หมายจับเพิ่ม ทีมบึ้มรายที่ 10 ฝากขังอะเด็ม เข้าเรือนจำมีน

        ตร.ออกหมายจับรายที่ 10 ทีมระเบิด โฆษกตร.'ประวุฒิ ถาวรศิริ' เผยเป็นชาย ยังไม่ระบุสัญชาติส่งตัวนอนคุกแล้ว'อะเด็ม คาราแด็ก' หลังถูกสอบเค้นนาน 7 ชั่วโมง ชุดสืบสวนขยายผลตามภาพวงจรปิด'ยูซุฟู' ซื้อสารประกอบระเบิด ย่านมีนบุรี พยานยันชัดมาซื้อ 2 ครั้ง นอกจากนั้นยังมีชายชาวอาหรับอีก 1 คน คาดแยกกันไปซื้อก่อนนำมาสะสมไว้ประกอบเป็นระเบิด ส่วน'วรรณา' หรือไมซาเลาะ ยังไม่ได้ประสานกับตุรกี เพื่อขอเข้ามอบตัว เร่งตรวจสอบอุปกรณ์ระเบิดที่ยึดได้ หากพบตรงกับเหตุระเบิดที่ราชประสงค์จะแจ้งข้อหาร่วมกันฆ่าฯ ทันที

06 กันยายน พ.ศ. 2558 ปีที่ 25 ฉบับที่ 9048 ข่าวสดรายวัน 

ขยายผล - ตำรวจและล่ามให้นายอะเด็ม คาราแด็ก หรือบิลาเติร์ก ผู้ต้องหาคดีระเบิดราชประสงค์ ดูรูปผู้ต้องสงสัยรายที่ 10 ที่ตำรวจเตรียมออกหมายจับเพิ่ม ระหว่างการสอบสวน เพื่อขยายผลจับกุมผู้ร่วมขบวนการ ก่อนนำตัวไปฝากขัง เมื่อวันที่ 5 ก.ย.

       จากกรณีเหตุคนร้ายลอบวางระเบิดที่ศาลพระพรหม สี่แยกราชประสงค์ เมื่อวันที่ 17 ส.ค.ที่ผ่านมา จนมีผู้เสียชีวิตทั้งชาวไทยและต่างประเทศ 20 ศพ ต่อด้วยการวางระเบิดที่ท่าเรือสาทร ใต้สะพานตากสิน ซึ่งเจ้าหน้าที่บุกเข้าตรวจค้นอพาร์ตเมนต์ย่านหนองจอก ควบคุมตัวนายอะเด็ม คาราแด็ก หรือนายบิลาเติร์ก มูฮัมหมัด อายุ 29 ปี พร้อมของกลางอุปกรณ์ประกอบระเบิดจำนวนมาก ต่อด้วยการจับกุมนายมีไรลี ยูซุฟู มีตำหนิคางเผือกได้ที่ชายแดนไทย-กัมพูชา โดยล่าสุดโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้แถลงผลตรวจดีเอ็นเอนายมีไรลี ยูซุฟู แล้วปรากฏว่าไม่ตรงกับดีเอ็นเอบนรถแท็กซี่ที่รับคนร้ายจากย่านศาลาแดงไปส่งที่หัวลำโพง และไม่ตรงกับธนบัตรใบละ 20 บาท ที่ได้มาจากวินรถจักรยานยนต์รับจ้าง รวมทั้งเศษวัสดุจากกระเป๋าที่คาดว่าบรรจุระเบิดที่พบในที่เกิดเหตุ

       แต่ตรงกับลายนิ้วมือแฝงที่เจอที่กระป๋องบรรจุสารประกอบระเบิด ที่พบในห้องพูลอนันต์อพาร์ตเมนต์ ย่านหนองจอก และบนแปรงสีฟัน กรรไกรตัดเล็บ ภายในห้องพักของไมมูณา การ์เด้น โฮม ย่านมีนบุรี พร้อมกับออกหมายจับผู้ต้องหาเพิ่มอีกรวมทั้งหมดแล้ว 9 ราย ต่อมาคณะทำงานกฎหมายส่วนรักษาความสงบ คสช. พร้อมเจ้าหน้าที่ทหาร มทบ.11 ควบคุมตัวนายอะเด็ม คาราแด็ก พร้อมของกลางส่งให้พนักงานสอบสวนบช.น. เมื่อวานที่ผ่านมาตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น

