่กำลังดำเนินการ เมื่อเกิดเหตุระเบิดทั่วโลกแล้วมีใครจับได้แบบนี้บ้าง แต่วันนี้ประเทศไทยจับได้ ทั้งที่มีเทคโนโลยีต่ำ จะซื้อเครื่องมืออะไรก็กล่าวหาว่าไม่โปร่งใส โจมตีอยู่ด้านเดียว อะไรๆ ก็ไม่โปร่งใส เราต้องมียุทโธปกรณ์ทางด้านนี้บ้าง"

เมื่อถามว่าที่จับกุมตัวผู้ต้องสงสัยได้บริเวณแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ได้รับความร่วมมือจากทางกัมพูชาด้วยใช่หรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ไม่ใช่ เป็นเรื่องที่ทหารของเราจับกุม ผู้ต้องสงสัยยังไม่ทันได้ข้ามไป และเจ้าหน้าที่ได้ประสานความร่วมมือไปทุกพื้นที่ รวมถึงชายแดนไทย-มาเลเซียที่มีด่าน ตม.ก็พยายามประสานงานทุกที่

 

จักรทิพย์ แฉพูดภาษาตุรกี

      ด้านพล.ต.อ.จักรทิพย์กล่าวถึงความคืบหน้าคดีว่า มีความคืบหน้าไป 70 เปอร์เซ็นต์แล้ว ส่วนการจับผู้ต้องสงสัยได้ที่ จ.สระแก้ว ยังไม่ได้พูดคุยด้วยและได้ส่งตัวให้ผบช.น. ทันที เพราะหน้าที่สอบสวนเป็นเรื่องของนครบาล

เมื่อถามว่าเป็นชาวอุยกูร์หรือไม่ พล.ต.อ. จักรทิพย์กล่าวว่า ตามพาสปอร์ตเป็นแบบนั้น เราดูตามเอกสาร แต่ต้องรอการยืนยันว่าเป็นเอกสารจริงหรือปลอม

      เมื่อถามว่าชายที่จับได้ยอมพูดอะไร หรือไม่ พล.ต.อ.จักรทิพย์กล่าวว่า เขาก็พูดบางส่วน เท่าที่ดูพูดภาษาตุรกี ซึ่งต้องใช้ล่ามแปล

     เมื่อถามว่ามีแนวโน้มใกล้เคียงกับชายเสื้อเหลืองที่ปรากฏในกล้องวงจรปิดในวันเกิดเหตุหรือไม่ รอง ผบ.ตร.กล่าวว่า รออีกนิด แต่ทุกอย่างก็เชื่อมโยงหมด

      เมื่อถามว่ายังขาดอะไรที่จะเป็นตัวบ่งชี้ได้ว่าคือมือวางระเบิด พล.ต.อ.จักรทิพย์กล่าวว่า ต้องรอคุยกับเขา แต่ทุกอย่างแนวทางการสืบสวนใกล้เคียง เมื่อถามว่าเจ้าตัวปฏิเสธหรือว่ายอมรับ พล.ต.อ.จักรทิพย์กล่าวว่า ธรรมชาติของผู้ต้องหาต้องปฏิเสธอยู่แล้ว แต่เขายอมรับว่าตอนเกิดเหตุอยู่ในพื้นที่ เขาบอกว่าอย่างนั้น

เมื่อถามว่ามีความเกี่ยวข้องกับนายอะเด็ม คาราแด็ก ผู้ต้องสงสัยที่จับได้คนแรกอย่างไร รอง ผบ.ตร.กล่าวว่า เกี่ยวโยงกันอยู่แล้วเรื่องนี้ เขาอยู่ด้วยกัน พักอยู่ใกล้ๆ กัน

      เมื่อถามว่าผู้ต้องสงสัยเล่าให้ฟังหรือไม่ว่าใครเชื่อมโยงอะไร พล.ต.อ.จักรทิพย์กล่าว ว่า ยัง แต่ยืนยันว่าจะทำให้ดีที่สุด เมื่อถามว่ามีการพูดถึงคนเสื้อฟ้าด้วยหรือไม่ พล.ต.อ. จักรทิพย์กล่าวว่า เราพูดกันเอง แต่เราก็ต้อง ตามหาอยู่แล้ว และเขาก็ยังไม่ได้บอกเบาะแสอะไร ทั้งนี้ เราไม่ต้องคุยกับเขามากอยู่แล้ว เราก็เดินของเราอยู่แล้ว

เมื่อถามว่าชายที่จับได้ที่ จ.สระแก้ว กำลังจะเดินทางไปไหน พล.ต.อ.จักรทิพย์กล่าวว่า เขาเข้าออกตรงนั้นเป็นปกติ

 

ยังพบเชื่อมโยงอีกหลายคน

      เมื่อถามว่ามาถึงจุดนี้ใกล้เข้าไปถึงตัวผู้บงการหรือยัง พล.ต.อ.จักรทิพย์กล่าวว่า ก็อยากให้ถึงเหมือนกัน ทำมาขนาดนี้ เต็มที่แล้ว 10 กว่าวันแล้ว เดินมาไม่ได้หยุดเลย

เมื่อถามว่าจะออกหมายจับเพิ่มอีกหรือไม่ รอง ผบ.ตร.กล่าวว่า ฝ่ายสอบสวนน่าจะมี เพราะตนเห็นโครงแล้ว ซึ่งใครที่เกี่ยวข้องจะนำตัวมาพิสูจน์ทราบทั้งหมด เพราะคดีนี้เป็นคดีใหญ่

      เมื่อถามว่านอกจากน.ส.วรรณา ยังมีคนไทยที่จะโดนหมายจับหรือเกี่ยวข้องอีกหรือไม่ พล.ต.อ.จักรทิพย์กล่าวว่า คราวที่แล้วก็นำตัวผู้หญิงที่ขายโทรศัพท์มาแล้ว แต่ถ้าพาดพิงถึงใครก็จะนำตัวมาพิสูจน์ทราบทั้งหมด ซึ่งมีอีกหลายคน

เมื่อถามว่าที่เตรียมออกหมายจับอีกกี่คน รอง ผบ.ตร.กล่าวว่า ขอให้ถามผบช.น. เพราะมีหน้าที่สืบสวน เมื่อถามว่าเครือข่ายนี้เชื่อมโยงอีกเยอะหรือไม่ พล.ต.อ.จักรทิพย์กล่าวว่า เยอะ

       เมื่อถามว่าตอนนี้บอกได้หรือยังว่าสาเหตุของการก่อเหตุมาจากอะไร พล.ต.อ.จักรทิพย์กล่าวว่า ยังไม่อยากบอกว่าสาเหตุอะไร ยังมีหลายสาเหตุ ไม่อยากตัดประเด็นใดประเด็นหนึ่ง รวมทั้งยังไม่ได้ตัดประเด็นภายในประเทศและการเมือง ทุกประเด็นยังอยู่ครบหมด เราค่อยๆ ต่อจิ๊กซอว์เรื่อยๆ

      เมื่อถามว่ามาถูกเป้าถูกทางแล้วใช่หรือไม่ พล.ต.อ.จักรทิพย์กล่าวว่า "ผมเชื่อว่าจากประสบการณ์การทำงานมาถูกทางอยู่แล้ว ผมว่าเร็วกว่าคดีเหตุระเบิดที่อื่นด้วยซ้ำ ที่อื่นเป็นปีกว่าจะได้รู้ตัว แต่นี่เราแค่ 14-15 วันเอง ทำมาได้ขนาดนี้"

 

สมยศ รับโยงบึ้มราชประสงค์

       ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) พล.ต.อ. สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผบ.ตร. กล่าวว่า เมื่อวันที่ 1 ก.ย.ที่ผ่านมา ทหารและตำรวจควบคุมตัวชายต้องสงสัยได้บริเวณชายแดนธรรมชาติ ต.บ้านป่าไร่ อ.อรัญประเทศ ส่วนความชัดเจนว่าผู้ต้องสงสัยรายนี้เป็นชายเสื้อเหลือง ซึ่งเป็นผู้นำระเบิดมาวางบริเวณแยกราชประสงค์หรือไม่ ยังไม่ยืนยันและไม่อยากด่วนสรุป เพราะการสอบสวนจนไปถึงการจับกุมได้ใช้พยานหลักฐาน ก่อนที่จะยืนยันว่าเป็นคนไหนอย่างไร จะต้องมีพยานหลักฐานเพียงพอ อย่างไรก็ตาม ผู้ต้องสงสัยรายนี้จะมีการแจ้งข้อหาเข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่ถูกต้องตามกฎหมาย

       "เบื้องต้นตำรวจยังไม่ด่วนสรุปเพราะต้องใช้พยานหลักฐานหลายอย่างมายืนยัน แต่จากข้อมูลที่ได้มามีความเป็นไปได้ แต่อย่างน้อยสามารถฟันธงหรือเชื่อมั่นว่าชายต้องสงสัยรายนี้มีส่วนอยู่ในขบวนการที่ก่อเหตุบริเวณศาลท้าวมหาพรหม แยกราชประสงค์อย่างแน่นอน ส่วนจะเกี่ยวข้องอย่างไรขณะนี้เราสามารถยืนยันว่าเขาอยู่ในขบวนการแน่นอน เพราะมีพยานหลักฐานหลายอย่างชี้ชัด เขามีส่วนรู้เห็นแน่นอน แต่จะให้ฟันธงว่าเป็นคนนั้นหรือเป็นตัวละครตัวนั้นตัวนี้ขอเวลาให้เจ้าหน้าที่ทำงานสักระยะ" พล.ต.อ.สมยศกล่าว

 

รอผลตรวจดีเอ็นเอยืนยัน

       พล.ต.อ.สมยศ กล่าวต่อว่า สำหรับการให้ปากคำของผู้ต้องสงสัยยังไม่สามารถเปิดเผยได้ ตามขั้นตอนของตำรวจหลังจากนี้จะดำเนินการตามปกติทุกอย่าง เมื่อจับกุมผู้ต้องสงสัยต้องรวบรวมพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุ ทั้งประจักษ์พยานและพยานแวดล้อม รวมทั้งนำภาพผู้ต้องสงสัยรายนี้ให้พยานดูเพื่อยืนยัน เรื่องสัญชาติก็เช่นเดียวกัน เนื่องจากผู้ต้องสงสัยรายนี้ใช้พาสปอร์ตปลอมในการเข้า-ออกประเทศไทยจึงไม่สามารถรีบด่วน สรุปจากคำให้การหรือจากคำบอกเล่า รวม ทั้งพาสปอร์ตที่ผู้ต้องสงสัยถือได้ เพราะ พาสปอร์ตเป็นของปลอม

