หมวดหมู่: อาชญากรรม

1อทยานราชภกด


เพื่อไทยจี้อีก’ปปช.-สตง.’สอบราชภักดิ์ อนุมัติตร. ปึ้กงเอี๊ยด’ ลาออก4

     จี้'ปปช.-สตง.' สอบ"ราชภักดิ์"เพื่อไทยบี้ซ้ำ หวังลงมือตรวจสอบโดยเร็ว ไม่เลือกปฏิบัติ เชียร์"บิ๊กหมู"จัดการจริงจัง อย่าลูบหน้าปะจมูก เพราะทหารที่ดีจะเสียหาย "ฐิติราช"เซ็นอนุมัติแล้ว 4 ตำรวจเพื่อนสารวัตรเอี๊ยดยื่นขอลาออก มีผลตั้งแต่ 13 พ.ย. เบื้องต้นไม่พบเกี่ยวข้องคดีหมิ่นเบื้องสูง

วันที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558 ปีที่ 25 ฉบับที่ 9118 ข่าวสดรายวัน

       จากกรณีแอบอ้างเบื้องสูงไปเรียกรับ ผลประโยชน์ โดยอ้างโครงการสำคัญ นำโดยนายสุริยัน สุจริตพลวงศ์ หรือหมอหยอง และพ.ต.ต.ปรากรม วารุณประภา หรือสารวัตรเอี๊ยด ต่อมาศาลทหารออกหมายจับพ.อ.คชาชาต บุญดี หรือเสธ.โจ้ นายทหารฝ่ายเสนาธิการ ประจำกองทัพภาคที่ 3 ฐาน แอบอ้างเบื้องสูงเรียกรับผลประโยชน์เช่นกัน ขณะที่ "พล.ต." เพื่อนสนิทของพ.อ.คชาชาต ยื่นลาออกจากราชการแล้ว ขณะที่พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รมช.กลาโหม และอดีตผบ.ทบ. ยอมรับมีค่าหัวคิวอุทยานราชภักดิ์ แต่จัดการแล้วด้วยการให้โรงหล่อบริจาคคืนกองทัพ โดยพล.อ.ธีรชัย นาควานิช ผบ.ทบ. ได้สั่งตั้งกรรมการสอบแล้วตามที่เคยเสนอข่าวไปนั้น

     เมื่อวันที่ 14 พ.ย. รายงานข่าวแจ้งว่า หลังมีกระแสข่าวว่า พ.ต.อ.ศิวพงษ์ พัฒน์พงศ์พานิช รองผู้บังคับการกองปราบปราม, พ.ต.อ.ไพโรจน์ โรจนขจร ผู้กำกับการ 2 กองปราบปราม, พ.ต.ท.ธรรมวัฒน์ หิรัณยเลขา รองผู้กำกับการ 2 กองปราบปราม และพ.ต.ท.จีรวัฏฐ์ บุญวัฒาภรณ์ สารวัตรสถานีตำรวจทางหลวง 2 กองกำกับการ 1 กองบังคับการตำรวจทางหลวง ซึ่งเป็น 4 ใน 8 ตำรวจสังกัดกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ที่ถูกโยกย้ายไปช่วยราชการที่ศูนย์ปฏิบัติการ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ซึ่งมีข่าวตำรวจทั้ง 4 นายสมัครใจ ลาออกจากราชการ และอยู่ระหว่างขั้นตอนการเสนอเรื่องต่อผู้บังคับบัญชานั้น

     ล่าสุด มีรายงานข่าวว่า พล.ต.ท.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ ผบช.ก. ได้เซ็นอนุมัติให้นายตำรวจทั้ง 4 ลาออกจากราชการแล้ว โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 13 พ.ย.ที่ผ่านมา

      สำหรับ 8 นายตำรวจสังกัดกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลางที่ถูกให้ไปช่วยราชการ เบื้องต้นจากการสืบสวนไม่พบว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดในคดีหมิ่นสถาบันเบื้องสูง เพียงแต่รู้จักกับพ.ต.ต. ปรากรมเท่านั้น