คุมตัวอะเด็มฝากขังศาลมีนบุรี

     ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อเวลา 10.40 น. วันที่ 5 ก.ย. ที่ศาลจังหวัดมีนบุรี พ.ต.อ.วิบูลย์ นิธิธรรมจรรยา พงส.ผทค.สน.หนองจอก พร้อมด้วย พล.ต.ต.สมประสงค์ เย็นท้วม ผบก.น.3 พ.ต.อ.วัฒนา ยี่จีน รอง ผบก.น.3 รรท.ผกก.สน.มีนบุรี เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.มีนบุรี หน่วยอรินทราช 26 และทหารจากสังกัด ร.2 พัน.3 รอ. ควบคุมตัวนาย อะเด็ม คาราแด็ก หรือนายบิลาเติร์ก มูฮัมหมัด อายุ 29 ปี มาฝากขังผัดแรก พร้อมคัดค้านการประกันตัว ท่ามกลางการคุ้มกันอย่างแน่นหนา โดยเจ้าหน้าที่จัดขบวนรถ 6 คันเพื่อนำตัวนายอะเด็ม คาราแด็ก ออกจากห้องควบคุมตัวที่สน.มีนบุรี เดินทางมายังศาลจังหวัดมีนบุรี

       ด้านพล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ ผู้ช่วยผบ.ตร. และโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยถึงความคืบหน้าคดีเหตุระเบิดที่สี่แยกราชประสงค์ ว่าขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการสเกตช์ภาพชายชาวต่างชาติ เพื่อเตรียมดำเนินการออกหมายจับผู้ต้องสงสัยรายที่ 10 ที่อาศัยอยู่ในห้องพักพูลอนันต์อพาร์ตเมนต์ ซอยเชื่อมสัมพันธ์ 11 เขตหนองจอก ร่วมกับนายอะเด็ม คาราแด็ก ผู้ต้องหาชาวต่างชาติ ที่คาดว่าจะมีความเชื่อมโยงกับเหตุระเบิดที่ศาลท้าวมหาพรหม ทั้งนี้ คาดว่าเจ้าหน้าที่จะสามารถออกหมายจับได้ในวันจันทร์ที่ 7 ก.ย.นี้ ทั้งนี้ ผู้ต้องสงสัยรายที่ 10 มีความเชื่อมโยงกับกลุ่มคนทั้งหมดที่ได้ดำเนินการออกหมายจับไปแล้วก่อนหน้านี้

โฆษกตร.ชี้ให้การเป็นประโยชน์

      ผู้สื่อข่าวถามว่า นายอะเด็ม คาราแด็ก หรือนายบิลาเติร์ก มูฮัมหมัด ใช้ภาษาใดในการสื่อสารกับเจ้าหน้าที่ระหว่างการสอบสวน พล.ต.ทประวุฒิกล่าวว่า นาย อะเด็มนั้นใช้ภาษาอังกฤษและภาษาอารบิก หรือภาษาท้องถิ่นในการสื่อสาร และตอนนี้ก็พยายามที่จะหาพยานหลักฐานเพิ่มเติมเพื่อสรุปสำนวนก่อนส่งฟ้องต่อไป ซึ่งจากการสอบปากคำนายอะเด็มเมื่อวานนี้ได้ให้การที่เป็นประโยชน์ต่อรูปคดี