       พล.ต.อ.สมยศกล่าวอีกว่า ส่วนการตรวจดีเอ็นเอและลายนิ้วมือแฝงของผู้ต้องสงสัยเพื่อเปรียบเทียบกับวัตถุพยาน เป็นหน้าที่ของ เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน แต่ผลเป็นอย่างไรไม่สามารถเปิดเผยได้เช่นกัน สำหรับการตรวจลายพิมพ์นิ้วมือสามารถเปรียบเทียบได้ทันที แต่เรื่องดีเอ็นเอต้องใช้เวลาในการตรวจ เพราะที่ผ่านมาได้เก็บตัวอย่างดีเอ็นเอในที่เกิดเหตุ บางครั้งมีดีเอ็นเอที่แปลกปลอม เจ้าหน้าที่ต้องใช้เวลาในการจำแนก

      เมื่อถามกึงกรณีที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ให้สัมภาษณ์ว่าผู้ต้องสงสัยรายนี้น่าจะเป็นชายเสื้อเหลือง พล.ต.อ.สมยศกล่าวว่า ตนก็อยากให้เป็นอย่างที่นายกฯ ต้องการ อยากให้เป็นชายเสื้อเหลืองที่เป็นผู้นำระเบิดมาวาง เพราะหากเป็นชายเสื้อเหลืองจริงจะสามารถสร้างความมั่นใจให้ชาวต่างชาติและนักท่องเที่ยวว่าตำรวจจับกุมคนร้ายได้แล้ว แต่เราจะรีบด่วนสรุปเช่นนั้นไม่ได้เพราะหากเกิดความผิดพลาดก็คงไม่ดี

     พล.ต.อ.สมยศกล่าวถึงกรณีน.ส.วรรณา ผู้ต้องหาที่ถูกออกหมายจับไปก่อนหน้านี้และเดินทางไปประเทศตุรกี ต้องการเดินทางกลับประเทศไทยและมีการประสานขอให้ทางการไทยออกค่าเครื่องบินให้ว่า สั่งการให้พล.ต.ท. ประวุฒิ ถาวรศิริ ผู้ช่วยผบ.ตร.และโฆษก ตร. ประสานสถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงอังการา ประเทศตุรกี ให้ดำเนินการให้ ส่วนจะมาเมื่อใดหรือมากับใครไม่สามารถตอบได้

 

ออกหมายสามีตุรกีสาวพังงา

       ด้านพล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ ผู้ช่วยผบ.ตร. และโฆษกตร. กล่าวว่า ล่าสุดศาลจังหวัดมีนบุรีอนุมัติหมายจับผู้เกี่ยวข้องอีก 1 ราย คือนายเอ็มระห์ ดาวูโตกลู ชาวตุรกี ในข้อหาร่วมกันมีซึ่งยุทธภัณฑ์ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ทั้งนี้นายเอ็มระห์ เป็นสามีของน.ส.วรรณา ผู้ต้องหาตามหมายจับชาวไทยผู้ที่เช่าอพาร์ตเมนต์ย่านมีนบุรี ส่วนผลการตรวจดีเอ็นเอของผู้ต้องสงสัยที่จับกุมได้เมื่อวันที่ 1 ก.ย.ที่ผ่านมา พบตรงกับลายนิ้วมือแฝงในถังบรรจุอุปกรณ์ที่ใช้ก่อเหตุ ซึ่งพบในห้องพักหมายเลข 414 ภายในพูลอนันต์อพาร์ตเมนต์ ย่านหนองจอก

      โฆษกตร.กล่าวอีกว่า จากข้อมูลของเจ้าหน้าที่ยืนยันได้ว่านายเอ็มระห์ เกี่ยวข้องกับการก่อเหตุระเบิดแน่นอน ส่วนจะทำหน้าที่เป็นผู้ประกอบระเบิดหรือนำระเบิดไปวางนั้น ต้องตรวจสอบโดยใช้พยานบุคคลและพยานหลักฐานมายืนยันอีกครั้ง เนื่องจากในที่เกิดเหตุพบลายนิ้วมือแฝงอยู่จำนวนมาก จึงต้องใช้เวลาในการเปรียบเทียบ

      พล.ต.ท.ประวุฒิ กล่าวต่อว่า ผู้ที่ถูกออกหมายจับรายล่าสุดนั้น ถือเป็นผู้อยู่ในขบวนการก่อเหตุระเบิดในกรุงเทพฯ โดยพบว่า 2 สามีภรรยาคือ นายเอ็มระห์ และน.ส.วรรณา ได้เดินทางออกนอกประเทศไปพร้อมกัน แต่จะอยู่ด้วยกันหรือไม่ยังไม่มีอะไรยืนยัน ส่วนคำให้การของชายต่างชาติที่จับได้บริเวณด่านชายแดน จ.สระแก้ว ที่มีกระแสข่าวระบุว่ายอมรับสารภาพแล้วว่าอยู่ในที่เกิดเหตุนั้น ตอนนี้ยังไม่ทราบ ต้องตรวจสอบอีกครั้ง โดยขณะนี้ผู้ต้องหาอยู่ในการควบคุมของทหาร ซึ่งตอนนี้มีการออกหมายจับทั้งสิ้น 8 หมาย และคาดว่าจะมีการออกหมายจับเพิ่มเติมอีก

      "ตำรวจได้ประสานไปยังเจ้าหน้าที่ทูตประเทศ ที่น.ส.วรรณาอยู่ แต่ล่าสุดยังไม่ได้ติดต่อกลับมา หากติดต่อมาตำรวจก็จะประสานขอให้ทางการบินไทยช่วยเหลือด้านการเดินทางกลับประเทศไทย" โฆษกตร.กล่าว

 

โฆษกตร.รับพบสูตรทำบึ้ม

     เมื่อถามถึงกรณีญาติน.ส.วรรณา สงสัยในการออกหมายจับ พล.ต.ท.ประวุฒิกล่าวว่า การออกหมายจับเป็นไปตามขั้นตอนการสืบสวน ซึ่งเจ้าหน้าที่พบว่าน.ส.วรรณา เป็นผู้เช่าห้องพัก และปรากฏว่าในห้องดังกล่าวเพื่อนสามีเข้ามาอยู่ และเพื่อนสามีก็มีระเบิดในครอบครอง จึงสันนิษฐานว่าน.ส.วรรณาต้องมีส่วนเกี่ยวข้อง แม้ว่าการให้สัมภาษณ์ของน.ส.วรรณา ผ่านสื่อมวลชนจะปฏิเสธไม่เกี่ยวข้องก็ตาม แต่ถึงอย่างไรก็สามารถเข้ามาต่อสู้คดีตามขั้นตอนทางกฎหมายได้ แต่ตอนนี้ยังไม่ยืนยันว่าน.ส.วรรณาจะกลับมาต่อสู้คดี เพราะติดต่อผ่านทางโซเชี่ยลมีเดียกับเจ้าหน้าที่ จึงไม่ค่อยแน่ชัด โดยตอนนี้ระบุว่าขอคิดดูก่อนว่าจะเข้ามาเมื่อใด เมื่อทางการออกหมายจับสามีด้วย น.ส.วรรณาอาจต้องคิดใหม่ก็ได้

     เมื่อถามว่า ผู้ต้องสงสัยที่ถูกจับกุมที่จ.สระแก้ว เจ้าหน้าที่พบสูตรการประกอบระเบิดชนิดเดียวกับที่ก่อเหตุ พล.ต.ท.ประวุฒิกล่าวว่า เท่าที่ดูมีสารหลายตัว ซึ่งอาจไม่ได้เป็นสารผิดกฎหมาย แต่เป็นสารที่สามารถนำมาประกอบหรือใช้เป็นวัสดุที่เพิ่มความไวต่อการติดไฟ หรือใช้เป็นเชื้อปะทุหรือใช้แทนเชื้อปะทุในการขยายการระเบิดได้ ต้องรอให้ผู้ชำนาญทำการวิเคราะห์และสรุปเป็นลายลักษณ์อักษร คาดว่าผู้ต้องสงสัยน่าจะมีความรู้ด้านนี้ จะได้เปิดเผยเป็นทางการอีกครั้ง

เมื่อถามว่าเชื่อมโยงอุยกูร์หรือไม่ พล.ต.ท. ประวุฒิกล่าวว่า เจ้าหน้าที่รัฐยังไม่อยากสรุปว่าเป็นกลุ่มไหน แต่ถือเป็นกลุ่มหนึ่งที่เป็นขบวนการนำคนเข้ามาและเดินทางต่อไปยังประเทศอื่นโดยผิดกฎหมาย มีทั้งคนไทยร่วมกับชาวต่างชาติในขบวนการนี้ แต่ตอนนี้ เจ้าหน้าที่มั่นใจว่าเกี่ยวข้องในขบวนการก่อเหตุแน่ ไม่เป็นคนประกอบระเบิดก็เป็นผู้นำระเบิดไปวาง ส่วนการระบุสัญชาตินั้นต้องรอให้ประเทศที่เกี่ยวข้องยืนยัน ต้องใช้เวลาสอบถาม อาจมี 2-3 ประเทศ

 

ผลลายนิ้วมือตรงกับในรังระเบิด

     วันเดียวกัน พ.อ.วินธัย สุวารี โฆษกคสช. พร้อมด้วยพล.ต.ท.ประวุฒิ ร่วมแถลงการประชุมศูนย์ติดตามสถานการณ์คสช. โดยพล.ต.ท.ประวุฒิกล่าวถึงคดีระเบิดว่า จากกรณีควบคุมตัวชายต่างชาติผู้ต้องสงสัย ซึ่งพยายามเดินทางออกนอกประเทศไทยโดยช่องทางธรรมชาติ บริเวณบ้านป่านไร่ จ.สระแก้ว เมื่อวันที่ 1 ก.ย.นั้น จากผลการสืบสวนขยายผลพบว่าตรงกับผลการสืบสวนที่ผ่านมาว่าชาย ผู้นี้มีความสำคัญที่มีความเกี่ยวเนื่องร่วมกับ ผู้กระทำผิดในการลักลอบวางระเบิดบริเวณแยกราชประสงค์และท่าเรือสาทร

