หมวดหมู่: อาชญากรรม

20บาท


'ยูซุฟู'อยู่บนสกายวอล์ก คนกดบึ้ม วงจรปิดพบ-ซื้อสารระเบิด ที่ร้านเคมีมีนบุรี ตร.สรุปดีเอ็นเอ ไม่ใช่เสื้อเหลือง

     ส่ง'อะเด็ม'บช.น. เปิดภาพวงจรปิดมัด'ยูซุฟู'เดินทางไปซื้อสารเคมีประกอบระเบิดที่ร้านเคมีภัณฑ์ย่านมีนบุรี ด้านโฆษกตร.'ประวุฒิ ถาวรศิริ' แถลงผลพิสูจน์ดีเอ็นเอชายเสื้อเหลืองมือบึ้ม ทั้งจากแบงก์ 20 บาท แท็กซี่ รวมถึงเศษเป้ไม่ตรงกับดีเอ็นเอของ'มิไรลี ยูซุฟู' แต่พบรอยลายนิ้วมือแฝงที่ห้องพักที่อพาร์ตเมนต์ที่สาวไทย'วรรณา'เช่าไว้ ยันอยู่ร่วมกับขบวนการระเบิดราชประสงค์แน่นอน ขณะที่เจ้าหน้าที่ทหารส่ง'อะเด็ม-บิลาเติร์ก'ให้บช.น.สอบหลังคุมตัวครบ 7 วัน ยืนยันเป็นชาวตุรกี ไม่ใช่ปาเลสไตน์ 


แถลงดีเอ็นเอไม่ตรงเสื้อเหลือง
      เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 4 ก.ย. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ ผู้ช่วยผบ.ตร.และโฆษกตร. เปิดเผยความคืบหน้ากรณีเหตุระเบิดที่ราชประสงค์และสะพานข้ามท่าเรือสาทรว่า จากการตรวจสอบผลตรวจดีเอ็นเอของนายมีไรลี ยูซุฟู ผู้ต้องหาที่ถูกออกหมายเมื่อวันที่ 3 ก.ย. ปรากฏว่าไม่ตรงกับดีเอ็นเอบนรถแท็กซี่ที่รับคนร้ายจากย่านศาลาแดงไปส่งที่หัวลำโพงและไม่ตรงกับบนธนบัตรใบละ 20 บาท ที่ได้มาจากคนขี่วินจักรยานยนต์รับจ้าง รวมทั้งเศษวัสดุจากกระเป๋าที่คาดว่าบรรจุระเบิดที่พบในที่เกิดเหตุด้วย แต่ตรงกับลายนิ้วมือแฝงที่เจอที่กระป๋องบรรจุสารประกอบระเบิดที่พบภายในห้องพูลอนันต์อพาร์ตเมนต์ ย่านหนองจอก และตรงกันกับดีเอ็นเอที่เจ้าหน้าที่พบบนแปรงสีฟัน กรรไกรตัดเล็บ ภายในห้องพักของไมมูนา การ์เด้น โฮม ย่านมีนบุรี จึงเชื่อได้ว่านายมีไรลี ยูซุฟู น่าจะเชื่อมโยงกับสารประกอบระเบิดที่พูลอนันต์อพาร์ตเมนต์ และพักอาศัยอยู่ที่ไมมูน การ์เด้น โฮม 

วันที่ 05 กันยายน พ.ศ. 2558 ปีที่ 25 ฉบับที่ 9047 ข่าวสดรายวัน
ภาพจะจะ - วงจรปิดจับภาพนายยูซุฟู ผู้ต้องหาคดีระเบิดกรุง ขณะซื้อสารเคมีใช้ประกอบวัตถุระเบิดที่ร้านเคมีภัณฑ์ย่านมีนบุรี เมื่อวันที่ 21 ก.ค. กับ 12 ส.ค. ก่อนเหตุระเบิดวันที่ 17 ส.ค.


แต่อยู่ในขบวนการวางระเบิด
       โฆษกตร.กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่มีหลักฐานยืนยันว่านายมีไรลี ยูซุฟูคือชายเสื้อเหลือง ผู้วางระเบิด แต่เป็นเพียงหนึ่งในขบวนการ ยืนยันว่าตำรวจยังถือว่าคนนี้มีสัญชาติจีนตามพาสปอร์ตที่ตรวจพบ
     เมื่อถามว่า หากพบว่าผู้ต้องหาเกี่ยวข้องกับเหตุระเบิดที่ศาลท้าวมหาพรหมนั้น เหตุใดจึงไม่แจ้งข้อหาร่วมกันฆ่า พล.ต.ท.ประวุฒิกล่าวว่า ยังแจ้งเพียงข้อหา ร่วมกันมีวัตถุระเบิดที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ได้ไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย ยังไม่ได้แจ้งเป็นข้อหาร่วมกันฆ่า เนื่องจากต้องรวบรวมพยานหลักฐานให้ชัดเจน ซึ่งหากพบว่าเข้าข่าย ก็เตรียมจะแจ้งต่อไป