เมื่อถามว่ามีคนไทยเข้าร่วมขบวนการด้วยหรือไม่ พล.ต.ท.ประวุฒิกล่าวว่า ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการตรวจสอบ เมื่อถามอีกว่าขณะนี้มีภาพปรากฏออกมาทางสื่อว่าเป็นผู้ต้องสงสัยและเกี่ยวข้องกับคดีระเบิด โฆษก ตร.ระบุว่า ภาพที่ออกมานั้นไม่ได้ออกมาจากส่วนของราชการ แต่เป็นภาพที่ประชาชนหรือผู้สื่อข่าวสืบหากันเอง ซึ่งเจ้าหน้าที่พยายามจะต่อจิ๊กซอว์ให้ละเอียดและเมื่อได้ก็จะนำชาร์ตความเชื่อมโยงของแต่ละบุคคลมาเปิดเผยต่อสื่อมวลชนต่อไป สำหรับกระแสข่าวที่ว่านายมีไรลี ยูซุฟู จบการศึกษาจากวิศวกรรมศาสตร์ ภาคเคมี จากประเทศจีนนั้นเป็นมาอย่างไร เจ้าหน้าที่มีข้อมูลอยู่แล้วแต่ขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบสวนและอยู่ในสำนวนไม่สามารถเปิดเผยได้

เตรียมออกหมายจับรายที่ 10

       พล.ต.ท.ประวุฒิกล่าวต่อว่า ขณะนี้พนักงานสอบสวน สน.หนองจอก อยู่ระหว่างการออกหมายจับผู้ต้องหารายที่ 10 ที่อยู่ห้องพักเดียวกับนายอะเด็ม โดยเป็นชายยังไม่ระบุสัญชาติ เนื่องจากต้องรอพยานยืนยันภาพสเกตช์ คาดว่าภายในวันจันทร์นี้จะขออำนาจศาลอนุมัติออกหมายจับได้ นอกจากนี้สถานทูตไทยในประเทศตุรกียังไม่ได้รับการประสานจากน.ส.วรรณา สวนสัน ในการติดต่อขอกลับประเทศไทยเพื่อเข้าให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ สำหรับการตรวจค้นเมื่อวานนี้ยังไม่พบหลักฐานสำคัญ แต่เป็นเพียงการค้นหาความเชื่อมโยงที่เกี่ยวข้องของคดี ขณะที่นายยูซุฟู ผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมได้ที่จังหวัดสระแก้ว เจ้าหน้าที่ทหารจะส่งตัวให้เจ้าหน้าที่ตำรวจในวันจันทร์ที่จะถึงนี้ หลังครบกำหนดควบคุมตัว 7 วันตามมาตรา 44

พยานยันยูซุฟูมาซื้อสารบึ้ม

        มีรายงานข่าวแจ้งว่า จากกรณีเจ้าหน้าที่ตรวจสอบพยานหลักฐานพบว่า นายมีไรลี ยูซุฟู พักอยู่ด้วยกันกับนายอะเด็ม ที่ห้องพักพูลอนันต์อพาร์ตเมนต์ ย่านหนองจอก และนายยูซุฟู ยังเคยไปอาศัยอยู่ที่ไมมูนา การ์เด้น โฮม ย่านมีนบุรี ซึ่งเป็นห้องพักที่น.ส.วรรณา สวนสัน หรือไมซาเลาะ เป็นผู้จองห้องพักตามที่ปรากฏหลักฐานพบลายนิ้วมือนายยูซุฟู ในที่พักทั้ง 2 แห่ง รวมถึงหลักฐานภาพวงจรปิดเห็นนายยูซุฟูไปซื้อสารประกอบระเบิด ที่บริษัทเคมีภัณฑ์ ย่านรามอินทรา ถนนนวมินทร์ โดยในภาพเห็นรอยด่างแผลเป็นบริเวณคางข้างขวาอย่างชัดเจน ซึ่งเป็นจุดเด่นบนใบหน้าของนายยูซุฟู