      พล.ต.ท.ประวุฒิ กล่าวอีกว่า โดยในวันนี้ผลจากการตรวจสอบลายพิมพ์นิ้วมือที่ส่งให้กองพิสูจน์หลักฐานตรวจสอบได้ผลออกมาแล้วพบว่า ชายคนดังกล่าวมีลายพิมพ์นิ้วมือเดียวกันกับลายนิ้วมือที่อยู่บนขวดบรรจุสารระเบิดภายในห้องพัก 414 อพาร์ตเมนต์ย่านหนองจอก สามารถยืนยันได้ว่าชายคน ดังกล่าวมีส่วนเกี่ยวข้องกับระเบิด โดยอาจเป็นคนนำระเบิดออกจากห้องหรืออาจนำระเบิดไปยังที่เกิดเหตุ ซึ่งการสืบสวนกำลังดำเนินการกับวัตถุพยานหรือข้อมูลทางชีวภาพที่เก็บได้ในที่เกิดเหตุ ส่วนการออกหมายจับชาย 3 คนเพิ่มเติมเมื่อวันที่ 1 ก.ย.ที่เผยแพร่ไปแล้วนั้น ตรวจสอบพบว่ามีส่วนเกี่ยวข้องอยู่ในผู้ต้องสงสัยที่อยู่กลุ่มเดียวกันทั้งหมดที่พักในอาคารพูลอนันต์อพาร์ตเมนต์

"ขอความร่วมมือชายเสื้อสีฟ้าที่ถ่ายรูปเพื่อน โดยหันมุมกล้องดังกล่าว คาดว่าน่าจะถ่ายรูปติดชายต้องสงสัยที่ใส่เสื้อสีเหลือง ซึ่งน่าจะเห็นภาพได้ชัดเจน หากใครรู้จักก็ขอความร่วมมือให้ติดต่อเจ้าหน้าที่โดยด่วน ซึ่งข้อมูลทุกอย่างจะเก็บเป็นความลับ" โฆษกตร.กล่าว

      ที่กระทรวงการต่างประเทศ จากที่มีรายงานก่อนหน้านี้ว่าน.ส.วรรณา จะติดต่อเข้ามอบตัวกับสถานเอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงอังการา ประเทศตุรกีนั้น นายธฤต จรุงวัฒน์ เอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงอังการา กล่าวว่า สถานเอกอัครราชทูตฯ ยังไม่ได้รับการติดต่อจากน.ส.วรรณา แต่อย่างใด

 

บิ๊กตู่ทุ่มรางวัลให้ทหารจับกุม

      ที่เทศบาลนครแม่สอด จ.ตาก พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและหัวหน้าคสช. กล่าวถึงความคืบหน้าคดีระเบิดว่า ผลการสอบสวนจะรู้ต้นสายปลายเหตุของผู้ก่อเหตุ ตำรวจจะต้องสอบสวน ถ้ายังสืบไม่ถึงแล้วเขายังไม่ตอบ จะให้ทำอย่างไร หรือจะให้ไปซ้อม รัดคอ บีบคอเขาหรืออย่างไร ระหว่างนี้ตำรวจกำลังสอบด้วยมาตรการที่เป็นไปตามกฎหมาย ซึ่งเวลานี้เขาปฏิเสธไม่ได้ จากหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ ดีเอ็นเออะไรต่างๆ และตำรวจก็แถลงแล้วว่าคนที่จับได้ยังไงก็ต้องเกี่ยวข้องกับระเบิดที่แฟลต เพราะดีเอ็นเอติดอยู่แต่จะโยงไปตรงเหตุระเบิดที่ราชประสงค์ หรือไม่ ตำรวจกำลังสอบต่อ

     "ถ้าอยากให้การสอบสวนเสร็จเร็ว ไปดูหนังเรื่องซีเอสไอ จับผู้ร้ายได้หมด ทุกอย่างจะทำได้หมด โธ่... ต่างชาติยังทำไม่ได้ กี่คดีที่ยังจับไม่ได้ ทำไมไม่ดูเขาบ้างมันก็ธรรมดา เครื่องมือเราทันสมัยหรือยัง เราก็พยายามพัฒนาประสิทธิภาพอยู่นี่ไง ฉะนั้นขอให้ช่วยกัน อย่าติติงกันมากนักอย่าใจร้อน วันนี้มีการวิพากษ์วิจารณ์ทุกวัน ทุกช่องโอ้ มันเก่งกว่าตำรวจอีก ไอ้นั่นต้องอย่างนี้สงสัยอย่างนั้น ทำไมไม่เป็นตำรวจซะ แต่มาเป็นพิธีกร วิเคราะห์กันเป็นบ้าเป็นหลัง ทำให้สังคมสับสน ตำรวจมีวิธีการสอบสวนอยู่ จะเชื่อมโยงยึดโยงด้วยสาเหตุอะไร อย่าเพิ่งไปสรุปมากนัก" นายกฯ กล่าว

      ผู้สื่อข่าวถามว่า ในจุดผ่านแดนต่างๆ จะต้องมีการจัดระเบียบใหม่หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า กำลังจัดระเบียบอยู่ ต้องมีมาตรการเครื่องไม้เครื่องมือเพิ่มเติมและทำด่านใหม่ หากแรงงานจะเข้ามาในประเทศไทย ต้องผ่านระบบการตรวจสอบ ตรงนี้อาจเป็นแหล่งผลประโยชน์ วันนี้ได้สั่งไปแล้ว ถ้าเกิดเหตุการณ์แบบนั้นเจ้าหน้าที่ต้องโดนย้ายแล้วทำโทษทันที

ผู้สื่อข่าวถามว่าตำรวจมีเงินรางวัลนำจับ แล้วทหารที่มาร่วมจับจะมีการพิจารณาให้เงินรางวัลด้วยหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ต้องดูเรื่องงบประมาณ บางทีไม่ได้ เงินรางวัลดังกล่าวไม่ใช่ของตำรวจทั้งหมด แต่เป็นนักธุรกิจให้มา แต่ทหารไม่ค่อยมีเพื่อนแบบนั้น ทหารจน ถ้าหัวหน้าชุดทหารที่ร่วมปฏิบัติการกับตำรวจซึ่งรู้จักกันมานาน อยากได้เงินรางวัลให้มาเอากับตน จะให้สักก้อนสักมัดนึง

 

ตร.เร่งเช็กประวัติสามีสาวพังงา

      ส่วนที่จ.พังงา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจาก น.ส.วรรณา ถูกออกหมายจับ เนื่องจากต้องสงสัยพัวพันการวางระเบิดแยกราชประสงค์ ทำให้ถูกเพื่อนบ้านและสังคมออนไลน์กล่าวหาพาดพิง ส่งผลให้ญาติพี่น้องถูกเรียกไปสอบสวนและเกิดความไม่สบายใจ โดยเฉพาะมารดาของน.ส.วรรณา ทำให้ญาติต้องออกมาร้องขอความเป็นธรรมกับสังคม

     น.ส.สุดา สวนสัน พี่สาวน.ส.วรรณา ยอมรับว่ามีการติดต่อพูดคุยกับน้องสาวที่อยู่ประเทศตุรกีตลอดเวลา และพร้อมเดินทางกลับมามอบตัวกับตำรวจ ซึ่งได้ติดต่อกับตำรวจแล้ว แต่ที่ยังไม่สามารถเดินทางกลับได้ เนื่องจากเกรงจะไม่ปลอดภัยและไม่ได้รับความเป็นธรรม เชื่อว่า น.ส.วรรณา จะกลับเข้ามามอบตัวภายในสัปดาห์หน้าแน่นอน

     นอกจากนี้ ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดพังงา เดินทางมายังบ้านพักของน.ส.วรรณา ในอ.คุระบุรี เพื่อสอบถามรายละเอียดเกี่ยวกับพฤติกรรมสามีของน.ส.วรรณา ขณะเข้ามาพักอาศัยอยู่ในจ.พังงา เนื่องจากพบเดินทางไปต่อ วีซ่าที่จ.สระแก้ว ก่อนมาขอขยายเวลาอยู่ต่อในจ.พังงาอีก 30 วัน และเดินทางกลับประเทศตุรกี

 

ควานเพิ่มมือรีโมตกดบึ้ม

      รายงานข่าวแจ้งว่า เจ้าหน้าที่กำลังเร่งตรวจสอบหาวิธีการจุดชนวนระเบิด บริเวณแยกราชประสงค์ โดยจากการตรวจสอบพบระเบิดทำงานอย่างครบวงจร ทำให้อานุภาพการทำลายล้างสร้างความเสียหายเป็นวงกว้าง ในตอนแรกเจ้าหน้าที่ชุดคลี่คลายคดีคาดว่ามือระเบิดอาจใช้วิธีการประกอบด้วยการใช้นาฬิกาตั้งเวลา ก่อนให้ชายเสื้อเหลืองนำระเบิดที่ซุกในกระเป๋าสะพายมาวางไว้ภายในศาลท้าวมหาพรหม แต่เมื่อตรวจสอบรอบจุดเกิดเหตุไม่พบแผงวงจร ต่อมาชุดสืบสวนเข้าตรวจค้นภายในอพาร์ตเมนต์ย่านหนองจอกและมีนบุรี ก่อนเจ้าหน้าที่ได้เบาะแสสำคัญของการจุดชนวนระเบิด เมื่อพบรถบังคับวิทยุอยู่ภายในห้องพักหลายคัน จึงคาดว่าการจุดชนวนระเบิดบริเวณแยกราชประสงค์ กลุ่มคนร้ายใช้วิธีจุดชนวนด้วยรีโมต โดยใช้อุปกรณ์จากรถบังคับวิทยุ

