หมวดหมู่: อาชญากรรม

1อซาน


บังกลาเทศแฉ 'อิซาน'เผ่นจีน ปปง.เปิดท่อเลียง 1 ล้าน-ทีมระเบิด โอนมาจากตปท.

    ปปง.เปิดเส้นทางการเงิน-ท่อน้ำเลี้ยงทีมวางระเบิดราชประสงค์ สะพานข้ามเรือสาทร พบโยงใย'วรรณา-สามี-มีไรลี'โอนจากต่างประเทศช่วงปลายปี 2557-ส.ค.2558 รวมเบ็ดเสร็จประมาณ 1 ล้านบาทจากจีน-ตุรกี กระทรวงยุติธรรมลงประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้ว ตั้งมทบ.11 เป็นเรือนจำพิเศษคุมตัว 2 ผู้ต้องหาคดีบึ้ม ด้านเอกอัครราชทูตบังกลาเทศประจำประเทศไทย รุดแจงโฆษกตร.ยอมรับ'อิซาน'บินไปกบดานที่บังกลาเทศจริง แต่อยู่เพียง 14 วันก็เผ่นไปจีน ระบุช่วงที่ไทยขอความร่วมมือตามจับนั้นผู้ต้องสงสัยไม่อยู่แล้ว ด้าน'บิ๊กตู่'อ้างขณะนี้ประสานทางการจีนตามล่าตัวอยู่ ขณะที่ตร.ก็มอบให้กองการต่างประเทศทำหนังสือสอบถามไปยังจีนเช่นกัน


วันที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2558 ปีที่ 25 ฉบับที่ 9054 ข่าวสดรายวัน

ให้ข้อมูล- น.ส.ไซดา มูนา ทาสนีม เอกอัครราชทูตบังกลาเทศ เข้าหารือพล.ต.ท. ประวุฒิ ถาวรศิริ ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ยืนยันนายอิซาน ทีมบึ้มกรุง หลบหนีเข้าบังกลาเทศจริง แต่ได้เดินทางออกไปประเทศอื่นแล้ว


บิ๊กตู่ เผยประสานจีนล่า'อิซาน'แล้ว
      เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 11 ก.ย. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ให้สัมภาษณ์กรณีนายอาบูดูซาตาเออร์ ดาบูดูเรห์มาน หรืออิซาน ผู้บงการวางระเบิดแยกราชประสงค์ หลบหนีเข้าในประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีนว่า ได้ดำเนินการประสานไปแล้ว และประสานกับทุกประเทศ เมื่อถามว่าจะใช้กฎหมายส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ขอให้จับให้ได้ก่อน ถ้าประเทศไหนมีกฎหมายส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนก็จะประสานกันว่าจะส่งได้อย่างไร 
      นายกฯ กล่าวว่า สิ่งที่สำคัญที่สุด ประชาชนทุกคนต้องช่วยกันระมัดระวังจะช่วยได้เยอะ ถ้าไปฝากการข่าวอย่างเดียว ถ้าเกิดเรื่องมาแล้วก็จะว่าการข่าวล้มเหลว ไม่ใช่ว่าซื้อขนมแล้วต้องได้ขนม ที่ดี ป้องกันแล้วเหตุการณ์ไม่เกิดขึ้นก็มีเยอะ สิ่งที่เกิดขึ้นขณะนี้เป็นเรื่องของรอยต่อ จุดอ่อนของเราทั้งเรื่องของเครื่องมือ การเฝ้าระวัง ถ้าสมมติทุกคนให้ความสำคัญ ไม่ให้เหตุการณ์เกิดขึ้นอีก อย่างเหตุการณ์ที่ราช ประะสงค์ถ้าเห็นคนวางกระเป๋าเป้ไว้ก็ต้องมีคนเห็นแล้วและรีบบอกเจ้าหน้าที่ กันคน ออกไป แต่ระเบิดไปลูกหนึ่งแล้วยังไม่กัน คนเลย แต่ทุกคนกลับเฮเข้าไป รวมถึงสื่อด้วย ระวังเหอะ ขอให้เห็นใจ อย่าไปโกรธ เจ้าหน้าที่ว่าทำไมกันไม่ให้เข้า ปิดบังอะไรหรือเปล่า เป็นการกันไม่ให้ท่านตายมากกว่า เจ้าหน้าที่เขาก็เสี่ยง 