       ชุดสืบสวนคลี่คลายคดีระเบิดที่ศาลท้าวมหาพรหม และที่ท่าน้ำสาทร นำโดย พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา รอง ผบ.ตร. หัวหน้าพนักงานสืบสวนสอบสวน พล.ต.ท.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล ผบช.น. พล.ต.ท.มนู เมฆหมอก ผบช.สพฐ. พล.ต.ท.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ ผบช.ก. พล.ต.ท.ชัยวัฒน์ เกตุวรชัย ผบช.ส. รองหัวหน้าพนักงานสืบสวนสอบสวน ได้สั่งการให้ชุดสืบสวนขยายผลตรวจสอบอุปกรณ์ที่นายยูซุฟู ไปซื้อมีลักษณะตรงกับหลักฐานพยานวัตถุตรงกับระเบิดที่ศาลพระพรหมและที่ท่าน้ำสาทรหรือไม่

        รายงานข่าวแจ้งอีกว่า ชุดสืบสวนตรวจสอบข้อมูลหลักฐานและสอบปากคำพยานแวดล้อมทราบว่า ตอนเที่ยงวันที่ 11 ส.ค.58 นายยูซุฟู เดินทางไปบริษัทเคมีภัณฑ์ ซื้อของ 1 รายการ คือ กรดไฮโรคลอริก หรือกรดเกลือ น้ำหนักรวม 25 กิโลกรัม ราคา 437 บาท โดยจ่ายเป็นเงินสด และวันที่ 21 ก.ค.58 นายยูซุฟูก็เคยเดินทางมาซื้อของที่บริษัท 3 รายการ ได้แก่ อะซิโตน A น้ำหนักรวม 32 กิโลกรัม ราคา 2,568 บาท โซเดียม คาร์บอเนต (โซดาแอช) น้ำหนักรวม 18 กิโลกรัม ราคา 558 บาท และไฮโดรเจน เปอร์ออกไซด์ น้ำหนักรวม 30 กิโลกรัม ราคา 777 บาท รวมเป็นเงิน 3,903 บาท โดยจ่ายเป็นเงินสด

แฉยังมีชายอาหรับอีก1คนมาซื้อ

       ชุดสืบสวนสอบปากคำพยานระบุว่า มีชายลักษณะเป็นชาวอาหรับหรือแขกขาวอีก 1 คน เคยมาซื้อของที่บริษัทเป็นสารเคมีประเภทใช้สำหรับทำความสะอาด จากการตรวจสอบรายชื่อสารเคมีที่นายยูซุฟูเดินทางไปบริษัทเคมีภัณฑ์พบว่าตรงกันกับหลักฐานสูตรประกอบระเบิดที่มีการจดบันทึกไว้ โดยชุดสืบสวนพบอยู่ในห้องพักที่พูลอนันต์อพาร์ตเมนต์ ในวันที่จับกุมนายอะเด็ม ได้พร้อมของกลางอุปกรณ์ประกอบระเบิดจำนวนมาก

        จากการสืบสวนยังทราบด้วยว่า กลุ่มผู้ต้องหาอาจจะโดยสารรถแท็กซี่มาซื้อสารเคมี ซึ่งใช้เป็นอุปกรณ์ประกอบระเบิด โดยต่างทยอยมาซื้อของเพื่อไม่ให้ผิดสังเกต ก่อนสะสมจนกระทั่งครบจากนั้นก็ลงมือประกอบระเบิด ทั้งนี้ถ้าชุดสืบสวนตรวจสอบพยานหลักฐานพบว่า ระเบิดที่ศาลพระพรหมและที่ท่าน้ำสาทรตรงกัน และมีความเชื่อมโยงกับอุปกรณ์ประกอบระเบิดที่พบในห้องพักพูลอนันต์อพาร์ตเมนต์ และไมมูนา การ์เด้น โฮม พนักงานสอบสวนจะมีการดำเนินคดีผู้เกี่ยวข้องเพิ่มเติมในข้อหา ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน พยายามฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ทำให้เกิดระเบิดจนเป็นเหตุให้บุคคลอื่นถึงแก่ความตายและมีผู้ได้รับบาดเจ็บ สาหัส และทรัพย์สินของผู้อื่นได้รับความเสียหาย มีวัตถุระเบิดที่ออกใบอนุญาตไม่ได้ไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต พาอาวุธปืน (วัตถุระเบิด) ไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร และทำให้เสียทรัพย์ ข้อหาเดียวกับชายเสื้อเหลืองมือวางระเบิดที่ศาลพระพรหม ส่วนกรณีน.ส.วรรณนา หรือนางไมซาเลาะ เข้ามาเกี่ยวข้องด้วยนั้น เพราะเป็นผู้โทร.ติดต่อร้านขายเคมีภัณฑ์ให้นายยูซุฟูเป็นผู้ไปซื้อ เพราะยูซุฟูพูดภาษาไทยไม่ได้