ประสานสถานทูตหาตัววรรณา
     พล.ต.ท.ประวุฒิ กล่าวอีกว่า จากการตรวจค้นบ้านเช่าในซอยราษฎร์อุทิศ 34 ย่านมีนบุรี เมื่อวันที่ 3 ก.ย. เจ้าหน้าที่พบแกลลอนบรรจุสารของเหลว ตรวจสอบเป็นเคตามีน หรือ ยาเค ซึ่งเป็นยาเสพติด เป็นส่วนประกอบของยาสลบ ไม่ใช่สารประกอบระเบิด จึงเป็นเหตุว่าทำไมจึงไม่มีคนอาศัยในบ้านหลังดังกล่าว ทั้งนี้จากการสอบถามพยานแวดล้อมพบว่า น.ส.วรรณา สวนสัน หรือไมซาเลาะ ไม่ใช่ ผู้เช่าบ้านหลังดังกล่าว แต่น.ส.วรรณาเคยแวะเวียนมาที่บ้านหลังนี้กับลูก ถึงแม้ว่าการตรวจค้นบ้านหลังดังกล่าวจะไม่เจอสารประกอบระเบิด แต่จากการสืบสวนเจ้าหน้าที่พบว่ากลุ่มคนซึ่งเชื่อว่าเป็นแขกขาวที่เข้าและออกบ้านหลังดังกล่าวนั้น มีความเชื่อมโยงกับระเบิด ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้ทำหนังสือไปยังสถานทูตไทย ประจำกรุงอังการา ประเทศตุรกี เพื่อประสานให้ตรวจสอบว่าน.ส.วรรณาอยู่ที่ประเทศตุรกีจริงหรือไม่ โดยล่าสุดได้ให้เบอร์โทรศัพท์ของน.ส.วรรณาเป็นข้อมูลเสริมในการตรวจสอบอีกด้วย
     พล.ต.ท.ประวุฒิ กล่าวถึงกรณีการรับมอบ ตัวของนายอะเด็ม คาราแด็ก หรือนายบิลาเติร์ก มูฮัมหมัด ว่าหลังจากถูกแจ้งข้อหา ร่วมกันมีวัตถุระเบิดที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ได้ไว้ในครอบครองโดย ผิดกฎหมาย ซึ่งถือเป็นความผิดซึ่งหน้านั้น ตำรวจจะรับมอบตัว และตรวจร่างกาย ก่อนนำฝากขังที่ศาลมีนบุรี ในวันที่ 5 ก.ย. ทั้งนี้จากการตรวจสอบดีเอ็นเอของนายอะเด็ม หรือบิลาเติร์ก ไม่ตรงกับชายเสื้อเหลืองแต่อย่างใด ส่วนสัญชาติของนายอะเด็มนั้น ยังไม่สามารถยืนยันตามพาสปอร์ตได้ อยู่ระหว่างการนำส่งพาสปอร์ตดังกล่าวเพื่อตรวจสอบต่อไป

ทหารส่งมอบผู้ต้องหาให้บช.น.
     เมื่อเวลา 15.30 น. ที่บช.น. พ.อ.วิจารณ์ จดแตง นายทหารพระธรรมนูญ ในฐานะหัวหน้าส่วนปฏิบัติการ คณะทำงานกฎหมายส่วนรักษาความสงบ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) พร้อมเจ้าหน้าที่พัน.ร.มทบ.11 ควบคุมตัว อะเด็ม คาราแด็ก หรือนายบิลาเติร์ก มูฮัมหมัด อายุ 29 ปี ผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมได้ที่ห้องพักภายในพูลอนันต์อพาร์ตเมนต์ เลขที่ 134/5 ปากซอยเชื่อมสัมพันธ์ 11 แขวงกระทุ่มราย เขตหนองจอก กทม. พร้อม ของกลาง ส่งพนักงานสอบสวนบช.น. โดยมี พล.ต.ท.ประวุฒิ พร้อมด้วยพล.ต.ท.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล ผบช.น. พล.ต.ต.จิตติ รอดบางยาง รองผบช.น. พล.ต.ต.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา รองผบช.น. พล.ต.ต.สมบัติ มิลินทจินดา ผบก.สส.บช.น. พล.ต.ต. สมประสงค์ เย็นท้วม ผบก.บก.น.3 รับมอบตัว ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฏิบัติการ อรินทราช 26 จำนวน 5 นาย ควบคุมตัวไปห้องประชุมปารุสกวัน 2 ให้แพทย์จากรพ.ตร.ตรวจร่างกาย ก่อนที่จะให้เข้าพบพนักงานสอบสวนบช.น. กองการต่างประเทศ สำนัก งานตรวจคนเข้าเมือง กองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว ร่วมดำเนินการสอบปากคำ โดย มีล่ามชาวต่างชาติภาษาอาหรับ ตุรกี และอังกฤษ คอยให้ข้อมูล