บิ๊กป้อมพร้อมยกเครื่องตำรวจตม.
       ที่ท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 ดอน เมือง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง และรมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงปัญหาการทำหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) ว่า ขณะนี้เราต้องใช้เครื่องมือตรวจคนให้มากขึ้น ทั้งการพิสูจน์ใบหน้า และการตรวจลายนิ้วมือ เพื่อให้เกิดความมั่นใจและสร้างความเชื่อมั่นมากยิ่งขึ้น ขณะนี้ทางสำนักนายกรัฐมนตรี ร่วมกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) และกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) จะร่วมกันพิจารณาใช้เครื่องมือและซื้อเครื่องมือต่างๆ เพื่อให้เกิดความชัดเจนอย่างเร่งด่วน ส่วนปัญหาบุคลากรนั้นไม่ต้องเพิ่ม เพราะบุคลากรเราดีอยู่แล้ว ถ้าเครื่องมือเราดี ทั้งนี้ นายกฯ และหัวหน้าคสช. ก็สนใจจะดำเนินการจัดซื้อจัดหาเครื่องมือ เพื่อทำให้เกิดความมั่นใจว่าการเข้าเมืองต้องเข้ามาอย่างถูกต้อง และไม่เข้าแบบกลับไปกลับมา
       เมื่อถามถึงกรณีพล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผบ.ตร. เสนอเรื่องย้ายข้าราชการในสตม. จากกรณีเหตุระเบิดที่แยกราชประสงค์ พล.อ. ประวิตรกล่าวว่า ต้องย้าย เมื่อถึงเวลาก็ย้ายหมด ใครที่มีส่วนเกี่ยวข้องต่างๆ ก็ต้องย้ายหมด ไม่เห็นเป็นอะไร เพราะต้องทำ ปัญหาสตม.ถือว่าจบแล้ว เพราะตนได้เข้าไปดูแล้ว ทุกเรื่องเราต้องแก้ไขปัญหา เมื่อทำผิดก็ต้องว่าไปตามผิด ถ้าถูกก็ว่าไปตามถูก ส่วนการตั้งคณะกรรมการบูรณาการด้านข้อมูลข่าวสารนั้น ขณะนี้ยังไม่ได้มีการตั้งแต่อย่างใด ขอให้ได้ตั้งก่อน เพราะสื่อถามทุกวัน

กงสุลในเยอรมันเตือนคนไทยอีก
      วันเดียวกัน สถานกงสุลใหญ่ ณ นคร แฟรงก์เฟิร์ต โพสต์แถลงผ่านเพจบนเว็บไซต์เฟซบุ๊ก ความว่า ตามที่เกิดเหตุการณ์ระเบิดที่สี่แยกราชประสงค์ ในกรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 17 ส.ค. นั้น มีการวิพากษ์วิจารณ์ว่า เหตุการณ์ดังกล่าวอาจจะเกิดจากความไม่พอใจของชาวตุรกีต่อกรณีที่รัฐบาลไทยส่งชาวอุยกูร์ให้ทางการจีน จึงต้องการที่จะแก้แค้นโดยพุ่งเป้าที่นักท่องเที่ยวชาวจีนที่มักจะไปสักการะพระพรหมที่บริเวณสี่แยกราชประสงค์ ซึ่งเป็นสถานที่เกิดเหตุ ซึ่งจนกระทั่งบัดนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจเองยังไม่สามารถจับกุมตัวคนร้ายผู้วางระเบิดได้ นอกจากผู้เกี่ยวข้องจำนวนหนึ่งซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติได้เท่านั้น ทั้งยังไม่สามารถสรุปสาเหตุของการวางระเบิด และหลักฐานว่าผู้ต้องสงสัยมีสัญชาติอะไรที่แน่ชัดได้
      ดังนั้น ในช่วงที่คดีดังกล่าวยังไม่มีความชัดเจน เกี่ยวกับสัญชาติของผู้ลงมือวางระเบิด เพื่อความปลอดภัย สถานกงสุลใหญ่ ณ นครแฟรงก์เฟิร์ต จึงใคร่แนะนำให้ชาวไทยที่พำนักในนครแฟรงก์เฟิร์ต และในเมืองต่างๆ หลีกเลี่ยงการแสดงตนว่าเป็นคนไทย และโต้เถียง กับชาวต่างชาติต่อกรณีข่าวดังกล่าว และเพิ่มความระมัดระวังในการใช้ชีวิตประจำ วันด้วย
      ข้อความดังกล่าวมีการกดแชร์ผ่านโลกออนไลน์จำนวนมาก และมีการแสดงความคิดเห็นอย่างกว้างขวาง หลายคนโพสต์ขอบคุณที่ประกาศเตือน เพื่อให้คนไทยเพิ่มความระมัดระวังหากต้องเดินทางหรือท่องเที่ยวในนครแฟรงก์เฟิร์ต ซึ่งผู้ใช้เฟซบุ๊กบางส่วนระบุว่า แฟรงก์เฟิร์ตมีชาวตุรกีอาศัยอยู่มาก ส่วนใหญ่สนใจทำงานหาเลี้ยงชีพ แต่ยอมรับว่ามีแนวคิดชาตินิยม ดังนั้นอย่าเผลอไปคุยเรื่องการเมืองหรือประเด็นอ่อนไหวที่เกี่ยวกับตุรกี ขณะที่บางคนแสดงความเห็นแย้งว่า ถึงไม่บอกเป็นคนไทย แต่ก็รู้ได้อยู่ดี เพราะฟังสำเนียงการพูดออก ทางที่ดีคือปิดปากให้เงียบที่สุด