     วันเดียวกัน นายสมคิด เชื้อคง อดีตส.ส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่ผู้เกี่ยวข้องในการดำเนินการโครงการอุทยานราชภักดิ์ ยอมรับว่ามีการเรียกเก็บหัวคิวโรงหล่อว่า ตนเห็นด้วยกับพล.อ.ธีรชัย นาควานิช ผบ.ทบ. ที่ตั้งกรรมการสอบสวนเรื่องนี้ให้แล้วเสร็จภายในเวลา 7 วัน และขอให้ตรวจสอบอย่างจริงจัง อย่าลูบหน้าปะจมูก เพราะทหารที่ดีจะเสียหายไปด้วย

    นายสมคิด กล่าวต่อว่า เรื่องนี้มีใบเสร็จเห็นว่ามีการเรียกเก็บหัวคิว โดยพล.อ.อุดมเดชให้ข่าวด้วยตัวเอง ส่วนนายวิชัย อัศรัชกร รองประธานหอการค้าไทย ให้สัมภาษณ์ว่าแม้จะไม่มีนักการเมืองเข้าไปร่วม แต่ยังมีการจ่ายใต้โต๊ะ 30-50 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งรุนแรงมาก คนที่รับผิดชอบบ้านเมืองต้องดูแล อย่าล้มมวยในเรื่องนี้ คนจะโกงก็โกง ไม่ว่าเป็นใคร ชี้นิ้วใส่นักการเมืองแต่อีกสามนิ้วชี้เข้าหาตัวเอง

    นายสมคิด กล่าวด้วยว่า ขอให้ตรวจสอบอย่างเป็นธรรม ตรงไปตรงมา ต้องปฏิรูปตามที่พูด อย่าโยนกันไปมา และคนมีอำนาจเด็ดขาดควรดำเนินการ ส่วนคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) หรือสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ต้องตรวจสอบโดยเร็ว อย่าอ้างว่าไม่มีคนร้องเรียน อย่าเลือกปฏิบัติ เพราะจะเป็นไปตามที่มีการวิจารณ์ว่า บี้ได้แต่มด เจอช้างถอยแทบไม่ทัน อย่างไรก็ตามหากเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นในรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งคงเรียกร้องให้ลาออกจากตำแหน่ง แต่รัฐบาลนี้มาจากการรัฐประหารคงไม่ทราบหลักการดังกล่าว

กว่าจะเป็น 'ราชภักดิ์' และ'ปม'อื้อฉาว

    มติชนออนไลน์ : วันที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

    โครงการอุทยานราชภักดิ์ หัวหิน เป็นข่าวเกรียวกราว เมื่อตำรวจเข้าสอบสวนเบื้องต้น พบว่ามีการเรียกเก็บค่าหัวคิวในการจัดทำพระบรมรูปหล่อ โดยมีเซียนพระชื่อ อ. เป็นตัวการ ต่อมามีกระแสข่าวว่าเซียน อ. นำเงินส่วนต่างมาคืนจำนวน 20 ล้านบาท ก่อนที่จะหลบหนีไปต่างประเทศ

     กระทั่ง พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะผู้ที่ริเริ่มโครงการดังกล่าว เผยว่ามีบุคคลแอบอ้างและการเรียกเก็บเงินหัวคิวจริงแต่ได้มีการคืนเงินและนำเงินดังกล่าวไปบริจาคเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

     ทำให้เกิดข้อสงสัยจากสังคมว่า เหตุใดจึงไม่มีการดำเนินคดีกับผู้ที่แอบอ้างเรียกรับผลประโยชน์

    ขณะที่ พล.ต.ต.ปิยะพันธ์ ปิงเมือง ผบก.ปอท.และรองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) ออกมาระบุว่า กรณีโครงการอุทยานราชภักดิ์ ยังไม่มีผู้เสียหายมาแจ้งความร้องทุกข์ หากไม่มีผู้เสียหายทางพนักงานสอบสวนก็ไม่สามารถดำเนินการเองได้

       กองทัพบก โดย พล.อ.ธีรชัย นาควานิช ผู้บัญชาการทหารบก ได้แสดงท่าทีว่าจะไม่ให้เรื่องราวเงียบหายโดยไม่มีการสอบสวน โดยตั้งคณะกรรมการสอบสวนของกองทัพบก มอบหมายให้ พล.อ.วีรัณ ฉันทศาสตร์โกศล ประธานที่ปรึกษากองทัพบก และเป็นเพื่อนร่วมรุ่นเตรียมทหารรุ่น 14 หรือ ตท.14 เช่นเดียวกับ พล.อ.อุดมเดช เป็นประธานคณะกรรมการตรวจสอบโครงการอุทยานราชภักดิ์มี พล.ท.สรรชัย อจลานนท์ เจ้ากรมกำลังพลกองทัพบก เป็นเลขานุการฯ เพื่อตรวจสอบการดำเนินการทั้งหมด