      ตอนนี้ชุดคลี่คลายคดีกำลังเร่งย้อนตรวจสอบกล้องวงจรปิดในช่วงเวลาเกิดเหตุอีกครั้ง เพื่อแกะรอยหาบุคคลต้องสงสัยเพิ่มเติมอีกคน นอกเหนือไปจากชายเสื้อเหลืองที่นำระเบิดมาวางไว้ โดยพุ่งเป้าไปยังบุคคลที่ท่าทางมีพิรุธหรือมีท่าทางคล้ายกำลังกดรีโมตในช่วงนาทีก่อนเกิดเหตุ ทั้งนี้เจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่ามีความเป็นไปได้ที่ชายต้องสงสัย ซึ่งถูกจับกุมบริเวณด่านชายแดน อ.อรัญประเทศ อาจเป็นผู้ทำหน้าที่ประกอบระเบิดหรือเป็นผู้กดรีโมตจุดชนวนระเบิดก็เป็นได้ แต่ต้องรอผลการตรวจดีเอ็นเอมาเทียบเคียงยืนยันอีกครั้ง

     รายงานข่าวแจ้งอีกว่า จากแนวทางการสืบสวนยังทราบอีกว่า การก่อเหตุลอบวางระเบิดบริเวณแยกราชประสงค์และสะพานสาทร พบมีแกนนำชาวอุยกูร์ที่เคลื่อนไหวและบุกทำลายสถานกงสุลไทยในนครอิสตันบูล ประเทศตุรกี เมื่อวันที่ 9 ก.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งไม่พอใจรัฐบาลไทยส่งตัวชาวอุยกูร์ 109 คนให้ทางการจีน เข้ามาเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ครั้งนี้ด้วย ซึ่งเรื่องนี้เจ้าหน้าที่กำลังเร่งสอบสวนขยายผล

 

คุมหนุ่มนราฯสอบเพิ่ม

    รายงานข่าวแจ้งด้วยว่า เมื่อช่วงเย็นวันที่ 1 ก.ย.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ชุดพิเศษในพื้นที่จ.ยะลา และจ.นราธิวาส ได้รับการประสานจากหน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส 36 ในการส่งตัวบุคคลต้องสงสัย 1 ราย ทราบชื่อนายกามารุเด็ง สาเหาะ อายุ 38 ปี ชาว อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส ซึ่งตกเป็นผู้ต้องสงสัย เนื่องจากตรวจสอบพบความเชื่อมโยงในการใช้โทรศัพท์ติดต่อกับน.ส.วรรณา เจ้าหน้าที่จึงอาศัยอำนาจตามพ.ร.บ.กฎอัยการศึก ส่งตัวมาฝากควบคุมที่หน่วยซักถาม กรมทหารพราน 46 ต.กะลุวอเหนือ อ.เมือง จ.นราธิวาส จากนั้นส่งตัวขึ้นเฮลิคอปเตอร์มาสอบสวนต่อที่มทบ.11 โดยเตรียมเชิญล่ามภาษายาวีมาช่วยแปลภาษาด้วย

 

 

อยู่'ราชประสงค์'ขณะบึ้ม'ยูซุฟู'เผย ตร.ตามตัวพยานเสื้อฟ้า ยืนถ่ายรูปที่'พระพรหม'หาภาพชัดมัดมือบอมบ์ พาสปอร์ตชี้เป็น'อุยกูร์'หมายจับสามี'วรรณา' บิ๊กแป๊ะยันคดีคืบ 70%

      'ยูซุฟู'รับอยู่ราชประสงค์วันบึ้ม ปัดมีเอี่ยว โฆษก ตร.ยืนยันลายนิ้วมือมัดตรงห้องพักย่านหนองจอก 'บิ๊กอ๊อด'เผยรอผลพิสูจน์

มติชนออนไลน์

ค้นห้อง - พ.ต.อ.วัฒนา ยี่จีน รอง ผบก.น. 3 รักษาการ ผกก.สน.มีนบุรี พร้อมกำลังเข้าตรวจค้นห้องพักที่มีชาวต่างชาติอาศัยอยู่ บริเวณหอพักย่านซอยราษฎร์อุทิศ 44 / 2 แขวงแสนแสบ เขตมีนบุรี กทม. ขณะที่ศาลจังหวัดมีนบุรีได้อนุมัติออกหมายจับ นายเอ็มระห์ ดาวูโตกลู ชาวตุรกี สามีของน.ส.วรรณา สวนสัน ในข้อหามียุทธภันฑ์ไว้ในครอบครอง เมื่อวันที่ 2 กันยายน

 



ตามหา - พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติแถลงขอความร่วมมือชายเสื้อสีฟ้า (มุมขวาล่าง) ที่ยืนถ่ายรูปกับเพื่อน คาดว่าน่าจะถ่ายรูปติดชายต้องสงสัยที่ใส่เสื้อสีเหลือง (ซ้าย) ไว้ได้ บริเวณศาลท้าวมหาพรหม แยกราชประสงค์ ให้ติดต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยข้อมูลทุกอย่างจะเก็บเป็นความลับ เมื่อวันที่ 2 กันยายน

 



@ 'ผบ.ตร.'ไม่ฟันธงชายเสื้อเหลือง 

     เมื่อวันที่ 2 กันยายน ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เปิดเผยความคืบหน้าคดีระเบิดศาลท้าวมหาพรหม แยกราชประสงค์ และระเบิดที่ท่าเรือสาทร ซึ่งล่าสุดมีการจับกุมชายชาวต่างชาติต้องสงสัยตัวการสำคัญและอาจเป็นชายเสื้อเหลืองมือวางระเบิดได้ที่บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา บ้านป่าไร่ ต.ป่าไร่ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ถือพาสปอร์ตชื่อนายยูซุฟู มีไรลี จากมณฑลซินเจียง ประเทศจีน หลังจากที่ก่อนหน้านี้มีการควบคุมตัวชายต่างชาติต้องสงสัยพร้อมวัตถุประกอบระเบิดจำนวนมากได้ที่อพาร์ตเมนต์แห่งหนึ่งย่านหนองจอก เมื่อวันที่ 29 สิงหาคมที่ผ่านมา และขณะนี้มีการออกหมายจับผู้เกี่ยวข้องแล้วจำนวน 7 คน ในจำนวนนี้รวมถึง น.ส.วรรณา สวนสัน หรือนางไมซาเราะห์ อายุ 26 ปี มีภูมิลำเนา จ.พังงา เจ้าของห้องเช่าอพาร์ตเมนต์ที่มีนบุรีว่า ความชัดเจนของชายผู้ต้องสงสัยที่ถูกจับได้ที่บ้านป่าไร่ อ.อรัญประเทศ จะเป็นชายเสื้อเหลืองที่นำระเบิดมาวางที่ศาลท้าวมหาพรหมหรือไม่ ยังไม่ยืนยัน และไม่อยากให้ด่วนสรุป เพราะการสอบสวนจนไปถึงการจับกุมต้องมีพยานหลักฐานที่เพียงพอ หลักฐานเพียงส่วนเดียวคงไม่เพียงพอที่จะสรุปว่าเป็นคนนั้นคนนี้

      "เบื้องต้นตำรวจยังไม่ด่วนสรุป เพราะจะต้องใช้พยานหลักฐานหลายๆ อย่างยืนยัน แต่จากข้อมูลที่ได้มามีความเป็นไปได้ อย่างน้อยสามารถฟันธงหรือเชื่อมั่นว่าชายต้องสงสัยรายนี้มีส่วนอยู่ในขบวนการที่ก่อเหตุที่ศาลท้าวมหาพรหมอย่างแน่นอน เพราะมีพยานหลักฐานหลายอย่างชี้ชัด เขามีส่วนรู้เห็นแน่นอน แต่จะให้ฟันธงว่าเขาเป็นคนนั้นหรือเป็นตัวละครตัวนั้นตัวนี้ ขอเวลาให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทำงานสักระยะ" ผบ.ตร.กล่าว 

@ ส่งพยานชี้ภาพมัดมือบึ้ม

       พล.ต.อ.สมยศกล่าวต่อว่า การให้ปากคำของผู้ต้องสงสัยยังไม่สามารถเปิดเผยได้ ขั้นตอนของตำรวจจากนี้ดำเนินการตามขั้นตอนปกติทุกอย่างจะต้องรวบรวมพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุทั้งประจักษ์พยานและพยานแวดล้อม และนำภาพผู้ต้องสงสัยรายนี้ให้พยานดูเพื่อยืนยัน แต่ยืนยันว่าตำรวจได้ดำเนินการทุกอย่างแล้ว ขอไม่เปิดเผยในรายละเอียด ส่วนเรื่องสัญชาติผู้ต้องสงสัยรายนี้ใช้พาสปอร์ตปลอมเข้า-ออกประเทศไทยจึงไม่สามารถรีบด่วนสรุปจากคำให้การ คำบอกเล่า และพาสปอร์ตที่ผู้ต้องสงสัยถือได้ เพราะพาสปอร์ตเป็นของปลอม ส่วนการตรวจลายพิมพ์นิ้วมือสามารถเปรียบเทียบได้ทันทีแต่เรื่องดีเอ็นเอต้องใช้เวลาในการตรวจ 

    ผู้สื่อข่าวถามกรณีที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ระบุว่า ผู้ต้องสงสัยรายนี้น่าจะเป็นชายเสื้อเหลือง พล.ต.อ.สมยศกล่าวว่า ก็อยากให้เป็นอย่างที่นายกฯ ต้องการ อยากให้เป็นชายเสื้อเหลืองที่เป็นผู้นำระเบิดมาวาง เพราะหากเป็นชายเสื้อเหลืองจริงจะสามารถสร้างความมั่นใจให้กับชาวต่างชาติและนักท่องเที่ยวว่าตำรวจสามารถจับกุมคนร้ายได้แล้ว 

