ขสมก.เตรียมประกาศขึ้นบัญชีดำ 'เบสท์ริน กรุ๊ป' ใน 1-2 วันนี้ หลังฝ่ายกฎหมายตรวจสอบแล้วพบขาดคุณสมบัติ หลังไม่ส่งมอบรถได้ทันตามกำหนด ทำไม่สามารถเข้าร่วมประมูลรถเมล์ NGV ครั้งต่อไปได้ ขณะเดียวกันวันนี้ ไม่พบมีเอกชนรายใดยื่นเอกสารเสรอราคาจัดซื้อรถเมล์ NGV ทำให้ ขสมก.เตรียมประกาศล้มผลประมูล

      นายณัฐชาติ จารุจินดา ประธานคณะกรรมการบริหารกิจการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ กล่าวว่า วันนี้ (24 ส.ค.) ฝ่ายกฎหมาย ขสมก. ได้รายงานผลตรวจสอบคุณสมบัติของบริษัท เบสท์ริน กรุ๊ป จำกัด โดยพบว่าเบสท์รินอยู่ในข่ายต้องถูกขึ้นบัญชีดำ เนื่องจากฝ่ายกฎหมาย ขสมก. วิเคราะห์แล้วเห็นว่า เบสท์รินไม่มีเหตุผลอันควรในส่งมอบรถให้ ขสมก. ไม่ทันกำหนด

       โดยขณะนี้ ขสมก. เตรียมประกาศขึ้นบัญชีดำเบสท์รินอย่างเร็วที่สุดในวันนี้หรืออย่างช้าไม่เกินวันที่ 25 ส.ค นี้ ส่งผลให้เบสท์รินจะไม่สามารถเข้าร่วมประมูลรถเมล์ 489 คันครั้งต่อไปได้

       นายประยูร ช่วยแก้ว รองผู้อำนวยการฝ่ายการเดินรถองค์การ องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) เปิดเผยว่า ระหว่างเวลา 09.00-11.00 น.วันนี้ ขสมก. ได้เปิดให้เอกชนยื่นเอกสารประกวดราคาโครงการจัดหารถโดยสารประจำทางที่ใช้เชื้อเพลิงก๊าซธรรมชาติ (รถเมล์เอ็นจีวี) 489 คัน วงเงิน 3,387 ล้านบาท. แต่ปรากฏว่าไม่มีเอกชนรายใดร่วมยื่นเอกสารประกวดราคา ดังนั้น ขสมก. เตรียมประกาศยกเลิกประมูลในโครงการดังกล่าว ทั้งนี้เป็นไปตามระเบียบพัสดุ ขสมก.

     ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีเอกชนซื้อซองประกวดราคาจำนวน 3 ราย ประกอบด้วย บ ริษัท ไทย เทคโนโลยี แอนด์ เดเวลอปเมนท์ จำกัด และกิจการร่วมค้า เจวีซีซี ,บริษัท ช.ทวี จำกัด (มหาชน) หรือ CHO และบริษัท เบสท์รินกรุ๊ป จำกัด ซึ่งทั้ง 3 ราย ไม่มีการยื่นซองเอกสารราคา

      ขณะนี้ ก่อนหน้านี้ นายพิชิต อัคราทิตย์ รมช.คมนาคม ออกมาตั้งข้อสังเกตถึง กรณีที่ ขสมก.เตรียมประกาศยกเลิกการขึ้นบัญชีดำ (แบล็คลิสต์) บริษัท เบสท์ริน กรุ๊ป หลังไม่สามารถดำเนินการส่งมอบรถเมล์ NGV 489 คัน ให้ ขสมก. ตามกำหนด ซึ่งเห็นว่าควรมีการทบทวนในเรื่องนี้ รวมถึงการที่องค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน(ประเทศไทย) ท้วงติงเรื่องการกำหนดราคากลางในการประมูลครั้งใหม่ 3,387ล้านบาท ซึ่งเป็นการยืดถือจากราคากลางเดิมที่เบสท์รินประมูลได้ในครั้งก่อน โดยมองว่าเป็นราคาที่ต่ำเกินจริง

สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย

ล้มประมูลเมล์NGV 3รายไม่ยื่นซองอ้างราคากลางต่ำเกิน

     แนวหน้า :  ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 24 สิงหาคม 2560 องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ได้เปิดให้ผู้สนใจยื่นซองประกวดราคาโครงการจัดซื้อรถเมล์เอ็นจีวี 489 คัน โดยเป็นการเปิดรับซองภายใน วันเดียว ปรากฏว่าไม่มีเอกชนรายใดมายื่นซองแข่งขัน โดยเอกชนอ้างว่า ราคากลางที่ ขสมก.ตั้งไว้ต่ำเกินไป

      นายณัฐชาติ จารุจินดา ประธานคณะกรรมการ (บอร์ด) ขสมก. กล่าวว่า ที่ผ่านมามีผู้ซื้อซองประกวดราคา 3 ราย ได้แก่ บริษัท ไทย เทคโนโลยี แอนด์ เดเวลอปเมนท์ จำกัด, บริษัท เบสท์ริน กรุ๊ป จำกัด และกิจการร่วมค้า เจวีซีซี ช.ทวี แต่เมื่อไม่มายื่นซองก็ต้องล้มเลิกการประกวดราคาในครั้งนี้

       โดยหลังจากนี้จะเริ่มกระบวนการจัดซื้อใหม่อีกครั้ง และจะมีการตั้ง คณะกรรมการพิจารณาร่างเอกสารการจัดซื้อ (TOR) ใหม่ เนื่องจากจะต้องมีการพิจารณารายละเอียดเพิ่มเติมในหลายประเด็นโดยเฉพาะเรื่องราคากลางที่มีการตั้งข้อสังเกตว่ามีราคาที่ต่ำเกินไปเพราะอ้างอิงจากราคาที่ บริษัท เบสท์ริน ชนะการประมูลก่อนหน้านี้

      ทั้งนี้ ในส่วนของขั้นตอนการดำเนินการประกวดราคารอบใหม่ คาดว่าหากมีการเร่งรัดให้เริ่มกระบวนการได้ต้องใช้เวลาประมาณ 2 เดือน แต่ทาง ขสมก.ก็จะพยายามเร่งรัดให้สามารถจัดซื้อรถได้บางส่วนเข้ามา วิ่งให้บริการภายในปีนี้

       สำหรับ โครงการดังกล่าวมีวงเงินประมาณ 3,389 ล้านบาท แบ่งออกเป็นงบประมาณการจัดซื้อรถฯ มาจากเงินกู้ วงเงินประมาณ 1,735 ล้านบาท รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) และงบประมาณการจ้างซ่อมบำรุงรักษารถโดยสารงบดำเนินงานที่จะตั้งไว้แต่ละปีวงเงินรวมประมาณ 1,654 ล้านบาท รวมVAT

      ด้านนายพิชิต อัคราทิตย์ รมช.คมนาคม กล่าวว่า ภายหลังจากที่ได้รับรายงานเกี่ยวกับการประกวดราคาโครงการดังกล่าวแล้ว หลังจากนี้จะมีการรายงานให้ นายกรัฐมนตรี ทราบต่อไป ซึ่งมองว่า เนื่องจากการประมูลของหน่วยงานภาครัฐจำเป็นต้องปฏิบัติตามกฎหมาย และระเบียบการจัดซื้อ โดยหากไม่มีเอกชนเข้าร่วมประมูลการประมูลก็ต้องล้มเลิกไป

      ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับโครงการจัดหารถเมล์เอ็นจีวีเกิดความล่าช้ากว่า 10 ปี โดยการจัดหาเป็นไปตามมติ คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน 2549 ให้จัดหารถใหม่ และนำรถเดิมบางส่วนมาซ่อมปรับเป็นรถปอ.และใช้ก๊าซธรรมชาติเป็น เชื้อเพลิง อย่างไรก็ตาม โครงการเกิดความล่าช้า และปัญหาความโปร่งใสในการจัดหา และปัญหาอื่นๆ