     นอกจากประเด็นเรื่องโรงหล่อ ยังมีเรื่องการจำหน่ายโต๊ะจีนที่มีราคาสูง ตรวจสอบเงินบริจาค มีการนำเงินไปลดหย่อนภาษีหรือไม่ เงินเข้ามูลนิธิจริงเท่าใด และหากพบว่ามีการทำผิดจริงจะมีการดำเนินการเอาผิดทั้งวินัย อาญา และแพ่ง และความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112

     สำหรับ รายชื่อผู้ร่วมบริจาคสร้าง "อุทยานราชภักดิ์" ที่เผยแพร่อยู่ในเว็บไซต์ของสถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบก (ช่อง 5) ภายใต้ชื่อ "อุทยานที่สร้างด้วยความจงรักภักดีต่อพระมหากษัตริย์" มีผู้บริจาค 1,288 ราย

      บริจาคตั้งแต่หลักร้อย จนถึงหลักล้าน อาทิ 1.กลุ่มทรู 5,000,000 บาท 2.จ.อุบลราชธานี 2,700,670 บาท 3.กรุงเทพโทรทัศน์และวิทยุจำกัด (สถานีโทรทัศน์สีกองทัพบกช่อง 7) 2,000,000 บาท 4.ชมรมภูมิพลังแผ่นดิน 2,000,000 บาท 5.คุณหญิงปัทมา ลีสวัสดิ์ตระกูล (และโรงแรมอโนมา แกรนด์ กรุงเทพฯ) 2,000,000 บาท

     6.อาร์ทีเอ เอ็นเตอร์เทนแมนท์ จำกัด 2,000,000 บาท 7.ในนามภูมิพลังแผ่นดิน รุ่น 1 พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง และคณะ 2,000,000 บาท 8.กองทัพภาคที่ 2 1,300,000 บาท 9. พระวิสุธิสารเถร (เจ้าคุณเสือ) ประธานมูลนิธิวัดป่าหลวงตามหาบัว 1,000,000 บาท 10.การประปานครหลวง 1,000,000 บาท

    11.โรงงานยาสูบ 1,000,000 บาท 12.คุณการัณย์ จาวาลา บริษัท รอยัลดีเฟนส์ จำกัด 1,000,000 บาท 13.เสรีชัยยุทธภัณฑ์ 1,000,000 บาท 14.ลัทธพลเทรดดิ้ง 1,000,000 บาท 15.การไฟฟ้านครหลวง 1,000,000 บาท 16.พล.ร.7 1,000,000 บาท

    17.ธนาคารกรุงเทพ 1,000,000 บาท 18. พล.อ.ต.ตะวัน นาครทรรพ (และครอบครัว) 500,000 บาท 19.คุณสันติ โกวิทจินดาชัย 500,000 บาท 20.คุณสุกัญญา โกวิทจินดาชัย 500,000 บาท 21.ชมรมภูมิพลังแผ่นดินรุ่น 3 500,000 บาท 22.จ.นครราชสีมา 500,000 บาท 23.ชมรมภูมิพลังแผ่นดิน 300,000 บาท 24.กรมสรรพาวุธทหารบก 240,000 บาท 25.คณะองค์การบริหารส่วนจังหวัดลำพูน 220,000 บาท 26.คุณกิตติ วิทธิภากร ประธานสหสมาคมตระกูลแซ่ฯ 200,000 บาท 27.ไปรษณีย์ไทย จำกัด 200,000 บาท 28.กองทัพภาคที่ 1 200,000 บาท 29.บริษัท เอวิเอ แซทคอม จำกัด 200,000 บาท 30.บริษัท อิทธิพร อิมปอร์ต จำกัด 200,000 บาท