@ ประสานสถานทูตไทยตุรกี

     เมื่อถามถึงการพิสูจน์สัญชาติของผู้ต้องสงสัย พล.ต.อ.สมยศกล่าวว่า เป็นขั้นตอนที่จะต้องตรวจสอบว่าผู้ต้องหาถือพาสปอร์ตของประเทศอะไร ก็ต้องมีการตรวจสอบกับสถานทูตของประเทศนั้นว่าพาสปอร์ตที่ผู้ต้องสงสัยถือเป็นของจริงหรือไม่ หากจริงหรือไม่ก็เป็นขั้นตอนที่ต้องดำเนินการต่อไป แต่เรื่องนี้เป็นขั้นตอนต้องใช้เวลา และยังไม่ทราบสัญชาติที่แท้จริงของผู้ต้องหาว่าเป็นสัญชาติอะไร หากสามารถพิสูจน์ทราบได้จะเป็นกระบวนการที่สถานทูต

จะเข้ามาร่วมในการสอบสวน

     "กรณี น.ส.วรรณาที่จะเข้าพบเจ้าหน้าที่ได้สั่งการให้ พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ ผู้ช่วย ผบ.ตร.และโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) ประสานกับสถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงอังการา ประเทศตุรกี ให้ดำเนินการให้ ส่วนจะมาเมื่อใดหรือมากับใคร ไม่สามารถตอบได้" ผบ.ตร.กล่าว 

@ "บิ๊กตู่"สั่งตม.ติดเครื่องสแกนหน้า 

      เวลา 09.30 น. ที่ อ.แม่สอด จ.ตาก พล.อ.ประยุทธ์ให้สัมภาษณ์ภายหลังเยี่ยมชมนิทรรศการในส่วนสำนักงานตำรวจตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) ว่า อยากให้เร่งติดตั้งเครื่องตรวจพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคลจากกายภาพ โดยเป็นการสแกนใบหน้า ซึ่งจะทำให้ตรวจสอบบุคคลที่ผ่านเข้า-ออกชายแดนได้รวดเร็วและแม่นยำสูง ซึ่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้สั่งซื้อและรอการติดตั้ง โดยจะติดตั้งทุกด่านทั่วประเทศและมีความเชื่อมโยงข้อมูลระหว่างกัน ส่วนระบบพาสปอร์ตใหม่ ทาง ตม.ได้พัฒนาระบบการตรวจสอบไปตามเทคโนโลยีใหม่แล้วหรือไม่ และขอให้มีการพัฒนาอยู่อย่างสม่ำเสมอ เพื่อคัดกรองผู้ที่ผ่านเข้า-ออก โดยเฉพาะคนต่างด้าว 

     เมื่อถามว่า ในจุดผ่านแดนต่างๆ ต้องมีการจัดระเบียบใหม่หรือไม่เพราะมีช่องโหว่การข้ามแดนผิดกฎหมาย นายกฯ กล่าวว่ากำลังจัดระเบียบอยู่ต้องมีมาตรการเครื่องไม้เครื่องมือเพิ่มเติมและทำด่านใหม่ หากแรงงานจะเข้ามาในประเทศไทยต้องผ่านระบบการตรวจสอบ หากจะออกบัตรให้อยู่ได้เป็นปีต้องพิสูจน์สัญชาติ วันนี้เป็นภาระจดทะเบียนแรงงานต่างชาติ 6 ล้านคนที่มาจากประเทศไหนก็ไม่รู้ หากพิสูจน์สัญชาติไม่จบต้องออกใบแทน 

@ "บิ๊กป้อม"ยังไม่คุยจีนปมบึ้ม

      เวลา 10.00 น. กองบิน 6 ดอนเมือง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีเดินทางไปเยือนประเทศจีนว่า คงไม่มีเวลาเยี่ยมเยือนชาวอุยกูร์ที่ไทยส่งกลับประเทศจีนไปก่อนหน้านี้ เพราะสถานที่อยู่ไกล ก่อนหน้าที่ทางสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ได้ไปเยี่ยมมาแล้ว ส่วนจะใช้โอกาสนี้พูดคุยกับจีนถึงประเด็นเหตุระเบิดที่เกิดในประเทศไทยหรือไม่นั้น ตนมองว่าไม่เกี่ยวกับจีน ถือว่าเป็นเรื่องภายในของเรา ส่วนคดีต่างๆ รอให้ได้ข้อมูลที่ชัดเจนก่อน เพราะขณะนี้ยังไม่ทราบว่าอะไรเป็นอะไร

เมื่อถามว่าผู้ต้องสงสัยที่จับได้ล่าสุดที่ จ.สระแก้ว ใช่คนเดียวกับชายสวมเสื้อเหลืองที่ก่อเหตุวางระเบิดศาลท้าวมหาพรหมหรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า มีความใกล้เคียงมาก แต่ต้องตรวจสอบดีเอ็นเอ ลายนิ้วมือ และวัตถุพยานอื่นๆ อีกทั้งพยานบุคคล เพื่อเป็นประโยชน์สาวไปยังกลุ่มที่เชื่อมโยง เมื่อถามว่าผู้ต้องสงสัยคนล่าสุดเป็นชาวอุยกูร์หรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ผู้ต้องสงสัยยังไม่ได้บอกอะไรเลย มีแต่สื่อมวลชนคิดไปเองทั้งนั้น อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ทางรัฐบาลไทยยังไม่ได้ประสานไปยังสถานทูตจีน หรือตุรกี 

@ "บิ๊กแป๊ะ"ยันคดีบึ้มคืบหน้า 70% 

      พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) กล่าวถึงความคืบหน้าคดีเหตุระเบิดที่แยกราชประสงค์และท่าเรือสาทรว่า มีความคืบหน้าไป 70 เปอร์เซ็นต์แล้ว ส่วนการจับผู้ต้องสงสัยที่ จ.สระแก้ว ยังไม่ได้พูดคุยด้วย และได้ส่งตัวให้ผู้บัญชาการตำรวจนครบาลทันที เพราะหน้าที่ในการสอบสวนเป็นเรื่องของนครบาล

     เมื่อถามว่าตกลงแล้วเป็นชาวอุยกูร์หรือไม่ พล.ต.อ.จักรทิพย์ กล่าวว่า ตามพาสปอร์ตเขาเป็นแบบนั้น เราก็ดูตามเอกสาร แต่ทั้งนี้ต้องรอการยืนยันว่าเป็นเอกสารจริงหรือปลอมด้วยหรือไม่

       เมื่อถามว่าชายที่จับได้ยอมพูดอะไรหรือไม่ พล.ต.อ.จักรทิพย์กล่าวว่า ก็พูดบางส่วน เท่าที่ดูเขาพูดเป็นภาษาตุรกี ต้องใช้ล่ามในการแปล เมื่อถามว่ามีแนวโน้มใกล้เคียงกับชายเสื้อเหลืองที่ปรากฏในกล้องวงจรปิดในวันเกิดเหตุหรือไม่ รอง ผบ.ตร. กล่าวว่า รออีกนิดได้ไหม แต่ทุกอย่างก็เชื่อมโยงหมด เขายอมรับว่าตอนเกิดเหตุอยู่ในพื้นที่

      เมื่อถามว่ามีความเกี่ยวข้องกับนายบิลาเติร์ก มูฮัมหมัด ชาวตุรกี ผู้ต้องสงสัยคนแรกที่ถูกจับได้ที่พูลอนันต์ อพาร์ตเมนต์ อย่างไร รอง ผบ.ตร. กล่าวว่า อ๋อ เกี่ยวโยงกันอยู่แล้วเรื่องนี้ เขาอยู่ด้วยกัน พักอยู่ใกล้ๆ กันอยู่แล้ว เมื่อถามว่าเขาเล่าให้ฟังหรือไม่ว่าใครเชื่อมโยงอะไรยังไง พล.ต.อ.จักรทิพย์กล่าวว่า ยัง แต่ยืนยันว่าจะทำให้ดีที่สุด

@ คาดพาสปอร์ต"บิลาเติร์ก"ปลอม 

      เมื่อถามว่ามาถูกเป้าถูกทางแล้วใช่หรือไม่ พล.ต.อ.จักรทิพย์กล่าวว่า "ผมเชื่อว่าจากประสบการณ์การทำงานมาถูกทางอยู่แล้ว ผมว่าเร็วกว่าคดีเหตุระเบิดที่อื่นด้วยซ้ำ ที่อื่นเป็นปีกว่าจะได้รู้ตัว แต่นี่เราแค่ 14-15 วันเอง ทำมาได้ขนาดนี้"

เมื่อถามถึงความร่วมมือของนายบิลาเติร์ก ผู้ต้องสงสัยคนแรกให้ความร่วมมือดีขึ้นหรือยัง พล.ต.อ.จักรทิพย์กล่าวว่า อย่างที่เรียนคือธรรมชาติของพวกนี้โอกาสที่เขาจะพูดมีน้อย แต่เราก็มีพยานหลักฐานอย่างอื่นมาสนับสนุนอยู่แล้ว เมื่อถามว่านายบิลาเติร์กเป็นชาวตุรกีหรือไม่ พล.ต.อ.จักรทิพย์กล่าวว่า จำไม่ได้ เพราะตัวละครมันเยอะ เท่าที่ดูน่าจะเป็นพาสปอร์ตปลอมทั้งนั้น แต่รูปเขาเป็นรูปจริง ศัพท์เขาเรียกว่า "ผ่าเล่ม" เพราะตนเคยเป็นผู้บังคับการตำรวจตรวจคนเข้าเมืองที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ 

@ ตั้ง"บิ๊กป้อม"คุมฐานข้อมูลมั่นคง

      นายอนุสิษฐ คุณากร เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าการควบคุมตัวชายชาวต่างชาติที่ต้องสงสัยเกี่ยวกับคดีระเบิดแยกราชประสงค์และท่าเรือสาทร ที่คาดว่าเชื่อมโยงกับอุยกูร์ว่า เบื้องต้นต้องให้ทางเจ้าหน้าที่สืบสวนและสอบสวนก่อน ยังไม่ทราบข้อมูลที่แน่ชัดอย่าเพิ่งไปพูด ทั้งนี้ทุกคนอาจมองเห็นภาพบางอย่างว่าประเทศไทยมีจุดอ่อนเรื่องการใช้อาวุธ การข้ามพรมแดน ขณะนี้มีการพัฒนาระบบตรวจสอบข้อมูลเข้าออกของตำรวจตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) ในอนาคตจะกระจายไปทั่วประเทศ นี่คือโครงสร้างงานความมั่นคงที่จะต้องทบทวนใหม่ โดยนายกฯ ได้แต่งตั้งคณะกรรมการบูรณาการฐานข้อมูลด้านความมั่นคงโดยให้ พล.อ.ประวิตรเป็นประธาน ในคณะกรรมการชุดนี้จะมีการแต่งตั้งอนุกรรมการขึ้นมาพัฒนาระบบไบโอแมททริคของประเทศเก็บชุดข้อมูลที่มีความละเอียดอ่อน ทั้งด้านไบโอแมททริค และกายภาพของคน เช่น ม่านตา ดีเอ็นเอ ตลอดจนถึงทะเบียนราษฎร ทะเบียนรถยนต์ ทะเบียนการเกิด ประวัติอาชญากรรม ประวัติผู้ต้องขัง เป็นต้น

@ ตร.ขอชายเสื้อฟ้าติดต่อจนท.