ยังยืนยันสัญชาติไม่ได้-รอสอบ 


ส่งตัว- ทหารควบคุมตัวนายอะเด็ม คาราแด็ก จาก มทบ.11 มาส่งตัวให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดี ขณะที่ตร.แถลงผลตรวจดีเอ็นเอของนายยูซุฟู ว่าไม่ตรงกับชายเสื้อเหลืองมือวางบึ้มศาลพระพรหม เมื่อวันที่ 4 ก.ย. 


       พล.ต.ท.ประวุฒิ เปิดเผยภายหลังการรับมอบตัวว่า ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) เจ้าหน้าที่ทหารควบคุมตัว นายอะเด็ม คาราแด็ก ซึ่งถูกจับกุมได้ที่อพาร์ตเมนต์ ย่านหนองจอก พร้อมวัสดุอุปกรณ์ประกอบระเบิด ตามคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ฉบับที่ 3 /2558 เมื่อวันที่ 29 ส.ค. ส่งมอบตัวให้ตำรวจ บช.น. หลังฝ่ายความมั่นคงดำเนินการสอบสวนแล้วเสร็จ เบื้องต้นได้ทำประวัติพิมพ์ลายนิ้วมือ ตรวจร่างกายพร้อมสอบปากคำเพิ่มเติมในบางประเด็น ก่อนแจ้งข้อกล่าวหามีวัตถุระเบิดที่เจ้าพนักงานไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ได้ไว้ในครอบครอง 
      โฆษกตร.กล่าวต่อว่า ขณะนี้ได้ส่งตัวให้พนักงานสอบสวนดำเนินการตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา คาดว่า วันเดียวกันนี้ไม่สามารถส่งตัวฝากขังศาลได้ทัน จะคุมตัวนายอะเด็ม คาราแด็ก ขออำนาจศาลฝากขังศาลจังหวัดมีนบุรี ในวันพรุ่งนี้ อย่างไรก็ตาม โดยจะควบคุมตัวในพื้นที่บก.น.3 เบื้องต้นยังใช้ข้อมูลตามที่ผู้ต้องหาได้ถือพาสปอร์ตที่นำมาใช้ เนื่องจากยังไม่สามารถยืนยันสัญชาติได้ ยังไม่รู้พูดภาษาไหน ทั้งนี้ เจ้าหน้า ที่ตำรวจอยู่ระหว่างให้เจ้าหน้าที่ตำรวจกองพิสูจน์หลักฐานตรวจสอบก่อนส่งให้สถานทูตแต่ละประเทศ ตรวจสอบอีกครั้ง ส่วนราย งานการสอบสวนของฝ่ายความมั่นคง ยังไม่สามารถเปิดเผยได้

ตร.-ทหารค้นหอพักรอบจตุจักร 2
     เมื่อเวลา 10.00 น. วันเดียวกัน พ.ต.อ.วัฒนา ยี่จีน รอง ผบก.น. 3 รรท.ผกก.สน.มีนบุรี พ.ต.ท.อดิศักดิ์ ชูพันธ์ รอง ผกก.ป..สน.มีนบุรี พร้อมกำลังสายตรวจ สายสืบ จราจร สน.มีนบุรี เจ้าหน้าที่ทหาร จำนวน 50 นาย เข้าตรวจค้นหอพักที่ต้องสงสัยว่าจะมีชาวต่างชาติมาหลบซ่อน ตามยุทธศาสตร์เอกซเรย์ ของ บชน. โดยเข้าตรวจค้นที่หอพักบริเวณรอบๆ ตลาดนัดจตุจักร 2 ถนนสีหบุรานุกิจ แขวงมีนบุรี เขตมีนบุรี กทม. และที่ถนนเจริญพัฒนา แขวงบางชัน เขตคลองสามวา กทม. ตรวจค้นไปปกว่า 300 ห้อง เป้าหมายเน้นชาวต่างชาติ ตรวจสอบพาสปอร์ต การประทับตราเข้าออก โดยไม่พบสิ่งผิดปกติ 
    ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้แจ้งผู้ประกอบการว่า เป็นภารกิจเพื่อชาติ ความปลอดภัย ผู้ประกอบการช่วยชาติได้ โดยให้ลงทะเบียนอย่าง ถูกต้อง และรีบแจ้งเบาะแสหากพบสิ่งผิดปกติ อย่างเช่น มีชาวต่างชาติมาเช่าห้องไว้ เอาของมาไว้ แต่ไม่มาพัก หรือมาบ้างไม่มาบ้าง มาเป็นกลุ่ม มีเพื่อนแวะมาหา น่าสงสัย ให้รีบแจ้งตำรวจทันที
     จากนั้นเวลา 14.00 น. เจ้าหน้าที่ได้ลงพื้นที่เพิ่มเติมที่แยกกีบหมู ถนนสุเหร่าคลองหนึ่ง แขวงและเขตคลองสามวา กทม. และแบ่งเป็น 6 ชุด กระจายกำลังเข้าตรวจค้นหอพักใกล้เคียง พบว่าส่วนใหญ่เป็นคนไทย และลูกจ้างชาวกัมพูชาโดยไม่พบความผิดปกติ