บช.น.เค้นสอบอะเด็มนาน7ชั่วโมง

      ยังมีรายงานข่าวด้วยว่า หลังเจ้าหน้าที่ทหารนำตัวนายอะเด็มมาส่งมอบให้พนักงานสอบสวนบช.น. พล.ต.ท.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล ผบช.น. ได้สั่งการให้คณะพนักงานสอบสวนบช.น. 3 ชุด ผลัดกันสอบปากคำนายอะเด็ม โดยใช้เวลาประมาณ 7 ชั่วโมง เบื้องต้นนายอะเด็มได้ให้การเป็นประโยชน์ แต่ยังคงให้การภาคเสธและยืนยันว่าไม่มีส่วนรู้เห็นกับการก่อเหตุระเบิดที่แยกราชประสงค์และท่าเรือสาทร แต่ยืนยันว่าอุปกรณ์ประกอบวัตถุระเบิดนั้นอยู่ในที่พักของตนเองในพูลอนันต์อพาร์ตเมนต์ โดยยังได้ให้การซัดทอดกลุ่มผู้ต้องหาที่ถูกออกหมายจับว่า เป็นผู้นำอุปกรณ์ดังกล่าวมาไว้ภายในที่พักของตนเอง ซึ่งรู้จักกับบางคนส่วนบางคนก็ไม่รู้จักตามที่ตำรวจออกหมายจับ รวมทั้งยืนยันว่าไม่รู้จักชายเสื้อเหลืองที่ถูกออกหมายจับตามภาพสเกตช์แต่อย่างใด

      รายงานข่าวแจ้งอีกว่า ส่วนกรณีการ เตรียมออกหมายจับชายต้องสงสัยไม่ทราบสัญชาติเพิ่มอีก 1 รายนั้น ตามที่ชุดสืบสวนนำภาพชายต้องสงสัยว่าเกี่ยวข้องกับเหตุระเบิดที่ราชประสงค์มาให้นายอะเด็ม ดูขณะทำการสืบสวนที่บช.น. เบื้องต้น นายอะเด็มให้ข้อมูลเพิ่มเติมเพียงรูปร่างหน้าตา เพราะให้การว่าไม่รู้จักและไม่ทราบชื่อชายคนดังกล่าวเป็นใคร ซึ่งเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานได้สเกตช์ภาพชายต้องสงสัยไม่ทราบสัญชาติไว้แล้ว 2 ราย อย่างไรก็ตามคณะพนักงานสอบสวนยังอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขออนุมัติหมายจับตามภาพสเกตช์เพียง 1 รายเท่านั้น และยังต้องรอการสอบปากคำนายยูซุฟูเพิ่มเติมเพื่อให้ยืนยัน เพราะคาดว่านายยูซุฟูอาจจะรู้จักกับชายคนดังกล่าวด้วย และอาจเป็นหนึ่งในผู้ร่วมขบวนการด้วย ทั้งนี้คณะทำงานกฎหมายส่วนรักษาความสงบคสช. จะประสานพนักงานสอบสวนบช.น. เพื่อส่งมอบตัวนายยูซุฟูให้พนักงานสอบสวนในจันทร์ที่ 7 ก.ย. ที่บช.น.ต่อไป