       เมื่อเวลา 12.00 น. พ.อ.วินธัย สุวารี โฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) พร้อมด้วย พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ โฆษก ตร. แถลงการประชุมศูนย์ติดตามสถานการณ์คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) จากกรณีที่สามารถจับกุมผู้ต้องสงสัยเหตุคดีลักลอบวางระเบิดที่บริเวณแยกราชประสงค์ ผ่านโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย พล.ต.ท.ประวุฒิกล่าวว่า จากกรณีที่สามารถควบคุมตัวชายต่างชาติผู้ต้องสงสัยซึ่งพยายามเดินทางออกนอกประเทศไทยโดยช่องทางธรรมชาติ ที่บริเวณบ้านป่าไร่ จ.สระแก้ว เมื่อวันที่ 1 กันยายนที่ผ่านมานั้น จากผลการสืบสวนขยายผลพบว่าตรงกับผลการสืบสวนที่ผ่านมาว่าชายผู้นี้มีความสำคัญที่มีความเกี่ยวเนื่องร่วมกับผู้ที่กระทำความผิดในการลักลอบวางระเบิดที่บริเวณแยกราชประสงค์และท่าเรือสาทร โดยผลจากการตรวจสอบลายพิมพ์นิ้วมือที่ได้ส่งให้ทางกองพิสูจน์หลักฐาน (สพฐ.) ตรวจสอบได้ผลออกมาแล้ว พบว่าชายคนดังกล่าวมีลายพิมพ์นิ้วมือเดียวกันกับลายนิ้วมือที่อยู่ที่ขวดบรรจุสารระเบิดที่ห้องพัก 414 อาคารพูลอนันต์อพาร์ตเมนต์ สามารถยืนยันได้ว่าชายคนดังกล่าวมีส่วนเกี่ยวข้องกับระเบิดโดยอาจจะเป็นคนนำระเบิดออกจากห้องหรืออาจจะนำระเบิดไปยังที่เกิดเหตุ ซึ่งการสืบสวนกำลังดำเนินการกับวัตถุพยานหรือข้อมูลทางชีวภาพที่เก็บได้ในที่เกิดเหตุ อยู่ระหว่างเปรียบเทียบอยู่ ส่วนการออกหมายจับชาย 3 คนเพิ่มเติมเมื่อวันที่ 1 กันยายนเผยแพร่ไปแล้วนั้น ตรวจสอบพบว่า มีส่วนเกี่ยวข้องกันหมด 

       "อยากขอความร่วมมือชายเสื้อสีฟ้าที่ได้ถ่ายรูปเพื่อนโดยหันมุมกล้องในวันเกิดเหตุที่ศาลท้าวมหาพรหม คาดว่าน่าจะถ่ายรูปติดชายต้องสงสัยเสื้อสีเหลือง และน่าจะเห็นภาพได้ชัดเจน หากใครรู้จักก็ขอความร่วมมือให้ติดต่อเจ้าหน้าที่โดยด่วนโดยข้อมูลทุกอย่างจะเก็บเป็นความลับ" พล.ต.ท.ประวุฒิกล่าว

@ ออกหมายจับเพิ่มสามีวรรณา

      จากนั้นเวลา 14.00 น. ที่ ตร. พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ ผู้ช่วย ผบ.ตร.และโฆษก ตร. กล่าวว่า วันนี้ศาลจังหวัดมีนบุรีอนุมัติออกหมายจับนายเอ็มระห์ ดาวูโตกลู (Emrah Davutoglu) ชาวตุรกี ในข้อหาร่วมกันมีซึ่งยุทธภัณฑ์ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยนายเอ็มระห์เป็นสามีของ น.ส.วรรณาและถือเป็นผู้ที่อยู่ในขบวนการก่อเหตุระเบิดในกรุงเทพฯ ทั้งนี้พบว่าสองสามีภรรยาเดินทางออกนอกประเทศไปพร้อมกันแต่จะอยู่ด้วยกันหรือไม่นั้น ยังไม่มีอะไรยืนยัน อย่างไรก็ตามขณะนี้ออกหมายจับรวม 8 หมายแล้ว และคาดว่าจะมีการออกหมายจับเพิ่มเติมอีก 

"จากข้อมูลยืนยันได้ว่าชายชาวต่างชาติที่จับได้ที่ จ.สระแก้ว เกี่ยวข้องกับการก่อเหตุระเบิดแน่นอน ส่วนจะทำหน้าที่เป็นผู้ประกอบระเบิดหรือนำระเบิดไปวางนั้น ต้องตรวจสอบโดยใช้พยานบุคคลและพยานหลักฐานมายืนยันอีกครั้ง เนื่องจากในที่เกิดเหตุพบลายนิ้วมือแฝงจำนวนมาก จึงต้องใช้เวลาในการเปรียบเทียบ โดยขณะนี้ผู้ต้องหาอยู่ในความควบคุมของเจ้าหน้าที่ทหาร" พล.ต.ท.ประวุฒิกล่าว 

@ รอ 2-3 ประเทศตรวจสัญชาติ

        ผู้สื่อข่าวถามว่าผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมที่ จ.สระแก้ว มีกระแสข่าวว่าเจ้าหน้าที่ยึดของกลางพบมีสูตรประกอบระเบิดชนิดเดียวกับที่ก่อเหตุ พล.ต.ท.ประวุฒิกล่าวว่า เท่าที่ดูมีสารหลายตัวที่อาจไม่ได้เป็นสารที่ผิดกฎหมาย แต่เป็นสารสามารถนำมาประกอบหรือใช้เป็นวัสดุที่เพิ่มความไวต่อการติดไฟ หรือใช้เป็นเชื้อปะทุ หรือใช้แทนเชื้อปะทุในการขยายการระเบิดได้แต่ต้องรอให้ผู้มีความชำนาญวิเคราะห์ คาดว่าผู้ต้องสงสัยน่าจะมีความรู้ด้านนี้ ทั้งยังไม่อยากสรุปว่าเป็นกลุ่มไหน แต่ถือเป็นกลุ่มหนึ่งที่เป็นขบวนการนำคนเข้ามาและเดินทางต่อไปยังประเทศอื่นโดยผิดกฎหมาย มีคนไทยร่วมกับชาวต่างชาติในขบวนการนี้ แต่ตอนนี้เจ้าหน้าที่มั่นใจว่าเกี่ยวข้องในขบวนการก่อเหตุแน่ ไม่เป็นคนประกอบระเบิดก็เป็นผู้นำระเบิดไปวาง ส่วนการระบุสัญชาตินั้นต้องรอให้ประเทศที่เกี่ยวข้องยืนยัน ต้องใช้เวลาสอบถาม อาจมี 2-3 ประเทศ

@ ตร.แจงญาติเหตุออกหมายจับ

      โฆษก ตร.กล่าวต่อว่า กรณี น.ส.วรรณานั้น ตำรวจได้ประสานไปทางเจ้าหน้าที่สถานทูตที่ประเทศตุรกีแต่ล่าสุดยังไม่ได้ติดต่อกลับมา หากติดต่อมาตำรวจจะประสานขอให้การบินไทยช่วยเหลือด้านการเดินทางกลับประเทศไทยต่อไป 

ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีญาติ น.ส.วรรณาสงสัยในการออกหมายจับ พล.ต.ท.ประวุฒิกล่าวว่า การออกหมายจับเป็นไปตามขั้นตอนการสืบสวน แม้ว่า น.ส.วรรณาจะให้สัมภาษณ์ผ่านสื่อมวลชนว่าไม่เกี่ยวข้องก็สามารถเข้ามาต่อสู้คดีตามขั้นตอนทางกฎหมายได้ แต่ตอนนี้ยังไม่ยืนยันว่าจะกลับมาต่อสู้คดีแต่อย่างใดและ น.ส.วรรณาระบุว่าขอคิดดูก่อนว่าจะเข้ามาเมื่อใด คาดว่า อาจจะต้องคิดใหม่เมื่อมีการออกหมายจับสามี 

        "ขั้นตอนจากนี้หากสามารถยืนยันได้แล้วว่าผู้ต้องหาที่จับกุมได้มีสัญชาติอะไร เจ้าหน้าที่จะประสานไปยังประเทศนั้นๆ ผ่านกระทรวงการต่างประเทศต่อไป จากนี้ต้องวางระบบตรวจสอบป้องกันการเข้าออกเมืองโดยผิดกฎหมาย เพราะอาจเข้ามาก่อเหตุรุนแรงในไทยอีก ซึ่ง ผบ.ตร.จะเรียกประชุมเจ้าหน้าที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองมาประชุมวางแนวทางในการปฏิบัติหน้าที่กันใหม่ เช่น การขออยู่ในประเทศต่อต้องตรวจสอบอย่างละเอียด ไม่ใช่ทำกันง่ายๆ อย่างที่ผ่านมา ส่วนการอ้างว่าจะขออยู่เพื่อศึกษาต่อต้องตรวจสอบว่าเรียนโรงเรียนอะไร เรียนจริงหรือไม่" พล.ต.ท.ประวุฒิกล่าว 