ตม.4 จับตาความเคลื่อนไหวไอเอส
     รายงานข่าวแจ้งว่า ที่ประชุม ศปก.บก.ตม.4 มีคำสั่งกำชับเจ้าหน้าที่เวร ศปก. และเวร รปภ. อยู่ปฏิบัติหน้าที่อย่างเคร่งครัด และติดตามสถานการณ์ประจำวันในพื้นที่อย่างใกล้ชิด หากมีเหตุด่วนหรือคดีสำคัญที่เกิดขึ้นให้รายงาน ผบก.ตม.4 และรอง ผบก.ตม.4 ทราบ โทรศัพท์ในโอกาสแรก และรายงานเป็นเอกสารมายัง ศปก.บก.ตม.4 และให้ติดตามความเคลื่อนไหวของกลุ่มไอเอสหาก มีให้แจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและผู้บังคับบัญชาตามที่ได้สั่งการไว้ และให้ดำรงการติดต่อสื่อสารไว้ตลอดเวลา 
    วันเดียวกัน พ.อ.วินธัย สุวารี โฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) แถลงภายหลังการประชุมของศูนย์ติดตามสถานการณ์ คสช. กรณีความคืบหน้าการจับกุมคนร้ายลอบวางระเบิดที่บริเวณแยกราชประสงค์และท่าเรือสาทรผ่านโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทยว่า การติดตามสืบสวนคดี มีความคืบหน้าอย่างต่อเนื่อง จากการที่ เจ้าหน้าที่ได้จับกุมนายไมไรลี ยูซุฟู ที่อ.อรัญ ประเทศ จ.สระแก้ว เมื่อวันที่ 1 ก.ย. ที่ผ่านมา ผลการตรวจพิสูจน์ลายพิมพ์นิ้วมือของนายยูซุฟูพบว่าตรงกันกับลายนิ้วมือแฝงบนขวดบรรจุสารระเบิดที่พบในห้องพักพูลอนันต์อพาร์ตเมนต์ เขตหนองจอกนั้น ขณะนี้ศาลได้อนุมัติออกหมายจับนายยูซุฟูเพิ่มเติมใน ข้อหาร่วมกันมีวัตถุระเบิดที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ได้ ไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย นับเป็นผู้ต้องหาคนที่ 9 ที่ถูกออกหมายจับจนถึงปัจจุบัน

โฆษกคสช.แถลงผลการตรวจค้น
     พ.อ.วินธัย กล่าวต่อว่า สำหรับการตรวจค้นบ้านพักใน ซอยราษฎร์อุทิศ 34 เขตมีนบุรี เมื่อวันที่ 3 ก.ย. นั้น ตรวจพบถังแกลลอนบรรจุของเหลวไม่ทราบชนิด จำนวน 10 ถัง ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบเบื้องต้นแล้วระบุได้ว่าเป็นสารตั้งต้นที่ใช้ในการผลิตยาเสพติด ไม่ใช่สารเคมีที่สามารถนำไปประกอบเป็นวัตถุระเบิดได้ อย่างไรก็ตามจะต้องนำไปตรวจสอบเพิ่มเติมโดยละเอียดต่อไป นอกจากนี้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬารายงานว่า แหล่งท่องเที่ยวสำคัญของประเทศยังคงมีการจองที่พักล่วงหน้าอย่างต่อเนื่อง และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น โดยขณะนี้รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา ได้เดินทางไปยังประเทศจีน เพื่อชี้แจงกับกลุ่มธุรกิจท่องเที่ยวของจีน ให้เกิดความมั่นใจในการดูแลความปลอดภัย และการให้บริการกับนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางมาท่องเที่ยวในประเทศไทย
      "ประเทศไทยได้ผ่านช่วงเวลาวิกฤตมา ระยะเวลาหนึ่ง ซึ่งน่าจะเป็นโอกาสที่ดีที่ส่วนราชการ ภาคเอกชน และประชาชนจะได้ร่วมกันและให้ความสำคัญกับการดูแลรักษาความปลอดภัย สถานที่ราชการ สถานประกอบการ และชุมชนของตนเอง โดยมีการจัดหรือปรับปรุงระบบรักษาความปลอดภัยให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น รวมทั้งการเฝ้าสังเกตสิ่งผิดปกติต่างๆ ทั้งนี้หากส่วนงานใดต้องการคำแนะนำในการวางระบบรักษาความปลอดภัย และข้อควรระวังในเรื่องดังกล่าว สามารถติดต่อขอรับการสนับสนุนได้จากเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารที่อยู่ใกล้เคียง เพื่อร่วมกันทำให้สังคมไทยมีความปลอดภัยยิ่งขึ้น" พ.อ.วินธัยกล่าว


