ผบ.ทอ. เชื่อ ไทยแก้ปัญหาการบินพลเรือนทัน ก่อน FAA ตรวจ 26 ต.ค.นี้
ผบ.ทอ.เผย นายกฯ รับทราบความก้าวหน้าของทุกฝ่าย ที่ร่วมกันมุ่งมั่นแก้ปัญหาการบินพลเรือน เชื่อ ไทยปรับปรุงแก้ไขได้ทันเวลาก่อน FAA ของสหรัฐฯ จะเข้ามาตรวจสอบ 26 ต.ค.นี้ ยันส่วนใหญ่ดำเนินการแล้ว เหลืออีกเล็กน้อยเท่านั้น
พล.อ.อ. มณฑล สัชฌุกร โฆษก ศบปพ. กล่าวว่า พลอากาศเอก ตรีทศ สนแจ้ง ผู้บัญชาการทหารอากาศในฐานะผู้บัญชาการศูนย์บัญชาการแก้ไขปัญหาการบินพลเรือน (ผบ.ศบปพ.) ได้เป็นประธานในการประชุมติดตามความก้าวหน้าในการแก้ไขปัญหาข้อบกพร่องทางด้านการบินพลเรือนของคณะกรรมการศูนย์บัญชาการแก้ไขปัญหาการบินพลเรือน (ผบ.ศบปพ.) ณ กองบัญชาการกองทัพอากาศ โดยมีผู้แทนส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม
ผบ.ศบปพ. ได้กล่าวต่อที่ประชุมว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้รับทราบความก้าวหน้าในการแก้ไขปัญหาการบินพลเรือนที่ ศบปพ.ดำเนินการ และได้ขอให้ทุกฝ่ายร่วมมือตั้งใจในการแก้ไขปัญหานี้ให้สำเร็จ
จากนั้น ที่ประชุมได้มีการติดตามผลการดำเนินการแก้ไขข้อบกพร่อง ที่ค้างจากการประชุมครั้งที่ผ่านมา เมื่อวันที่ 5 ตุลาคม 2558 โดยกรมการบินพลเรือนได้ชี้แจงถึงหัวข้อที่เป็นข้อบกพร่องจำนวน 35 ข้อ ที่สำนักงานบริหารการบินแห่งชาติของสหรัฐอเมริกา (Federal Aviation Administration : FAA) ได้แจ้งให้ประเทศไทยดำเนินการแก้ไขปรับปรุงนั้น ขณะนี้ได้ดำเนินการเรียบร้อยแล้วเป็นส่วนใหญ่ รวมทั้งมีเอกสารหลักฐานที่พร้อมจะแสดงให้เห็นอย่างครบถ้วน โดยในส่วนที่ยังไม่สมบูรณ์เหลือเพียงเล็กน้อย ซึ่งอยู่ในขั้นตอนที่เกี่ยวกับระยะเวลา คาดว่าจะแล้วเสร็จก่อนที่คณะของ FAA เดินทางมาตรวจสอบในวันที่ 26 ตุลาคม ที่จะถึงนี้
อย่างไรก็ตาม สำหรับในห้วงเวลาจากนี้ไป ศบปพ.ได้ขอให้กรมการบินพลเรือน ตรวจสอบความถูกต้องของเอกสาร ระเบียบและคู่มือการปฏิบัติต่างๆ ที่จะต้องแสดงให้ FAA พิจารณา รวมถึงขั้นตอนการเตรียมการบรรยายสรุปให้มีความสมบูรณ์ที่สุด โดยให้มีการประชุมกลุ่มย่อยเป็นระยะๆ หากพบว่ายังมีสิ่งใดไม่ครบถ้วนสมบูรณ์ ทาง ศบปพ.จะได้เข้าไปช่วยแก้ไขได้ทันเวลาที่กำหนด
ทั้งนี้ ผบ.ศบปพ.ได้กล่าวว่า การเข้ามาตรวจการแก้ไขข้อบกพร่องทางด้านการบินพลเรือนของ FAA ในครั้งนี้นับว่า มีความสำคัญมาก เพราะหากเราสามารถผ่านการตรวจในครั้งนี้ไปได้ จะส่งผลดีต่อการแก้ไขข้อบกพร่องในส่วนที่เกี่ยวข้องกับองค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (International Civil Aviation Organization : ICAO) และสำนักงานบริหารความปลอดภัยด้านการบินของสหภาพยุโรป (European Aviation Safty Agency : EASA) ซึ่งกำหนดที่เข้ามาตรวจการแก้ไขข้อบกพร่องทางด้านการบินพลเรือนของประเทศไทยตามลำดับต่อไป
การประชุมในครั้งนี้ใช้เวลาประชุมกว่า 4 ชั่วโมง เนื่องจากเป็นการพิจารณาในรายละเอียดทีละหัวข้อจนได้ข้อยุติ และเลิกประชุมเมื่อเวลาประมาณ 19.30 น.
ที่มา : www.thairath.co.th