@ "ยูซุฟู"รับไปราชประสงค์วันบึ้ม

        รายงานข่าวแจ้งว่า จากการสอบปากคำนายยูซุฟู มีไรลี ชื่อตามพาสปอร์ตของชายต้องสงสัยที่ถูกจับกุมได้ที่บ้านป่าไร่ ต.ป่าไร่ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว เบื้องต้นให้การยอมรับว่าอยู่ที่สถานีรถไฟหัวลำโพง ในช่วงเย็นวันที่เกิดเหตุระเบิด 17 สิงหาคม และขณะเกิดเหตุได้อยู่ที่ราชประสงค์แต่ไม่มีส่วนรู้เห็นกับระเบิด โดยช่วงที่เกิดระเบิดได้วิ่งหนีไปยังประตูน้ำ แต่ไม่เกี่ยวข้องกับเหตุวางระเบิด เจ้าหน้าที่ยังไม่ปักใจเชื่อเนื่องจากผลการตรวจลายนิ้วมือของนายยูซุฟูตรงกับลายนิ้วมือในห้องพักเลขที่ 414 พูลอนันต์อพาร์ตเมนต์ ย่านหนองจอก รวมทั้งพยานในจุดเกิดเหตุระเบิดระบุว่าใบหน้าคล้ายชายเสื้อเหลืองมือวางระเบิดโดยเจ้าหน้าที่เชื่อว่ามีส่วนร่วมในเหตุระเบิดครั้งนี้ เพียงแต่รอผลตรวจสอบทางวิทยาศาสตร์และพยานยืนยันแน่ชัดว่าเป็นชายเสื้อเหลืองมือวางระเบิดหรือไม่ ขณะที่การตรวจสอบพาสปอร์ตนายยูซุฟู พบว่าเป็นพาสปอร์ตจริง เป็นชาวซินเจียงอุยกูร์ ประเทศจีน

@ ตรวจลายนิ้วมือแฝงตรงห้องพัก

       รายงานข่าวแจ้งว่าในการพูดคุย นายยูซุฟูยอมรับว่าเรียนจบสาขาวิชาวิทยาศาสตร์เคมีจากประเทศจีน ระหว่างการจับกุมเจ้าหน้าที่ตำรวจพบกระดาษจดสูตรทำระเบิด เป็นสูตรสารตั้งต้นประกอบระเบิดแรงสูง ชื่อเต็มไตรอาซิโตนไตรเปอร์ออกไซด์ หรือ TETP มีส่วนผสมประกอบด้วย อาซิโตน ไฮโดรเยนเปอร์คลอไรด์ กรดเกลือ และกรดซัลฟูริก เป็นหลักฐานสำคัญทำให้เจ้าหน้าที่เชื่อว่ามีส่วนร่วมในการประกอบระเบิด 

รายงานข่าวแจ้งอีกว่า การจับกุมนายยูซุฟู เบื้องต้นทราบว่ามีผู้ร่วมขบวนการบางส่วนได้โยกย้ายถ่ายเทไปพักที่หอพักไมมูณา การ์เด้นโฮม ที่ น.ส.วรรณาเป็นผู้เปิดห้องพัก ก่อนที่จะเข้าไปตรวจสอบ เบื้องต้นพบหลักฐานบางอย่างเชื่อมโยงไปถึงนายยูซุฟูจึงได้ประสานไปยังด่านตรวจคนเข้าเมืองทั่วประเทศให้ตรวจสอบ และสามารถจับผู้ต้องสงสัยได้ จากการตรวจสอบสัมภาระของผู้ต้องสงสัย พบหลักฐานบางอย่างที่ระบุได้ว่ามีความเชื่อมโยงกับกลุ่มที่ก่อเหตุ เจ้าหน้าที่จึงได้นำดีเอ็นเอและลายนิ้วมือไปตรวจสอบที่กองพิสูจน์หลักฐาน (พฐ.) ก่อนได้รับการยืนยันว่าตรงกับลายนิ้วมือแฝงในห้องพักเลขที่ 414 พูลอนันต์ อพาร์ตเมนต์ และห้องพักที่ณา การ์เด้นโฮม นอกจากนี้ ได้นำรูปถ่ายหน้าตรงของนายยูซุฟูมาให้พยานตรวจสอบได้รับการยืนยันว่าเป็นบุคคลเดียวกับที่เคยพักอาศัยในห้องพักดังกล่าว

@ สารระเบิดบิลาเติร์กตรงบึ้ม 2 จุด

        รายงานข่าวแจ้งว่า ตำรวจกองพิสูจน์หลักฐานกลางและกลุ่มงานเก็บกู้ตรวจวัตถุระเบิด (อีโอดี) นำของกลางอุปกรณ์ประกอบระเบิดหลายรายการที่พบในห้องพักของนายบิลาเติร์ก ไปตรวจเปรียบเทียบกับวัตถุพยานที่พบจากเหตุระเบิดที่ศาลท้าวมหาพรหมและท่าเรือสาทร พบว่าเหตุระเบิดทั้ง 2 จุดดังกล่าวมีอุปกรณ์ประกอบระเบิดลักษณะตรงกับที่ยึดได้ในห้องพักของนายบิลาเติร์ก ได้แก่ ลูกบอลแบริ่งที่ใช้ทำสะเก็ดระเบิด ฝักแคหน่วงเวลาที่มีสีชมพูตรงกันจากของกลางที่พบที่ท่าน้ำสาทร ท่อแป๊บ และฝาเกลียวปิดใช้สำหรับทำระเบิดไปป์บอมบ์ ท่อแป๊บยังเป็นลักษณะเดียวกับที่พบชิ้นส่วนเศษท่อแป๊บที่ประกอบระเบิดทั้งสองจุด จากการตรวจสอบสารประกอบระเบิดพบด้วยว่า เหตุระเบิดทั้ง 2 จุดมีสารประกอบระเบิดตรงกับของกลางที่ยึดได้ในห้องพักพูลอนันต์ อพาร์ตเมนต์ จากพยานวัตถุทำให้ชุดสืบสวนสอบสวนคลี่คลายคดีมั่นใจว่านายบิลาเติร์กมีส่วนเกี่ยวข้องเชื่อมโยงกับคดีระเบิดกลางกรุงทั้ง 2 จุด

        "การสอบปากคำนายบิลาเติร์ก ยืนยันว่าเป็นชาวตุรกี อ้างว่าเดินทางเข้าประเทศไทยทางด่าน อ.เชียงของ จ.เชียงราย เมื่อ 2 เดือนก่อน และมาพักที่อพาร์ตเมนต์ดังกล่าวตามที่ผู้นำพาแนะนำมาแต่ไม่รู้จักกับผู้ต้องหารายอื่น และไม่รู้เรื่องการประกอบระเบิด และปฏิเสธไม่รู้จักนายยูซุฟูแต่เจ้าหน้าที่ยังไม่ปักใจเชื่อ" รายงานข่าวระบุ

@ ไม่ยืนยันรอยด่างชายเสื้อเหลือง

       รายงานข่าวแจ้งว่าหลังเกิดเหตุระเบิดศาลท้าวมหาพรหมที่ผ่านมาจนถึงขณะนี้พยานที่เป็นวินรถจักรยานยนต์รับจ้าง รถแท็กซี่ และรถตุ๊กตุ๊ก ยังไม่ยืนยันเรื่องตำหนิรอยด่างขาวบริเวณคางของผู้ต้องหามือวางระเบิดที่เป็นชายเสื้อเหลือง ขณะที่การจับกุมนายยูซุฟู ที่สงสัยว่าอาจเป็นชายเสื้อเหลืองกลับปรากฏตำหนิรอยด่างขาวที่คางชัดเจน รวมทั้งกล้องวงจรปิดในวันเกิดเหตุไม่สามารถจับภาพตำหนิรอยด่างขาวที่คางของชายเสื้อเหลืองได้ ตรงจุดนี้อาจทำให้เจ้าหน้าที่ต้องตรวจสอบความชัดเจนเพิ่มขึ้น เนื่องจากตำหนิดังกล่าวชัดเจนมากแต่พยานกลับไม่เห็น ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องชั่งน้ำหนักพยานหลักฐานมากขึ้นว่าใช่ชายเสื้อเหลืองหรือไม่ 

      วันเดียวกัน รายงานข่าวแจ้งว่า พ.ต.อ.วัฒนา ยี่จีน รอง ผบก.น. 3 รรท.ผกก.สน.มีนบุรี นำกำลังเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบบ้านเช่า ตรงข้ามกับหอพักไมมูณา การ์เด้นโฮม เป็นบ้านไม้ 2 ชั้น จำนวน 3 หลัง กว่า 40 ห้อง แต่ยังไม่พบความผิดปกติ

      รายงานข่าวแจ้งว่า จากการตรวจค้นห้องพักกลุ่มผู้ต้องหาที่พูลอนันต์ อพาร์ตเมนต์ เจ้าหน้าที่ตรวจพบอุปกรณ์ประกอบระเบิดจำนวนมาก ส่วนหนึ่งเป็นตัวจุดระเบิด มีทั้งรถบังคับวิทยุและรีโมตคอนโทรล และนาฬิกาควอซ 4-5 เรือน แต่เมื่อตรวจสอบจุดเกิดเหตุที่ศาลท้าวมหาพรหมไม่พบหลักฐานหลงเหลืออยู่เลย เจ้าหน้าที่กลุ่มงานเก็บกู้และตรวจพิสูจน์ วัตถุระเบิดเชื่อว่ามือประกอบระเบิดชำนาญมากจึงจุดระเบิดได้สมบูรณ์ แต่เจ้าหน้าที่คาดว่าน่าจะเป็นการตั้งเวลาโดยใช้นาฬิกมากกว่าใช้รีโมตคอนโทรล

      รายงานข่าวแจ้งด้วยว่าส่วนการออกหมายจับนายเอ็มระห์ สามี น.ส.วรรณา เนื่องจากพบว่ามีการช่วยจัดหาที่พักเพื่อให้นายบิลาเติร์ก และนายยูซุฟู สองผู้ต้องหาและผู้ร่วมขบวนการรายอื่นเข้าพักด้วย โดยมี น.ส.วรรณาเป็นคนเปิดห้องพัก ตลอดจนใช้เก็บอุปกรณ์ประกอบระเบิดจำนวนมากดังกล่าว 