บวงสรวง - พระมหาราชครูพิธีสุทธิคุณ ประธานพระครูพราหมณ์ พร้อมตัวแทนรัฐบาล กทม. ร่วมพิธีบวงสรวงสมโภชท้าวมหาพรหม ที่ผ่านการบูรณะ เมื่อวันที่ 4 ก.ย. หลังเสียหายจากเหตุคนร้ายลอบวางระเบิดบริเวณแยกราชประสงค์ 


รองโฆษกรบ.วอนอย่าระบุสัญชาติ
       ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.ต.วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกประจำสำนักนายกฯ ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าการสืบสวนสอบ สวนผู้ต้องหาในคดีวางระเบิดแยกราชประสงค์ว่า ตามที่โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) ได้ชี้แจงว่ามีการออกหมายจับบุคคลที่เกี่ยวข้องโดยมีพยานหลักฐานประกอบ ทั้งรอยนิ้วมือต่างๆ ซึ่งสามารถตรวจสอบได้ ทั้งหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ แต่ยังอยู่ในขั้นตอนการสอบสวนจึงยัง ไม่สามารถระบุชัดเจนว่า มีมูลจากมาจากประเด็นใด รัฐบาลมีข้อห่วงใยเกี่ยวกับการนำเสนอข่าวของสื่อมวลชนเกี่ยวกับเชื้อชาติของผู้ต้องหา จึงของให้สื่อระมัดระวัง เพราะถือเป็นเรื่องละเอียดอ่อน เนื่องจากทุกอย่างยัง ไม่ชี้ชัด ว่าผู้ต้องหาเป็นคนสัญชาติใด เรื่อง ดังกล่าวทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะเป็นผู้พิสูจน์สัญชาติ โดยทางการไทยจะร่วมมือในการพิสูจน์สัญชาติผู้ต้องหากับประเทศที่ถูกกล่าวหาว่ามีคนของประเทศนั้นมาก่อเหตุ จึงขอให้เข้าใจว่า การที่พูดถึงประเทศใดประเทศหนึ่งนั้นเป็นเรื่องละเอียดอ่อน แม้ผู้ต้องหาจะมีสัญชาตินั้น แต่ไม่ได้หมายความว่า ประเทศเหล่านั้นให้การสนับสนุนให้ก่อเหตุ นอกจากนี้ ในเรื่องดังกล่าวทางการตุรกีได้ชี้แจงแล้ว ว่าผู้ต้องหาที่ทางการไทยจับกุมได้นั้น ถือ พาสปอร์ตปลอม ส่วนผู้ต้องหาชาวไทยที่ถูกจับกุมที่ จ.นราธิวาส นั้น ยังไม่พบหลักฐานความเชื่อมโยงกับการก่อเหตุระเบิด แต่มีความเชื่อมโยงกับการค้ามนุษย์ จึงขอให้รอความชัดเจนอีกระยะหนึ่ง 