สมยศ ไม่เชื่ออิซานบินบังกลาเทศ
     ที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 จ.ภูเก็ต พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผบ.ตร. กล่าวถึงกรณีที่ทางการประเทศบังกลาเทศ เปิดเผยผ่านสำนักข่าวเอเอฟพีว่านายอิซาน หรือนายอาบูดูซาตาเออร์ อบูดูเราะห์มาน ผู้ชายที่นายยูซุฟู มีไรลีให้การว่าเกี่ยวข้องกับเหตุระเบิด 2 จุดในกทม. เดินทางจากประเทศไทยไปยังกรุงธากา ตั้งแต่วันที่ 16 ส.ค. และเดินทางไปยังประเทศจีนแล้วว่ายังไม่ทราบข่าวเลย อาจเป็นข่าวลือก็ได้ ปล่อยให้เป็นหน้าที่พนักงานสืบสวนสอบสวนตรวจสอบ ในส่วนตำรวจไทยยังไม่ประสานไปยังทางการบังกลาเทศ ต้องตรวจสอบให้แน่ชัดก่อนว่า ทั้งนี้ได้สั่งการกำชับให้ด่านตรวจคนเข้าเมืองทั่วประเทศเฝ้าระวัง จับตาผู้ต้องหา และผู้ต้องสงสัยแล้ว
     สำหรับ การตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่ที่ไม่เหมาะสมและกระทบต่อความมั่นคง นั้น ผบ.ตร.กล่าวว่า สั่งการให้พล.ต.ท.นเรศ นันทโชติ จเรตำรวจ (หัวหน้าจเรตำรวจ) ตรวจสอบข้อเท็จจริงใน 6 ประเด็นตามข้อร้องเรียนที่ตนตั้งไว้ ไม่เจาะจงด่านใด แต่กำชับให้ตรวจสอบทั่วประเทศตามที่มีข้อร้องเรียน



รับประสานทุกปท.-ล่าจับคนร้าย
     เมื่อถามถึงกระแสข่าวมือระเบิดทั้ง 2 คนหลบหนีกบดานที่อพาร์ตเมนต์ในกรุงกัวลา ลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย พล.ต.ท.ประวุฒิกล่าวว่า ยังไม่ยืนยัน แต่ยอมรับว่ามีการประสานไปยังประเทศเพื่อนบ้านทุกประเทศ รวมถึงมาเลเซียด้วย เพื่อติดตามหาผู้ต้องหาทั้งหมดที่หลบหนีไป แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่สามารถยืนยันได้ บางเรื่องยังไม่สามารถเปิดเผยได้ ที่ผ่านมาตรวจสอบทุกเส้นทางชายแดนที่เป็นไปได้ทั้งเหนือ ตะวันออกเฉียงเหนือ ใต้ ตะวันออก ตะวันตก มีการประสานส่งหมายจับไปยังทุกประเทศที่เป็นไปได้ว่าผู้ต้องหาจะหลบหนีไป ทั้งนี้ต้องมีการขออนุมัติหมายจับผู้ต้องหาอีกจำนวนหนึ่งมากกว่า 1 คนแน่นอน ฐานร่วมกระทำความผิด ตามที่สืบทราบพยานหลักฐานเกี่ยวไปถึงได้
    กรณีที่มีข่าวว่านายอิซานเดินทางไปบังกลา เทศนั้น โฆษกตร.กล่าวว่า เมื่อมีข่าวเราก็ตรวจสอบไปยังสถานทูตบังกลาเทศในประเทศไทยแล้ว และทางเอกอัครราชทูตบังกลาเทศประจำประเทศไทยได้ติดต่อทำหนังสือขอพบผบ.ตร.แล้ว เพื่อหารือ หาข้อมูลร่วมกันคาดว่าจะคุยกันในเร็วๆ นี้ ยอมรับว่ามีข้อมูลว่านายอิซานเดินทางจากไทยไปยังบังกลาเทศจริง ส่วนจะออกจากบังกลาเทศไปไหนต่อต้องให้ทางบังกลาเทศตรวจสอบให้ ส่วนที่อ้างว่าไปจีนยังเป็นเพียงข่าว ต้องตรวจสอบให้แน่ชัดเสียก่อน