@ พี่สาวเผยมอบตัวสัปดาห์หน้า

      ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจาก น.ส.วรรณา สวนสัน ถูกออกหมายจับ ทำให้พ่อแม่และญาติพี่น้องมีความเครียดและเกิดความวิตกกังวลและไม่สบายใจ เนื่องจากถูกเพื่อนบ้านและสื่อสังคมออนไลน์กล่าวพาดพิงจึงอยากเรียกร้องขอความเป็นธรรมกับสังคม

น.ส.สุดา สวนสัน พี่สาว น.ส.วรรณากล่าวว่า มีการติดต่อพูดคุยกับน้องสาวที่อาศัยอยู่ในประเทศตุรกีตลอดเวลา โดย น.ส.วรรณาพร้อมที่จะเดินทางกลับมามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจโดยได้ติดต่อกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติแล้ว แต่ที่ยังไม่สามารถเดินทางกลับได้ในขณะนี้เนื่องจากเกรงว่าจะไม่ได้รับความปลอดภัย และไม่ได้รับความเป็นธรรม ทั้งนี้ เชื่อว่า น.ส.วรรณาจะเดินทางกลับเข้ามามอบตัวภายในสัปดาห์หน้าอย่างแน่นอน ญาติพี่น้องและพ่อแม่เป็นห่วงว่าหาก น.ส.วรรณากลับมาถึงเมืองไทยเกรงตำรวจจะไม่ให้ความเป็นธรรม จึงอยากให้ทหารมารับตัวจากเครื่องบินมากกว่า

      ด้านญาติคนหนึ่งกล่าวว่า สามีของ น.ส.วรรณามีพฤติกรรมที่ชอบอยู่กับบ้านเมื่อเดินทางมาที่ จ.พังงา แต่ส่วนใหญ่มักจะอยู่ที่กรุงเทพฯ ขณะที่อาศัยอยู่ในเมืองไทย 

@ เจอสามีวรรณาต่อวีซ่าจ.สระแก้ว

        ที่ จ.พังงา ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) จังหวัดพังงาได้เดินทางมายังบ้านพักของ น.ส.วรรณา ที่ อ.คุระบุรี เพื่อสอบถามรายละเอียดเกี่ยวกับพฤติกรรมของสามี น.ส.วรรณา เนื่องจากพบว่ามีการเดินทางไปต่อวีซ่าที่ จ.สระแก้ว ก่อนที่จะมาขอขยายเวลาอยู่ต่อในจังหวัดพังงาอีก 30 วัน ก่อนเดินทางกลับประเทศตุรกี ก่อนกำหนดเวลาในช่วงเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ทั้งนี้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.คุระบุรีมาคอยเฝ้าสังเกตการณ์ครอบครัว น.ส.วรรณา ตลอดช่วงกลางวันและกลางคืน 

       พ.ต.ท.นพดล รักชาติ สารวัตรใหญ่ด่านตรวจคนเข้าเมือง จ.พังงา กล่าวว่า จากข้อมูลพบว่า น.ส.วรรณาไม่ได้จดทะเบียนสมรสกับสามีชาวตุรกี ส่วนสามี น.ส.วรรณาได้ขอวีซ่าเข้ามาท่องเที่ยวในเมืองไทยเป็นเวลา 15 วัน และหลังจากนั้นได้ขอต่อวีซ่าท่องเที่ยวอีก 30 วัน ซึ่งเป็นไปตามหลักการการเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในเมืองไทยของนักท่องเที่ยว ส่วนจะเดินทางไปไหนบ้างทางตำรวจตรวจคนเข้าเมืองไม่ได้ติดตาม ทั้งนี้หลังเกิดเหตุระเบิดเกิดขึ้นจึงทราบว่า น.ส.วรรณาอยู่กินกับสามีฉันสามีภรรยาแต่ไม่ได้ขอสิทธิพิเศษในการอาศัยอยู่ในเมืองไทยแต่อย่างใด และไม่ได้จดทะเบียนสมรส

@ รวบผู้ต้องสงสัยเพิ่มที่นราฯ 

       จ.นราธิวาส รายงานข่าวแจ้งว่าเมื่อวันที่ 1 กันยายนที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ชุดเฉพาะกิจจากส่วนกลางได้ลงพื้นที่มารวบตัวนายกามารุเด็ง สาเหาะ อายุ 38 ปี ที่บ้านพักเลขที่ 223 ม.5 ต.ปาเสมัส อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส เป็นการขยายผลจากการจับผู้ต้องสงสัยจ.สระแก้ว จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่ามีการติดต่อนายเอ็มระห์ สามีของ น.ส.วรรณา จึงเชื่อว่าอาจจะมีความเชื่อมโยงกับเหตุระเบิดที่ศาลท้าวมหาพรหม และท่าเรือสาทร แต่ชายคนดังกล่าวที่พูดเป็นภาษายาวียังให้การปฏิเสธ โดยหน่วยเฉพาะกิจ (ฉก.) นราธิวาส 36 ได้ประสานขอตัวและอาศัยอำนาจตาม พ.ร.บ.กฎอัยการศึก ส่งตัวฝากควบคุมตัวที่หน่วยซักถามกรมทหารพราน 46 ต.กะลุวอเหนือ อ.เมือง จ.นราธิวาส และต่อมาได้ส่งตัวไปควบคุมตัว มทบ.11 กรุงเทพฯ 

       นายมะรอดี สามะแอ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 5 ต.ปาเสมัส อ.สุไหงโก-ลก กล่าวว่าบุคคลดังกล่าวพักอาศัยอยู่ในพื้นที่หมู่ 5 ต.ปาเสมัส กับภรรยา เคยทำงานที่เกี่ยวกับแรงงานต่างด้าวชาวพม่า แต่ภายหลังถูกจับกุมดำเนินคดีเกี่ยวกับแรงงานต่างด้าวและถูกจำคุก 1 ปี โดยเพิ่งพ้นโทษออกมาไม่นาน ปัจจุบันทราบเพียงว่าเปิดร้านจำหน่ายเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายมุสลิมในประเทศมาเลเซีย 

จ.สระแก้ว นายภัครธรณ์ เทียนไชย ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่ทหารพราน ตม.สระแก้ว ศุลกากรอรัญประเทศ ตำรวจภูธร สภ.คลองลึกและตำรวจท่องเที่ยว ลงพื้นที่บริเวณด่านพรมแดนคลองลึก กำชับเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองตรวจพาสปอร์ตชาวต่างชาติที่จะไปกัมพูชาอย่างเข้มงวด 

       จ.นครราชสีมา นายดับเบิลยู แพทริค เมอร์ฟีย์ อุปทูตสหรัฐอเมริกา ประจำประเทศไทย กล่าวถึงกรณีการจับกุมผู้ต้องสงสัยวางระเบิดแยกราชประสงค์ว่า ขอประณามการก่อเหตุรุนแรงในครั้งนี้ ส่วนเรื่องการสอบสวนก็เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจไทย สหรัฐพร้อมให้ความร่วมมือและสนับสนุนการทำงานของทางการไทยในทุกด้าน

@ สื่อนอกชี้จับ"ยูซุฟู"ที่พนมเปญ

        ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า สำหรับกรณีที่มีรายงานก่อนหน้านี้ว่า น.ส.วรรณาจะติดต่อเข้ามอบตัวกับสถานเอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงอังการา ประเทศตุรกีนั้น นายธฤต จรุงวัฒน์ เอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงอังการา กล่าวว่า สถานเอกอัครราชทูตยังไม่ได้รับการติดต่อจาก น.ส.วรรณาแต่อย่างใด

     วันเดียวกัน สถานเอกอัครราชทูตตุรกี ประจำประเทศไทยออกแถลงการณ์ระบุว่า ทางสถานทูตได้สอบถามไปยังกระทรวงการต่างประเทศของไทย ถึงข้อมูลของผู้ต้องสงสัยที่ถูกจับกุมตัวได้เมื่อวันที่ 29 สิงหาคมที่ผ่านมาในอพาร์ตเมนต์ย่านหนองจอก ซึ่งมีการพบพาสปอร์ตตุรกีจำนวนหนึ่ง โดยสถานทูตตุรกีระบุว่า ยังคงรอคำตอบจากทางการไทยเกี่ยวกับข้อมูลในเรื่องนี้

@ แฉขบวนการลักลอบเข้าไทย 

       แหล่งข่าวจากหน่วยงานด้านความมั่นคงกล่าวถึงความเคลื่อนไหวของกลุ่มอุยกูร์ที่เคลื่อนไหวในประเทศไทยว่ากลุ่มอุยกูร์เหล่านี้ลักลอบเข้ามาประเทศไทยตั้งแต่ปี 2546 เดินทางจากมณฑลซินเจียงเข้าไทยที่ อ.แม่สาย จ.เชียงราย และด่านคลองลึก ด่านอรัญประเทศ จ.สระแก้ว และต้องการพักในไทยเพียงระยะสั้นเพื่อเดินทางต่อไปยังประเทศเพื่อนบ้านและเดินทางไปยังประเทศเป้าหมายคือตุรกี ส่วนหนึ่งจะเลือกใช้บริการบริษัททัวร์ ชื่อ บ. ที่รับจะนำพาชาวอุยกูร์เดินทางไปร่วมพิธีฮัจย์ จากนั้นจะนำพาไปยังประเทศที่ 3 โดยชาวอุยกูร์ส่วนหนึ่งที่เดินทางผ่านประเทศเพื่อนบ้านเข้าทาง จ.สระแก้ว ใช้บริการนำพาเข้าเมือง ผ่านขบวนการนำพาชาวอุยกูร์ มีอดีตทหารยศ ร.อ. เป็นหัวหน้านำไปพักใน กทม. โดยอาศัยมูลนิธิแห่งหนึ่งย่านมีนบุรีคอยช่วยเหลือนำส่งเครือข่ายนำพาใน อ.สะเดา จ.สงขลา โดยมี โก ท. และนาย ป. เป็นคนสำคัญในการนำพาชาวอุยกูร์ในพื้นที่ไปยังประเทศเพื่อนบ้านทางภาคใต้ของไทย เป็นต้น

ooKbee1

corehoon NEW2

 

 

ข่าวล่าสุด!!