โต้ปมส่งอุยกูร์กลับจีน-แค่ค้ามนุษย์
       ผู้สื่อข่าวถามว่าเหตุระเบิดที่เกิดขึ้นเกี่ยว ข้องกับการส่งชาวอุยกูร์กลับประเทศจีนหรือไม่ พล.ต.วีรชนกล่าวว่า ยังไม่สามารถสรุปว่า สาเหตุมาจากเรื่องใดเรื่องหนึ่ง เพราะขณะนี้สมมติฐานต่างๆ ทั้งเรื่องการค้ามนุษย์ การส่งชาวอุยกูร์กลับจีน หรือการเมืองภายใน ยังเป็นประเด็นในการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ยังไม่มีการเจาะจงว่าเป็นเรื่องหนึ่งเรื่องใด จึงไม่อยากให้สื่อมวลชนนำเสนอข่าวไปในทิศทางใดทางหนึ่ง ขอให้ฟังจากทางตำรวจชี้แจงว่ามีหลักฐานใดเพิ่มเติม
      ผู้สื่อข่าวถามว่าผู้ต้องหาที่ก่อเหตุมีเงินสนับสนุนจากใดหรือไม่ พล.ต.วีรชนกล่าวว่า อาจเป็นขบวนการค้ามนุษย์ หรือคนสนับสนุน ขบวนการที่ใช้การค้ามนุษย์เป็นเครื่องมือ ก็อาจจะเชื่อมโยงได้ ส่วนการดำเนินการ กับชาวอุยกูร์ที่ยังอยู่กับประเทศไทยนั้น เป็นหน้าที่ของกระทรวงการต่างประเทศที่จะดำเนินการต่อไป
      "หลักฐานที่ออกมาตอนนี้ ยังไม่ได้สื่อ ไปในทิศทางว่าสาเหตุมาจากการส่งชาว อุยกูร์กลับจีน แต่อาจมีความเกี่ยวข้องถึงเรื่องการค้ามนุษย์ แต่การวิเคราะห์ของสื่อมุ่งไปทางนั้น จึงทำให้สาธารณชนมองเป็นแบบนั้น การวิเคราะห์ ความเชื่อก็เป็นส่วนหนึ่ง แต่ความจริงและหลักฐานประกอบก็เป็นอีกส่วน ตอนนี้ต้องแยกให้ออกว่า การส่งชาวอุยกูร์กลับจีนกับเรื่องการค้ามนุษย์เป็นคนละประเด็น ประเด็นการส่งตัวกลับไม่เกี่ยวข้องกับการค้ามนุษย์ แต่การเรื่องการค้ามนุษย์เป็นเรื่องของผลประโยชน์ล้วนๆ ซึ่งมีผู้เสียประโยชน์จากที่เราส่งตัวชาวอุยกูร์กลับ 2 เรื่องนี้ จึงนำมาโยงกันไม่ได้ ต้องแยกให้ออก ถ้าสองเรื่องมารวมกันจะเกิดความสับสน" พล.ต.วีรชนกล่าว

วงจรปิดจับภาพชัด'ยูซุฟู'
       รายงานข่าวแจ้งว่าสาเหตุที่ผู้ต้องหาใช้ชื่ออะเด็ม คาราแด็ก นั้น เพราะจากการตรวจสอบข้อมูลพบว่ามีการใช้พาสปอร์ตในชื่อดังกล่าว ซื้อซิมโทรศัพท์มาใช้ คาดว่าอาจจะเกี่ยวข้องกับการก่อเหตุดังกล่าว ซึ่งชื่อจริงนั้นจากการสอบปากคำยืนยันว่า นายบิลาเติร์ก มูฮัมหมัด สัญชาติตุรกี ไม่ใช่สัญชาติปาเลสไตน์ 
        ส่วนการตรวจสอบวัตถุพยานที่เป็นสารเคมีใช้ประกอบวัตถุระเบิดนั้น ล่าสุดจากการตรวจสอบพบภาพกล้องวงจรปิดบันทึกภาพกล้องวงจรปิดของนายมีไรลี ผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมได้ที่ชายแดนด่านธรรมชาติ อ.อรัญ ประเทศ จ.สระแก้ว พบว่า นายยูซุฟูเดินทางไปซื้ออุปกรณ์โดยเฉพาะสารเคมีที่มาใช้เป็นสารประกอบวัตถุระเบิด บริเวณร้านเคมีภัณฑ์ย่านมีนบุรี เมื่อวันที่ 21 ก.ค. และวันที่ 12 ส.ค. ก่อนเกิดเหตุระเบิดเมื่อวันที่ 17 ส.ค. ซึ่งข้อมูลระบุอีกด้วยว่า นายยูซุฟูจบการศึกษาคณะวิศวกรรมศาสตร์เกี่ยวกับเคมี มหา วิทยาลัยชื่อดังในประเทศจีน แต่จากการสืบสวนยืนยันว่าช่วงเช้าก่อนวันเกิดเหตุนั้นทั้งผู้ต้องหาที่ถูกออกหมายจับตามภาพสเกตช์ชายสวมใส่เสื้อสีเหลือง และผู้ต้องหาที่สวมใส่เสื้อสีฟ้า รวมถึงนายบิลาเติร์ก และนาย ยูซุฟู เดินทางมาอยู่ในบริเวณแยกราชประสงค์อย่างแน่นอน โดยเชื่อว่านายบิลาเติร์กน่าจะเป็นผู้ประกอบระเบิด ส่วนนายยูซุฟูเป็นผู้กดชนวนระเบิด ที่อาจจะมีการตั้งเวลาด้วยนาฬิกา ทั้งนี้ ต้องรอผลสรุปการตรวจสอบพยานหลักฐานทั้งหมดอีกครั้ง เนื่องจากยังไม่ทราบว่าสาเหตุที่ผู้ต้องหาที่ถูกออกหมายจับตามภาพถ่ายสวมเสื้อสีฟ้านั้นทำไมจึงเอาระเบิดมาทิ้งไว้บริเวณท่าเรือสาทร

