อาทิตย์เอกเขนก: 'ภาคภูมิ ศรีชำนิ' ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่งฯ ก่อนตัดสินใจต้องมีข้อมูลมากที่สุด

   ไทยโพสต์ : บ่มเพาะประสบการณ์การทำงานร่วม 28 ปี ไม่มีใครไม่รู้จัก "ภาคภูมิ ศรีชำนิ" กรรมการผู้จัดการคนใหม่ บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) บิ๊กรับเหมาแถวหน้าวงการก่อสร้างไทย ที่ได้รับการยอมรับในคุณภาพงานก่อสร้างที่ดี มีมาตรฐาน มาจนถึงทุกวันนี้

  เมื่อพูดถึงชีวิตการทำงาน คุณภาคภูมิเล่าว่า ชีวิตทำงานที่เริ่มตั้งแต่เป็นวิศวกรถือแฟ้มประจำไซต์ก่อสร้างตามต่างจังหวัด ซึ่งจบมาก็ทำงานมาตั้งแต่อายุ 24 รวมแล้วทำงานที่ซิโน-ไทยมา 28 ปี ซึ่งที่ซิโน-ไทยค่อนข้างเป็นวัฒนธรรมองค์กรที่รุ่นน้องต้องทำตามรุ่นพี่ รุ่นพี่ต้องเป็นตัวอย่างให้รุ่นน้อง พวกเราค่อนข้างทำงานหนัก เมื่อพักผ่อนก็จะปล่อย ฟรี อิสระ "ผมจะติดไลฟ์สไตล์ของซิโน-ไทย คือเวลาทำงานก็ทำอย่างเต็มที่ วันๆ มีอะไรก็พยายามแก้ให้มันจบในวันนั้น" เพื่อที่เวลาจะกลับไปพักผ่อนก็ต้องพักผ่อนจริงๆ

    ปัจจุบันก็มาถึงที่ทำงานตอน 7 โมงเช้า ถึงบ้านก็ 6 โมง ถึง 1 ทุ่ม ถ้าเป็นก่อนหน้านี้ ผมอยู่บ้านพักพนักงาน มีงานเกือบ 24 ชั่วโมง กลับถึงบ้านก็ 2 ทุ่ม"

    เมื่อพูดถึงความแตกต่างระหว่างทำงานในออฟฟิศกับไซต์งาน คุณภาคภูมิบอกว่า มองว่าอยู่ในไซต์งานก็สนุก เพราะอยู่กันเป็นพี่เป็นน้อง อยู่กันเกือบ 24 ชั่วโมง มีอะไรก็ช่วยเหลือกัน เมื่อมาอยู่ในออฟฟิศ หลังเลิกงานแยกย้ายกัน ต่างคนก็ต่างกลับ ก็ดีคนละอย่าง ส่วนการทำงานกับผู้ใต้บังคับบัญชา อย่างที่บอก ซิโนไทย ทุกคนเป็นพี่เป็นน้องกัน แต่เมื่อมีอายุที่แตกต่างกันก็มีความห่างกันออกไป จึงได้มีการจัดอบรมภายในขึ้นปีละ 2 ครั้ง ให้อยู่ในที่เดียวกัน พอถึงตอนเย็นก็มีงานเลี้ยงสังสรรค์กัน แนวทางจะเหมือนเด็กมหาวิทยาลัยที่มีรุ่นพี่คอยดูแลรุ่นน้อง จึงทำให้การทำงานร่วมกันเป็นไปได้ด้วยดี

   ส่วนการบริหารงานนั้น คุณภาคภูมิมองว่า จะไม่เป็นเพียงบริษัทรับเหมาก่อสร้างและบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ธรรมดาๆ แต่จะแตกไลน์ออกไปทำ "ธุรกิจโรงไฟฟ้า" อนาคตไฟฟ้าจะมีความต้องการมากขึ้นเรื่อยๆ ฉะนั้นอาจเห็นเราเข้าไปร่วมประมูลโครงการกับพันธมิตร ล่าสุดกำลังศึกษางานในแถบอาเซียน เบื้องต้นอาจเห็นบริษัทเข้าไปซับคอนแทรกต์โรงไฟฟ้าของคนอื่น ล่าสุดอยู่ระหว่างเจรจากับบริษัทญี่ปุ่น ซึ่งเป็นเจ้าของเทคโนโลยี อนาคตจะเปลี่ยนจากซับคอนแทรกต์เป็นหุ้นใหญ่หรือไม่ คงต้องดูกันอีกที เพราะไม่อยากเสี่ยงกับงานที่ยังไม่มีความแน่นอน