โฆษกตร.บังกลาเทศชี้บินจีนแล้ว
       วันเดียวกัน เอเอฟพีรายงานว่า นายนาซรุล อิสลาม โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติของประเทศบังกลาเทศ ระบุถึงกรณีที่นายอาบู ดูซาตาร์ อบูดูเระห์มาน หรืออิซาน ผู้ต้องสงสัยร่วมอยู่ในทีมระเบิดหลบหนีออกนอกประเทศ ไทยมากบดานอยู่ที่ประเทศบังกลาเทศ ว่าจากการตรวจสอบพบว่า นายอบูดูเระห์มาน เดินทางมายังกรุงธากา เมืองหลวงบังกลาเทศ โดยใช้หนังสือเดินทางของประเทศจีน ในวันที่ 16 ส.ค. ด้วยสายการบินไบแมน บังกลาเทศ แอร์ไลนส์ เที่ยวบินที่ บีจี 0089 ก่อนออกเดินทางจากบังกลาเทศไปยังกรุงปักกิ่ง ประเทศจีน ด้วยสายการบินเจ็ต แอร์เวย์ส ตั้งแต่วันที่ 30 ส.ค. อย่างไรก็ตาม ทางตำรวจบังกลาเทศปฏิเสธที่จะเปิดเผยที่พักอาศัยของนายอบูดูเระห์มาน ระหว่างพำนักอยู่ในบังกลาเทศเป็นเวลา 2 สัปดาห์

กำหนด'พันร.มทบ.11'คุกชั่วคราว
     วันเดียวกัน ราชกิจจานุเบกษาได้เผยแพร่คําสั่งกระทรวงยุติธรรม ที่ 314/2558 เรื่อง กําหนดอาณาเขตเรือนจําชั่วคราวแขวงถนนนครไชยศรี ระบุว่า ด้วยกระทรวงยุติธรรมพิจารณาเห็นว่า เพื่อประโยชน์ด้านการรักษาความปลอดภัย และความเหมาะสมในการคุมขังและการปฏิบัติต่อผู้ต้องขังในคดีความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงของรัฐ และคดีอื่นที่เกี่ยวเนื่อง ซึ่งเป็นผู้ต้องขังประเภทมีเหตุพิเศษ ที่ไม่ควรจะรวมคุมขังอยู่กับผู้ต้องขังอื่น จึงสมควรกําหนดสถานที่คุมขังไว้สําหรับผู้ต้องขังประเภทดังกล่าว 
     อาศัยอํานาจตามความในมาตรา 4 (1) และมาตรา 6 แห่งพ.ร.บ.ราชทัณฑ์ พ.ศ. 2479 จึงกําหนดเรือนจําชั่วคราว ขึ้นในพื้นที่ พัน.ร. มทบ.11 ถนนพระรามที่ 5 แขวงถนนนคร ไชยศรี เขตดุสิต เนื้อที่ 1 ไร่ เรียกชื่อว่า"เรือนจําชั่วคราวแขวงถนนนครไชยศรี" เพื่อใช้เป็นสถานที่คุมขังผู้ต้องขังและดําเนินงานด้านอื่นที่เกี่ยวข้องตามกฎหมาย โดยให้สังกัดเรือนจําพิเศษกรุงเทพมหานคร ทั้งนี้ นับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็น ต้นไป สั่งวันที่ 8 ก.ย. 2558 พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รมว.ยุติธรรม