      ก่อนหน้านี้ ขสมก.ได้ล้มเลิกการประมูลรถเมล์เอ็นจีวี 489 คัน ที่มี บริษัท เบสท์ริน กรุ๊ป จำกัด เป็นผู้ชนะโดยเสนอราคาต่ำสุดที่ราคา 3,389 ล้านบาท ต่ำกว่าราคากลางที่ตั้งไว้ 4,021 ล้านบาท ต่อมา กรมศุลกากร ระบุว่า บริษัท ซุปเปอร์ซาร่า จำกัด ผู้นำเข้ารถเมล์ ดังกล่าว ให้กับ เบสท์ริน สำแดงราคานำเข้าเท็จ จนทำให้บอร์ด ขสมก.มีมติยกเลิกประมูล

ประมูลเมล์ NGV489 คันล่ม เอกชนเมินชี้ราคาต่ำไม่คุ้มขสมก.ลุยถกแก้'ทีโออาร์'

    ไทยโพสต์ : พระรามเก้า * ขสมก.สั่งยกเลิกประมูลรถเมล์ NGV หลังเอกชน 3 รายที่ซื้อซองไปเข้ายื่นประมูล คาดอีก 2 เดือนเปิดรอบใหม่ทันทีหลังปรับแก้ TOR โดยเฉพาะราคากลางเรียกร้อง "พิชิต" เตรียมรายงานนายกฯ ถึงการล้มประมูลในครั้งนี้ ด้าน ช.ทวี แจ้งไม่ร่วมชิงเพราะราคากลางสูง ไม่คุ้มลงทุน

     นายณัฐชาติ จารุจินดา ประธานคณะกรรมการบริหาร องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) เปิดเผยว่า ขสมก.ได้ยกเลิกการประมูลโครงการจัด หารถโดยสารปรับอากาศใช้เชื้อเพลิงก๊าซธรรมชาติ (NGV) 489 คัน วงเงิน 3,387 ล้านบาท เนื่อง จากไม่มีเอกชนรายใดเข้ายื่นประมูล ซึ่งเปิดให้ยื่นซองในเวลา 09.00-11.00 น. ของวันที่ 24 สิงหาคมนี้

     อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้จะมีการตั้งคณะกรรมการทีโออาร์เพื่อพิจารณารายละเอียดของทีโออาร์ใหม่หลายประเด็น โดยเฉพาะเรื่องราคากลาง ซึ่งที่ผ่านมามีเอกชนออกมาตั้งข้อสังเกตว่า การใช้ราคากลางซึ่งเป็นราคาที่เบสท์รินชนะการประมูลก่อนหน้านี้ เป็นราคาต่ำเกินไป และไม่มีเอกชนรายใดสามารถเข้ามาประมูลดำเนินการจัดซื้อได้

      นายณัฐชาติ กล่าวว่า บอร์ด ขสมก.จะต้องมีการพิจารณาปรับราคากลางให้สูงขึ้น เพื่อจูงใจให้เอกชนเข้าร่วมประมูลครั้งต่อไป ส่วนกรอบเวลาดำเนินการ คาดว่าหากมีการเร่งรัดจะใช้เวลาอีกประมาณ 2 เดือน โดย ขสมก.ยังคาดหวังว่าหากมีการเร่งรัดการจัดซื้อจริงจัง ก็จะยังสามารถจัดซื้อรถได้บางส่วนเข้ามาวิ่งให้บริการภายในปีนี้ตามนโยบายของนายกรัฐมนตรี

    "ไม่มีคนยื่นซองเข้ามา ก็ต้องล้มเลิกการประมูล ก็ต้องมาปรับ TOR ต้องทำให้เร็วที่สุด ไม่ควรเกิน 2 เดือนน่าจะเปิดใหม่ได้" นายณัฐชาติกล่าว

      ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อน หน้านี้มีเอกชนเข้ามาซื้อซองประมูล โครงการนี้ 3 ราย คือ บริษัท ไทย เทคโนโลยี แอนด์ เดเวลอปเมนท์ จำกัด, บริษัท เบสท์ริน กรุ๊ป จำกัด และกิจการร่วมค้าเจวีซีซีที่มี บมจ.ช.ทวี (CHO)