พบลายมือแฝงทั้งบิลาเติร์ก-ยูซุฟู
      รายงานข่าวแจ้งอีกว่า จากการตรวจสอบของกองพิสูจน์หลักฐานเกี่ยวกับร่องรอยของลายนิ้วมือ ยืนยันว่า ตรวจสอบพบตรงกับร่องรอยลายนิ้วมือนายยูซุฟู และนายบิลาเติร์ก ภายในห้องเลขที่ 412 และ 414 พูลอนันต์อพาร์ตเมนต์ เลขที่ 134/5 ปากซอยเชื่อมสัมพันธ์ 11 แขวงกระทุ่มราย เขตหนองจอก กทม. ส่วนบริเวณห้องพักที่ 9106 ไมมูนา การ์เด้นโฮม ซอยราษฎร์อุทิศ 25/8 ถนนราษฎร์อุทิศ แขวงแสนแสบ เขตมีนบุรี กรุงเทพมหานคร ที่มีน.ส.วรรณา สวนสัน เป็นผู้จองห้องพัก และนายเอ็มระห์ ดาวูโตกลู สามี ได้พาเพื่อนมาเข้าพักนั้น พบร่องรอยลายนิ้วมือของนายยูซุฟู แต่การตรวจสอบพยานเกี่ยวกับลายนิ้วมือเปรียบเทียบวัตถุพยานที่ได้จากรถสามล้อเป็นแบงก์ 20 นั้น ยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบ 
      รายงานข่าวแจ้งด้วยว่า จากการตรวจสอบข้อมูลโดยรอบพร้อมทั้งสอบปากคำนายยูซุฟูยังให้การว่า นายยูซุฟูไม่ใช่ชายเสื้อเหลืองที่ลงมือก่อเหตุแต่อย่างใด ทั้งนี้ ตรวจสอบต่อไปอีกด้วยว่า อุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องอื่นๆ ที่ใช้ประกอบวัตถุระเบิด อาทิ ฝักแค หรือชนวนจุดระเบิดนั้น ทางชุดเก็บกู้วัตถุระเบิดยืนยันว่าไม่มีขายในประเทศไทย จึงยังต้องตรวจสอบรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับวัตถุพยานอื่นๆ 

เค้นหนักมีไรลี-คาดมือกดรีโมต
      รายงานข่าวจากเจ้าหน้าที่หน่วยงานความมั่นคง เปิดเผยว่า นายมีไรลี ยูซุฟู มีความรู้ด้านเคมีเป็นอย่างดีพร้อมทั้งเชื่อว่าเป็นคนประกอบระเบิดที่ใช้ก่อเหตุในครั้งนี้ โดยได้ใช้ห้อง 414 พูลอนันต์อาพาร์ตเมนต์ประกอบระเบิด แต่ตัวจะพักอยู่ที่ห้องพักเลข 916 อาคารไมนูนา กาเด้นโฮม ซ.ราชอุทิศ 25/8 ย่านมีนบุรี โดยวันเกิดเหตุได้นำระเบิดที่ประกอบเสร็จแล้วใส่เป้มามอบให้ชายชุดเหลืองย่านหัวลำโพง แล้วแยกกันเดินทาง โดยนัดมาเจอกันที่ศาลท้าวมหาพรหม สี่แยกราชประสงค์ ซึ่งเป็นจุดก่อเหตุ หลังจากนั้นให้ชายเสื้อเหลืองเป็นคนนำไปวางจุด ซึ่งนายมีไรลีเองได้ยืนดูและสังเกตการณ์อยู่ในระยะสายตา ซึ่งทีมสอบสวนคาดว่าอาจจะยืนหรือเดินอยู่บริเวณทางเดินสกายวอล์กในจุดที่สามารถมองเห็นชายเสื้อเหลือง และหลังที่ชายเสื้อเหลืองได้วางกระเป๋าเป้ระเบิดเสร็จ ก็ได้ส่งสัญญาณให้ทราบทันทีว่าเรียบร้อย หลังจากนั้นชายเสื้อเหลืองก็รีบเดินไปทางถนนราชดำริด้านโรงแรมเอราวัณ
       รายงานข่าวแจ้งว่า คาดว่านายมีไรลีลงมือจุดชนวนระเบิดด้วยรีโมต หรือใช้สัญญาณโทรศัพท์ทันทีแล้วแยกย้ายกันหลบหนี จนถูกจับได้ในเวลาต่อมา ซึ่งขณะนี้ทางชุดสืบสวนและเจ้าหน้าที่หน่วยงานความมั่นคงได้เค้นสอบอย่างหนักเพื่อไขปมว่าใครมี หน้าที่ทำอะไรในขบวนการก่อเหตุระเบิด ทั้ง 2 จุด