ประวุฒิแย้มได้ตัว 2 ผู้ต้องสงสัย
     ล่าสุด พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ โฆษกตร. เปิดเผยว่า ขณะนี้ตำรวจมีข้อมูล เบาะแส รวมทั้งพยานหลักฐานว่าชายต้องสงสัย ใส่เสื้อเหลืองและฟ้า ก่อเหตุที่แยกราชประสงค์และท่าเรือสาทร หลบหนีไปยังแนวชายแดนภาคใต้ของไทย โดยมีทั้งพยานหลักฐานและบุคคลที่เชื่อมั่นได้ว่าผู้ต้องสงสัยทั้ง 2 ยังหลบหนีไปไม่ไกลจากแนวชายแดน และมั่นใจว่าจะได้ตัวมาดำเนินคดี ซึ่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงได้ประสานไปยังต่างประเทศ ตรวจสอบตามข้อมูลที่ได้มาว่ามีผู้ต้องสงสัยหลบหนีไปยังต่างประเทศ


เงินทีมบึ้ม- พ.ต.อ.สีหนาท ประยูรรัตน์ เลขาฯ ปปง. แถลงผลตรวจสอบเส้นทางการเงินของกลุ่มผู้ต้องหาวางระเบิดกรุง โดยพบว่ามีการโอนเงินจากต่างประเทศอย่างผิดสังเกต เข้าบัญชีของสามี น.ส.วรรณา สวนสัน หนึ่งในผู้ต้องหาที่ถูกออกหมายจับ ที่สำนักงานปปง. เมื่อวันที่ 11 ก.ย.


      โฆษก ตร.เปิดเผยว่า ภายในวันจันทร์นี้จะมีความชัดเจนทั้งในเรื่องของขบวนการ ตัวบุคคล ผู้เกี่ยวข้องว่าใครทำหน้าที่อะไรบ้าง รวมทั้งการแจ้งข้อหาเพิ่ม รวมทั้งการออกหมายจับนายอิซาน ก็คาดว่าจะออกได้ในวันจันทร์นี้

ทูตบังกลาเทศแจงไทยขอตัวช้าไป
      ต่อมาเวลา 18.00 น. น.ส.ไซดา มูนา ทาสนีม เอกอัครราชทูตบังกลาเทศประจำประเทศไทย เข้าหารือกับพล.ต.ท.ประวุฒิ กรณีนายอิซาน ชายต้องสงสัยเกี่ยวข้องกับเหตุระเบิดแยกราชประสงค์และท่าเรือสาทร ที่หลบหนีไปยังประเทศบังกลาเทศ เมื่อวันที่ 16 ส.ค.
     พล.ต.ท.ประวุฒิ กล่าวว่า ขอขอบคุณท่านทูตประเทศบังกลาเทศที่มีความร้อนใจมาให้ข้อมูลและมาพบเพื่อประสานงาน เพราะทางประเทศบังกลาเทศมีนโยบายที่ชัดเจนในการต่อต้านการก่อการร้ายทุกประเภท การที่มาวันนี้นำข้อมูลมาให้หลายเรื่อง บางเรื่องอาจไม่สามารถเปิดเผยได้ แต่ที่บอกได้คือนายอิซานเดินทางออกจากประเทศไทยเมื่อวันที่ 16 ส.ค. และขอวีซ่าจากสถานทูตบังกลาเทศในประเทศไทย เพื่อเดินทางออกไปยังประเทศบังกลาเทศ จากนั้นได้วีซ่านักท่องเที่ยวไป และเมื่อไปถึงก็ได้อยู่ในบังกลาเทศ 14 วัน และได้เดินทางออกนอกประเทศบังกลาเทศไปเมื่อวันที่ 30 ส.ค. แต่ทางการของประเทศไทยติดต่อไปเมื่อวันที่ 2 ก.ย.ประเทศบังกลาเทศจึงไม่สามารถติดตามควบคุมตัว ให้ได้ 