     ด้าน นายสุรเดช ทวีแสงสกุลไทย กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. ช.ทวี ดอลลาเซียน (CHO) กล่าวว่า กลุ่มบริษัทไม่ยื่นซองประกวดราคาโครงการจัดซื้อรถเมล์ NGV เพราะราคากลางที่กำหนดไว้ต่ำเกินไป ต่ำกว่าต้นทุน โดยราคาดังกล่าวเป็นราคาสุดท้ายที่ทาง บริษัท เบสท์รินกรุ๊ป จำกัด เสนอและเป็นผู้ชนะประมูล และต่อมามีปัญหาการจัดหารถในเวลาต่อมา อย่างไรก็ตาม ทางบริษัทได้แจ้งต่อ ขสมก.แล้ว แต่ทาง ขสมก.ต้องดำเนินตามขั้นตอนของการประมูลที่ต้องนำราคาสุดท้ายของการประมูลครั้งที่แล้ว

     ด้าน นายพิชิต อัคราทิตย์ รมช.คมนาคม กล่าวยอมรับว่า ได้รับรายงานการล้มประมูลจาก ขสมก.แล้ว และจะรายงานให้พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ทราบต่อไป ซึ่งเชื่อว่านายกรัฐมนตรีจะเข้าใจ เนื่องจากการประมูลของหน่วยงานภาครัฐจำเป็นต้องปฏิบัติตามกฎหมายและระเบียบการจัดซื้อจัดจ้าง หากไม่มีเอกชนเข้าร่วมประมูลการประมูลก็ต้อง ล้มเลิกไป

ขสมก. ยกเลิกประมูลรถเมล์ NGV หลังไม่มีเอกชนเข้ายื่นซองประมูล คาดเปิดประมูลใหม่อีก 2 เดือนหลังปรับแก้ TOR

      นายณัฐชาติ จารุจินดา ประธานคณะกรรมการบริหาร องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) เปิดเผยว่า ขสมก.ยกเลิกการประมูลโครงการจัดหารถโดยสารปรับอากาศใช้เชื้อเพลิงก๊าซธรรมชาติ (NGV) 489 คัน วงเงิน 3,387 ล้านบาท เนื่องจากไม่มีเอกชนรายใดเข้ายื่นประมูล ซึ่งเปิดให้ยื่นซองในเวลา 9.00-11.00 น.ของวันนี้

      หลังจากนี้ คณะกรรมการจัดหาฯ ต้องไปปรับปรุงเงื่อนไขการประกวดราคา(TOR) ใหม่ โดยแนวโน้มอาจจะมีการเปลี่ยนแปลงราคาประมูล ทั้งนี้คาดว่าจะใช้เวลาไม่เกิน 2 เดือนน่าจะเปิดประมูลรอบใหม่ได้

     "ไม่มีคนยื่นซองเข้ามา ก็ต้องล้มเลิกการประมูล ก็ต้องมาปรับ TOR  ต้องทำให้เร็วที่สุด ไม่ควรเกิน 2 เดือนน่าจะเปิดใหม่ได้"นายณัฐชาติกล่าว

      อนึ่ง มีเอกชนเข้ามาซื้อซองประมูลโครงการนี้  3 ราย คือ บริษัท ไทย เทคโนโลยี แอนด์ เดเวลอปเมนท์ จำกัด, บริษัท เบสท์ริน กรุ๊ป จำกัด และ กิจการร่วมค้า เจวีซีซี ที่มี บมจ.ช.ทวี (CHO)

      ด้านนายสุรเดช ทวีแสงสกุลไทย กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ช. ทวี ดอลลาเซียน  (CHO) กล่าวกับ"อินโฟเควสท์"ว่า กลุ่มบริษัทไม่ยื่นซองประกวดราคาโครงการจัดซื้อรถเมล์ NGV เพราะราคากลางที่กำหนดไว้ต่ำเกินไป ต่ำกว่าต้นทุน โดยราคาดังกล่าวเป็นราคาสุดท้ายที่ทางบริษัท เบสท์รินกรุ๊ป จำกัด เสนอและเป็นผู้ชนะประมูล ซึ่งต่อมามีปัญหาการจัดหารถในเวลาต่อมา อย่างไรก็ตาม ทางบริษัทได้แจ้งต่อ ขสมก. แล้ว แต่ทาง ขสมก.ต้องดำเนินตามขั้นตอนของการประมูลที่ต้องนำราคาสุดท้ายของการประมูลครั้งที่แล้ว