    31.นายวิเชียร จันทรโณทัย (ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ) 200,000 บาท 32.ทภ.3 200,000 บาท 33.จ.ชัยภูมิ 200,000 บาท 34. กรมฝ่ายเสนาธิการ 180,000 บาท 35.กรมสวัสดิการทหารบก 150,000 บาท 36.คุณสัญชัย จงวิศาล 150,000 บาท 37.กรมยุทธศึกษาทหารบก 130,000 บาท 38.คุณสุริยัน สุจริตพลวงศ์ 100,000 บาท 39.มูลนิธิรวมใจไทยสวีเดน 100,000 บาท

     40.สมาคมแม่บ้านทหารบก 100,000 บาท 41. N.C.R GROUP 100,000 บาท 42. คณะกรรมการจัดการแข่งขันฟุตบอลจตุรมิตรสามัคคี ครั้งที่ 28 100,000 บาท 43.สมาคมปักษ์ใต้ 100,000 บาท 44.โพลีพลัส เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด 100,000 บาท 45.พล.ท.ชาญชัย ยศสุนทร โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า 100,000 บาท

    46.กรมพลาธิการทหารบก 100,000 บาท 47.ไทยทูเวย์แฟบริค 100,000 บาท 48.สมาคมวิเทศน์พาณิชย์ไทยจีน 100,000 บาท 49.กรมการเงินทหารบก 100,000 บาท 50.จังหวัดลพบุรี และ กอ.รมน.จว.ลพบุรี 100,000 บาท

    51.สนามมวยลุมพินี 100,000 บาท 52.โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า 100,000 บาท 53.หน่วยบัญชาการรักษาดินแดน 100,000 บาท 54.ศรีนานาพร มาร์เก็ตติ้ง จำกัด 100,000 บาท 55.คุณชัชวาลย์ เจียรวนนท์ 100,000 บาท 56.ดร.พวงเพ็ชร ชุนละเอียด 100,000 บาท 57.ดร.ชัยณรงค์ ณ ลำพูน 100,000 บาท 58.คุณนิสา โรจน์รุ่งรังสี 100,000 บาท 59.คุณสมิต สุมิตรโยธิน 100,000 บาท 60.บริษัท เอส.เอส.เอส.ออโต้โมทีฟ อินดัสตรี จำกัด 100,000 บาท

      61.บริษัท ชานซ์ อินเตอร์ บิสเน็ซ จำกัด 100,000 บาท 62.พลตรี สมโภชน์ วังแก้ว พล.ม2รอ. 100,000 บาท 63.บริษัท พี.อีเร้นท์ เอเจนซี่ จำกัด 100,000 บาท 64.พล.ท.ชาญชัย ยศสุนทร โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า 100,000 บาท 65 หจก.ซินซินสกลนคร 100,000 บาท

     66.สมาคมชาวปักษ์ใต้ในพระบรมราชูปภัมภ์ 100,000 บาท 67.คุณสายสนี วงษ์สุวรรณ 100,000 บาท 68.กองทัพน้อยที่ 1 (กองทัพน้อย) 100,000 บาท 69.พล.ร.4 100,000 บาท 70.พล.ม.1 100,000 บาท 71.พล.พัฒนา 3 100,000 บาท 72.มทบ.31 100,000 บาท 73. มทบ.33 100,000 บาท 74.จทบ.พ.ล. 100,000 บาท 75.จทบ.อ.ต.100,000 บาท 76. วี.พี.เอ็น คอลเล็คชั่นส์ จำกัด 100,000 บาท 77.ออร์คิด แก๊ส (ประเทศไทย) จำกัด 100,000 บาท 78.ดร.อุดรพันธ์ จันทรวิโรจน์ 100,000 บาท 79.จ.หนองคาย 100,000 บาท 80.จ.นครพนม 100,000 บาท 81.พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา และเพื่อน 100,000 บาท ฯลฯ

    ในลำดับ ที่ 38 พบว่า นายสุริยัน สุจริตพลวงศ์ หรือหมอหยอง ร่วมบริจาคด้วย 100,000 บาท

   นั่นเป็นเพียงส่วนหนึ่งของผู้มีจิตศรัทธาร่วมสร้างอุทยานที่มีความหมายทางใจสำหรับคนไทยทุกคน

    ส่วนการดำเนินการในทางไม่เหมาะสม เกี่ยวพันไปถึงใคร ยังเป็นประเด็นที่รอการสะสาง

ooKbee1

corehoon NEW2

 

 

ข่าวล่าสุด!!