ประสาน อินเดียช่วยล่าตัวด้วย 
     โฆษก ตร.กล่าวว่า การเดินทางออกนอกประเทศบังกลาเทศเดินทางโดยสายการบินเจ็ทเอเชีย และมีข้อมูลระบุไว้ว่าจะไปต่อเครื่องที่กรุงเดลี ประเทศอินเดีย เพื่อไปยังประเทศจีน ทั้งนี้ ก็ไม่พบข้อมูลว่าได้เดินทางไปประเทศจีน หรืออยู่ในกรุงเดลี ขณะนี้ยังไม่ทราบว่านายอิซานอยู่ที่ไหน ข้อมูลส่วนนี้กำลังดำเนินการตรวจสอบอยู่ อย่างไรก็ตามจะมีการประสานงานกับทางประเทศอินเดียด้วย ส่วนที่อยู่ในบังกลาเทศไปอยู่กับใคร เจ้าหน้าที่บังกลาเทศจะเป็นผู้ตรวจสอบ เพราะชื่อของสถานที่พักที่แจ้งไว้ก็ไม่ได้เข้าพัก ทั้งนี้ พาสปอร์ตที่นายอิซานได้ไปขอวีซ่าไม่มีสิ่งผิดปกติ สถานทูตบังกลาเทศประจำประเทศไทยจึงออกวีซ่าให้ 
    "จากนี้ จะทำงานร่วมกันอย่างระมัดระวังที่สุด โดยเฉพาะการไปขอวีซ่าจากสถานทูตบังกลาเทศ ในคดีระเบิดบังกลาเทศจะช่วยหาข้อมูลระหว่างที่นายอิซานไปอยู่ที่นั่น อย่างไรก็ตามตรวจสอบพบว่านายอิซานยังไม่เคยเดินทางไปประเทศบังกลาเทศ ครั้งนี้น่าจะเป็นครั้งแรก ขอยืนยันก่อน ขณะนี้มีข้อมูลว่า นายอิซานน่าจะมีคนรู้จักที่ประเทศบังกลาเทศ ทั้งนี้ พาสปอร์ตของนายอิซานเป็นชาวจีนจากซินเจียง กำลังดำเนินการตรวจสอบอยู่ว่าข้อมูลในพาสปอร์ตถูกต้องหรือไม่" พล.ต.ท. ประวุฒิกล่าว

ตร.ทำหนังสือถึงจีน-ล่าตัว'อิซาน' 
    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.ท.ประวุฒิ ได้มอบหมายให้กองการต่างประเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จัดทำหนังสือสอบถามส่งไปยังทางการจีน กรณีนายอาบูดูเรห์มาน อับดูซาตาเออร์ หรือ อิซาน ผู้ต้องสงสัยรายสำคัญในเหตุการณ์ลอบวางระเบิด บริเวณศาลท้าวมหาพรหม สี่แยกราชประสงค์ ในกรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 17 ส.ค.ว่าได้เข้าไปยังประเทศจีน จริงหรือไม่ ตามเอกสารที่เอกอัครราชทูตบังกลาเทศ ประจำประเทศไทย นำมาให้เมื่อช่วงเย็นวันนี้ ซึ่งเป็นรูปที่นายอิซานอยู่ในสนามบินดาก้า ประเทศบังกลาเทศ เพื่อต่อเครื่องไปยังประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน

ปปง.เปิดเส้นทางเงินทีมวางบึ้ม
     เมื่อเวลา 14.30 น.ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) พ.ต.อ.สีหนาท ประยูรรัตน์ เลขาธิการ ปปง. แถลงข่าวกรณีที่มีการก่อเหตุระเบิดที่บริเวณแยกราชประสงค์เมื่อวันที่ 17 ส.ค.ที่ผ่านมา และศาลอนุมัติหมายจับผู้ต้องหาที่เกี่ยวข้องแล้ว ว่า ในส่วนของ ปปง.ได้ดำเนินการตรวจสอบวิเคราะห์ข้อมูลธุรกรรมทางการเงินกลุ่มบุคคลที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการก่อเหตุดังกล่าว ทั้งจากสถาบันการเงินและผู้ประกอบการที่ให้บริการเกี่ยวกับการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ เบื้องต้นจากการตรวจสอบพบบัญชีเงินฝากของผู้ที่เกี่ยวข้อง 3 คน คือ น.ส.วรรณา สวนสัน นายเอ็มระห์ ดาวูโตกู สามีของน.ส.วรรณา และนายมิราลลี่ ยูซุฟู 
     พ.ต.อ.สีหนาท กล่าวต่อว่า สำหรับบัญชีของน.ส.วรรณาพบว่ามีการเปิดบัญชีเงินฝาก รวม 8 บัญชี ประกอบด้วย ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) 3 บัญชี ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) 4 บัญชี ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) 1 บัญชี และธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) 1 บัญชี ส่วนนายมิราลลี่พบว่าเปิดบัญชีเงินฝาก ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) 1 บัญชี และนายเอ็มระห์เปิดบัญชีเงินฝากของธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) 1 บัญชี ทั้งนี้ จากการตรวจสอบเส้นทางการเงินของนายเอ็มระห์ พบว่ามีการรับโอนเงินและธุรกรรมทางการเงิน คือ 1.วันที่ 17 ก.พ. 2558 รับโอนเงินผ่านตู้ให้บริการรับโอนเงินจากบุคคลที่อยู่ในต่างประเทศ จำนวน 156,106.10 บาท 2.วันที่ 17 มี.ค. 2558 รับโอนเงินจากบุคคลที่อยู่ในต่างประเทศ จำนวน 157,646.08 บาท 