   พร้อมกับย้ำอีกว่า อย่างที่บอก เราคงเน้นงานในแถบอาเซียนเป็นหลัก เช่น กัมพูชา, พม่า, เวียดนาม และลาว แต่ด้วยความที่ไม่อยากเสี่ยงเรื่องลูกค้าใหม่และเงินลงทุน เราคงต้องจับมือกับพันธมิตรที่เป็นคนไทย แต่เข้าไปทำงานในแถบอาเซียนไปก่อน เพื่อร่วมกันประมูลงานก่อสร้างต่างๆ ล่าสุดบริษัทได้รับงานสร้างถนนประเทศลาว มูลค่า 600 ล้านบาท เรียบร้อยแล้ว

   "บริษัทจะพยายามตัดความเสี่ยงเรื่องทำงานแล้วไม่ได้เงิน ซึ่งแถบอาเซียนก็ยังมีความเสี่ยงเรื่องนี้อยู่ เพียงแต่คงต้องเลือกทำงานกับคนที่คิดว่าจะได้เงินชัวร์ๆ ก่อน แม้จะมีความเสี่ยง แต่เราจะถือโอกาสนี้เข้าไปศึกษาข้อปฏิบัติและกฎหมายต่างๆ"

   เมื่อถามย้ำว่าการทำงานที่ซิโน-ไทยมีความสุขหรือไม่ คุณภาคภูมิตอบว่า จากวันนั้นมาถึงวันนี้ ผมคิดว่าเป็นความโชคดีมากกว่าที่องค์กรให้โอกาสขึ้นเป็นผู้บริหารในวันนี้ และมาจากผลงานที่ผมทำงานอยู่ที่นี่มา 28 ปี เติบโตมาตามฝีมือและสายงาน ผมดูงานก่อสร้างมาเยอะ ผมอยู่ตรงกลาง เข้าได้กับทุกคนในบริษัท ทุกคนยอมรับผมทั้งคนในและคนนอกที่ผมประสานงานด้วย วันนี้ผมไม่ได้เปลี่ยนอะไรมาก เพียงแค่ผมขยับตำแหน่งสูงขึ้นเท่านั้นเอง

   ส่วนครอบครัวนั้น คุณภาคภูมิเล่าว่า ช่วงแรกๆ ไม่มีเวลาให้ครอบครัวเลย ต้องไปทำงานต่างจังหวัดตลอด แต่งงานได้กลับบ้านแค่เสาร์อาทิตย์ เพิ่งมามีช่วงหลังค่อนข้างรู้สึกเหมือนกันว่าชีวิตครอบครัวไม่ค่อยสนุกเท่าไร ลูกผมคลอดก็ไม่ได้ไปรับด้วยนะ เพราะไปประชุมที่ขอนแก่น แทบไม่ได้เจอ แต่ช่วงหลังที่ต้องทำงานในสำนักงานใหญ่ก็ได้เจอมากขึ้น คือสิ่งที่ผมทำก็ตอบแทนเขาทั้งนั้น เพราะเขายึดเงินเดือนผม พร้อมกับเสียงหัวเราะ

   ส่วนกิจกรรมในครอบครัว วันหยุดจริงๆ ก็จะพักผ่อนให้เต็มที่ โดยวิธีการนอน อาจจะมีกินข้าว ดูหนังกับครอบครัวบ้าง มาช่วงหลังนี้อีกเริ่มมีหลักสูตรการเรียนขึ้นมาเยอะ มากินเวลาตอนเย็นอีก ใน 1 อาทิตย์ต้องมี 1-2 วันไปหาเพื่อน ที่บ้านก็รับได้ เพราะก่อนหน้านี้เขาก็รับมาได้ทั้งชีวิต

            พร้อมกันนี้ คุณภาคภูมิยังบอกว่า "ในการทำงานไม่ได้ยึดติดกับอะไร ที่บอกว่าใครจะทำอะไร หมายถึงตัวผมนะ จะเน้นการปรับตัว ไม่มีอะไรตายตัว การตัดสินใจในวันนี้กับการตัดสินใจในวันพรุ่งนี้มีข้อมูลที่ต่างกัน เราก็ต้องตัดสินใจต่างกัน ส่วนวิธีการทำงานของผม คือต้องมีข้อมูลให้มากที่สุด และหาข้อมูลให้มากที่สุดก่อนตัดสินใจ และต้องตัดสินใจให้ถูกเวลา ไม่ชอบให้ใช้เวลามาเป็นการตัดสิน เมื่อพูดถึงชีวิตในการทำงาน หลัง 60 ไปแล้วผมคงหยุด แต่คงตัดจากซิโน-ไทยไม่ได้ แต่ผมคงไม่บริหาร".