      "วันนี้ไม่มีใครไป ก็สะท้อนให้เห็นแล้วว่าไม่มีใครทำงานได้ในราคานี้" นายสุรเดช กล่าว

     ทั้งนี้ CHO เคยเสนอราคาในโครงการจัดซื้อรถเมล์ NGV ของขสมก.ที่ 4,021.70 ล้านบาทเมื่อปีก่อน ซึ่งต่อมาล้มเลิกการประมูลไป

ขสมก.คงราคากลางประมูลรถเมล์ NGV ยังไร้ข้อสรุปทบทวนปลดแบล็กลิสต์เบสรินท์

      นายณัฐชาติ จารุจินดา ประธานกรรมการบริหารกิจการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) กล่าวภายหลังการประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด ) ขสมก.ว่า ที่ประชุมฯ รับทราบความคืบหน้าโครงการจัดซื้อรถโดยสารปรับอากาศที่ใช้เชื้อเพลิงก๊าซธรรมชาติ (NGV) พร้อมซ่อมแซมและบำรุงรักษารถโดยสาร จำนวน 489 คัน ด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ (อี-อ๊อคชั่น) ซึ่งอยู่ในขั้นตอนประกวดราคา โดยใช้ราคากลางที่ได้จากการประมูลครั้งสุดท้ายที่ 3,389,710,819.50 บาท

       อนึ่ง ขสมก.ได้เปิดขายเอกสารประมูลไปเมื่อวันที่ 7-11 ส.ค.60, เปิดให้ยื่นเอกสารวันที่ 24 ส.ค.60, แจ้งรายชื่อผู้มีสิทธิเสนอราคาวันที่ 1 ก.ย.60, ให้เสนอราคาวันที่ 8 ก.ย.60 คาดว่าจะตัดสินผลประมูลได้ในเดือน ก.ย.60 และส่งมอบรถได้ภายในปี 61 หากทุกอย่างสามารถเดินได้ตามขั้นตอน

       ส่วนกรณีทบทวนการปลดริษัท เบสท์ริน กรุ๊ป จำกัดออกจากบัญชีดำนั้น เป็นเรื่องที่มีความซับซ้อน และอยู่ระหว่างการพิจารณาของฝ่ายกฎหมาย เนื่องจาก ขสมก.เคยมีหนังสือแจ้งเรื่องการทิ้งงานไปเมื่อเดือน เม.ย. แต่กระทรวงคมนาคมมีการทักท้วงว่าขั้นตอนยังไม่ถูกต้อง กรณีมีคำสั่งว่าเบสรินทฺ์เป็นผู้ทิ้งงาน จึงได้ดำเนินการขั้นตอนใหม่ โดยให้แจ้งบริษัททราบว่าบริษัทอยู่ในข่ายถูกแบล็กลิสต์ และให้บริษัทชี้แจงเข้ามาก่อน โดย ขสมก.จะพิจารณาแง่กฎหมาย คาดว่าจะได้ข้อสรุปที่ชัดเจนก่อนที่จะประกาศว่ารายใดที่มีคุณสมบัติผ่านและมีสิทธิเสนอราคา

        "ต้องรอดูวันที่ยื่นซอง 24 ส.ค.ก่อนว่าจะมีมายื่นกี่ราย จากที่ซื้อซองไป 3 ราย หากไม่มีใครมายื่นเลย จะต้องยกเลิกประมูล หากจะประมูลใหม่จะต้องใช้เวลาประมาณ 2 เดือน ส่วนกรณีมียื่น 1 รายจะใช้วิธีการเจรจาได้ ดังนั้นยังมีเวลาพิจารณากรณีเบสท์รินฯ จนถึงวันที่จะเคาะราคา และตอนนี้เบสท์รินมีสิทธิ์ยื่นประมูล" นายณัฐชาติ  กล่าว

                              อินโฟเควสท์