1 ล้าน-โยงต่างชาติในจีน-ตุรกี-ไทย
     3.วันที่ 7 เม.ย. 2558 มีการนำเงินเข้าบัญชีธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาบิ๊กซี หัวหมาก ของนายเอ็มระห์ จำนวน 410,000 บาท 4.มีการทยอยถอนเงินออกไปเป็นระยะ จนกระทั่งวันที่ 2 ก.ค. 2558 เหลือเงินอยู่ในบัญชี 395.45 บาท และ 5.วันที่ 27 ส.ค. 2558 มีการนำเงินเข้าบัญชี 14,495 บาท ส่งผลให้มีเงินเหลือในบัญชีจำนวน 14,854.45 บาท ทั้งนี้ สำหรับบุคคลที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการก่อเหตุดังกล่าวรายอื่น ทาง ปปง.กำลังดำเนินการตรวจสอบเส้นทางการเงินอย่างต่อเนื่อง เพื่อดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป 
     เลขาธิการ ปปง.กล่าวอีกว่า จากการตรวจสอบบัญชีของนายเอ็มระห์นั้น ปปง.ได้ขยายผลจนทราบว่ามีชาวต่างชาติทั้งที่อยู่ในประเทศจีนและตุรกี รวมประมาณ 7 คน โดยจะโอนเงินเข้ามาให้ชาวต่างชาติที่อยู่ในประเทศไทย 4 คน รวมถึงตัวของนายเอ็มระห์ด้วย โดยเริ่มการโอนเงินตั้งแต่เดือนก.พ. 2557 จนถึงเดือนมี.ค. 2558 รวมเป็นเงินประมาณ 1 ล้านบาท ซึ่งตนยังไม่สามารถเปิดเผยรายชื่อของขบวนการนี้ได้ ทั้งนี้ จำนวนเงินดังกล่าวถูกนำไปเป็นค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันและอีกส่วนหนึ่งนำไปซื้ออุปกรณ์และสารประกอบวัตถุระเบิด อย่างไรก็ตาม ยังพบว่าบุคคลที่มารับโอนเงินได้ใช้หนังสือเดินทางเล่มเดียวกัน ซึ่งเราจะดำเนินการสืบสวนต่อไป

เผย'ยูซุฟู'ไม่ได้จบวิศวเคมี
      รายงานข่าวแจ้งว่าผลตรวจพิสูจน์ระเบิดจากอีโอดี ระบุว่าระเบิดที่ศาลท้าวมหาพรหมและสะพานสาทรเป็นชนิดเดียวกัน เรียกว่าระเบิดแสวงเครื่องชนิดแรงดันสูง แต่ยังต้องรอผลการตรวจพิสูจน์ทางเคมีจากกองพิสูจน์หลักฐาน(พฐ.) ถึงจะบอกได้ชัดเจนว่าเป็นระเบิดชนิดทีเอ็นทีหรือซีโฟร์ เพราะสารตั้งต้นของระเบิดทั้งสองชนิดเหมือนกัน จึงต้องมาตรวจสิบหาสารเคมีอื่นๆ ว่าเป็นชนิดเดียวกับที่ตรวจพบในห้องนายอาเดม คาราดัก หรือ นายบิลาเติร์ก มูฮัมหมัด และนายมีไรลี ยูซุฟู ที่พูลอนันต์ อพาร์ตเมนต์ และไมมูณา การ์เด้นท์ โฮม หรือไม่
     มีรายงานด้วยว่านายยูซุฟู ไม่ได้เรียนจบเทคนิคการแพทย์ หรือวิศวกรรมเคมี แต่เคยเรียนคณะแพทยศาสตร์ ที่มหาวิทยาลัยในประเทศจีน จนถึงปี 5 จากนั้นได้ออกจากมหาวิทยาลัย โดยไม่มีใครทราบว่าเขาหายตัวไปไหน จนกระทั่งมาถูกจับกุมตัวในคดีระเบิด
     สำหรับ การตรวจสอบเส้นทางการเงินของขบวนการวางระเบิด ชุดสืบสวนพบหลักฐานน่าเชื่อว่ากลุ่มนี้อาจเกี่ยวข้องกับขบวนการค้ามนุษย์ในประเทศไทย จึงได้ส่งรายชื่อผู้ต้องสงสัยตีเป็นหนังสือลับส่งให้สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ตรวจสอบว่ามีส่วนเชื่อมโยงกับขบวนการนี้หรือไม่