รบ.บวงสรวงท้าวมหาพรหม
       เมื่อเวลา 06.30 น. วันเดียวกัน ที่ศาลท้าวมหาพรหม แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน นายวีระ โรจน์พจนรัตน์ รมว.วัฒนธรรม ในฐานะตัวแทนพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พร้อมม.ล.ปนัดดา ดิศกุล รมต.ประจำสำนักนายกฯ พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง รองผู้ว่าฯกรุงเทพฯ ตัวแทนผู้ประกอบกิจการสี่แยกราชประสงค์ และตัวแทนจากศาสนา ร่วมจัดพิธีบวงสรวง สมโภช สรงน้ำ อภิเษกท้าวมหาพรหม ตามโบราณประเพณี โดย มีพระมหาราชครูพิธีศรีสุทธิคุณ ประธานพระครูพราหมณ์นำอธิษฐานและประกาศโองการบวงสรวง 
      จากนั้น เวลาประมาณ 07.30 น. บริเวณศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ นายวีระจุดธูปเทียนถวายบูชาพระรัตนตรัย และเครื่องทองน้อยเบื้องหน้าป้ายบูรพกษัตริยาธิราชเจ้า และ บูรพชนผู้ก่อตั้งศาลท่านท้าวมหาพรหม
      ต่อมาเวลา 08.30 น. ได้มีพิธีสักการบูชาองค์เทพศักดิ์สิทธิ์ 6 องค์ ณ บริเวณโดยรอบสี่แยกราชประสงค์ ประกอบด้วย 1.สักการะพระตรีมูรติ บริเวณศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ 2.สักการะพระพิฆเนศวร บริเวณศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ 3.สักการะพระนารายณ์ทรงครุฑ บริเวณรร.อินเตอร์คอนติเนนตัล 4.สักการะพระลักษมี บริเวณห้างเกษรพลาซ่า 5.สักการะท้าวอัมรินทราธิราชเจ้าหรือพระอินทร์ บริเวณอัมรินทร์พลาซ่า และ 6.สักการะพระแม่อุมาเทวี บริเวณหน้าห้าง บิ๊กซี สาขาราชดำริ 

ซ่อมเสร็จ-หวังเป็นกำลังใจ
       นายวีระ กล่าวว่า จากเหตุการณ์ร้ายแรงบริเวณศาลท้าวมหาพรหมสี่แยกราชประสงค์เมื่อวันที่ 17 ส.ค. ก่อให้เกิดความเสียหาย ต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนชาวไทยและชาวต่างประเทศ โดยองค์ท้าวมหาพรหมอันเป็นที่เคารพสักการะของผู้คนทั่วโลกได้รับความเสียหาย วธ.ได้มอบหมายให้กรมศิลปากรเข้าไปดำเนินการบูรณะซ่อมแซมองค์ท้าวมหาพรหมและบริเวณศาลจนแล้วเสร็จเมื่อวันที่ 2 ก.ย. ตามโบราณประเพณี หลังจากการบูรณะซ่อมแซมองค์ท้าวมหาพรหมแล้ว จะต้องจัดให้มีพิธีบวงสรวงสมโภชเพื่อความเป็นสิริมงคล สร้างขวัญ และกำลังใจแก่ประชาชนชาวไทยและชาวต่างชาติ สืบทอดขนบธรรมเนียมประเพณีในมิติทางศาสนาให้ยั่งยืน
      "สำหรับความเชื่อมั่นนั้น ในวันนี้จะเห็นได้ว่า มีกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ และฝ่ายความมั่นคง ดำเนินการติดตามผู้ก่อการร้ายและ มีความชัดเจนมากยิ่งขึ้น และคิดว่า การบวงสรวงในครั้งนี้จะสร้างความเชื่อมั่นได้ และสร้างขวัญและกำลังใจแก่ประชาชนและนักท่องเที่ยวด้วย" รมว.วธ.กล่าว

ooKbee1

corehoon NEW2

 

 

ข่าวล่าสุด!!