จเรตำรวจเริ่มแล้วสอบส่วยตม.
     วันเดียวกัน พล.ต.ท.นเรศ นันทโชติ หัวหน้าจเรตำรวจ เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้ตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริง กรณีตำรวจตรวจคนเข้าเมืองเรียกรับสินบน จำนวน 10 ชุด เพื่อตรวจสอบการทำงานของตรวจเข้าเมืองทั้ง 10 กองบังคับการ โดยมีจเรตำรวจและรองเจรตำรวจ ร่วมเป็นกรรมการ เพื่อดูแลประสานงานแต่ละพื้นที่ โดยมอบหมายให้ พล.ต.ต.ธณัท วงศ์สุวรรณ รองจเรตำรวจ เป็นประธานดูแลการทำงานของคณะกรรมการทั้ง 10 ชุด เพื่อรวบรวมข้อมูลทั้งเสนอให้ที่ประชุมจเรตำรวจ และมอบหมายให้ พล.ต.ต.ชวัลวิทย์ วีระเดชกำแหง รองจเรตำรวจ เป็นโฆษก เพื่อชี้แจงการดำเนินงานของคณะกรรมการ เบื้องต้นได้กำหนดกรอบการทำงาน ให้คณะกรรมการลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยเฉพาะพื้นที่ในส่วนรับผิดชอบของตำรวจตรวจคนเข้าเมืองสุวรรณภูมิ ,ดอนเมือง ,สระแก้ว และเชียงราย เพื่อสรุปข้อมูลภายในวันที่ 20 ก.ย. ก่อนนำเข้าที่ประชุมจเรตำรวจเพื่อพิจารณาในวันที่ 21 ก.ย.

ไพบูลย์แจงมทบ.11 เรือนจำพิเศษ
     ด้านพล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รมว.ยุติธรรม กล่าวว่า ตนได้อนุมัติจัดตั้งเรือนจำพิเศษมทบ.11 เพื่อควบคุมตัวผู้ต้องขังในคดีระเบิด 2 ราย คือ นายอาเด็ม คาราดัก และนายมีไรลี ยูซุฟู เนื่องจากได้รับการประสานจากทางฝ่ายความมั่นคง เพื่อให้เกิดความสะดวกในการสอบสวนขยายผล อีกทั้ง เพื่อเป็นการลดขั้นตอนธุรการปกติของทางเรือนจำ โดยใช้อำนาจรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ตามพ.ร.บ.ราชทัณฑ์ ในการจัดตั้งเรือนจำ หลังจากนี้ จะต้องรอการประกาศลงในราชกิจจานุเบกษา ส่วนขั้นตอนการเปลี่ยนที่คุมขังของผู้ต้องขังทั้ง 2 คน ทางเรือนจำพิเศษมีนบุรีจะต้องดำเนินการยื่นคำร้องต่อศาล เพื่อขอเปลี่ยนสถานที่การควบคุมตัวผู้ต้องขัง 
      พล.อ.ไพบูลย์ กล่าวต่อว่า การประกาศตั้ง มทบ.11 เป็นเรือนจำพิเศษ เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกในการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ ซึ่งจะต้องมีการเดินทางเข้าออกเรือนจำอยู่ตลอดในระหว่างการสอบสวน เนื่องจากเรือนจำปกติมีกฎระเบียบและขั้นตอนการเข้าออกเรือนจำที่ค่อนข้างมาก ตนจึงอยากลดขั้นตอนดังกล่าวลง เนื่องจากฝ่ายความมั่นคงได้ทำเรื่องขอมายังกรมราชทัณฑ์ เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกให้แก่เจ้าหน้าที่ ทั้งนี้ ในส่วนของผู้ต้องขังรายอื่นนั้น จะต้องมีการ พิจารณาเป็นคดีไป 

 

 

ooKbee1

corehoon NEW2

 

 

ข่าวล่าสุด!!